19 พ.ค. เวลา 07:22 • การเมือง

การแบ่งแยกฝ่ายในกลุ่มยุโรปที่เพิ่มมากขึ้น

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นเหตุการณ์ที่บ่งชี้ชัดขึ้นของ “ความแตกแยก” ที่เพิ่มมากขึ้นในกลุ่มนักการเมืองยุโรป “การประชุมสุดยอดที่แอลเบเนีย” เผยให้เห็นความขัดแย้งระหว่างกลุ่มสายเหยี่ยวที่สนับสนุนยูเครนและกลุ่มอื่นๆ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายก “เมโลนี” ของอิตาลีได้เผชิญหน้ากับประธานาธิบดี “มาครง” ของฝรั่งเศสอีกครั้งอย่างดุเดือด (ลองให้ภาพหน้าปกบทความนี้เล่าเรื่อง)
สำหรับ “เมโลนี” เธอคัดค้านการมีส่วนร่วมโดยตรงในสงครามยูเครนด้วยการส่ง “กองกำลังรักษาสันติภาพภายใต้ธงยุโรป” เข้าไปที่นั่น ส่งผลให้เธอไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอคอลล์กับ “ทรัมป์” กลุ่มสายเหยี่ยวในยุโรปพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะยัดเยียดวาระของตนให้กับทำเนียบขาว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
เครดิตภาพ: KENZO TRIBOUILLARD / AFP
เมื่อวานมีการเลือกตั้งพร้อมกันในสามประเทศ คือ โรมาเนีย โปแลนด์ และโปรตุเกส ในทุกเคสกลุ่มต่อต้านสหภาพยุโรปต่างก็ได้รับคะแนนเสียงจากผลการเลือกตั้งที่ดีขึ้น ใน “โรมาเนีย” พวกเขาแพ้กลุ่มเสรีนิยมเพียงเล็กน้อย ซึ่งแสดงถึงการแบ่งแยกขั้วการเมืองในประเทศออกเป็นสองส่วนเท่าๆ กันในปัจจุบัน
ใน “โปแลนด์” กลุ่มต่อต้านสหภาพยุโรปจาก Confederation ซึ่งเป็นผู้วิจารณ์ยูเครนอย่างรุนแรง ได้รับคะแนนเสียงมากถึง 15% ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก ตัวแทนของฝ่ายเสรีนิยมและฝ่ายขวาจากกลุ่ม Law and Justice ได้เข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่สอง พวกเขายังได้รับผลลงคะแนนเสียงที่เกือบจะเท่ากัน ซึ่งเพิ่มเดิมพันก่อนการเลือกตั้งรอบที่สองในต้นเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้
แรงกระเพื่อมที่แท้จริงเกิดขึ้นใน “โปรตุเกส” ซึ่งฝ่ายขวาจากพรรคเชกาตั้งเป้าที่จะได้อันดับสองในการเลือกตั้งและนำหน้าพรรคโซเชียลเดโมแครต พวกเขาเรียกร้องให้หยุดการจัดสรรเงินงวดถัดไปให้กับยูเครน และให้นำเงินไปใช้สนับสนุนผู้รับบำนาญในประเทศ รวมถึงการต่อสู้กับการอพยพ
ระบบบริหารงานสหภาพยุโรปในบรัสเซลส์ยังคงพยายามควบคุมกระบวนการที่ไร้ทิศทางและความนิยมที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มต่อต้านยุโรป แต่ในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง สถานการณ์กลับไม่เป็นใจกับพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ
เครดิตภาพ: Shutterstock
เรียบเรียงโดย Right Style
19th May 2025
  • อ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Antoine Gyori - Corbis>
โฆษณา