Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย
•
ติดตาม
21 พ.ค. เวลา 11:32 • ท่องเที่ยว
กาฐมาณฑุ
มัดรวม 3 มรดกโลกของเนปาล พร้อมขบวนแห่ขอฝนที่ยิ่งใหญ่อลังการ
วันนี้เราจะแวะเที่ยวมรดกโลก 3 แห่งด้วยกัน โดย 2 แห่งอยู่ในเมืองหลวงกรุงกาฐมาณฑุ อีกหนึ่งแห่งจะอยู่ในเมืองใกล้ใกล้เพียงแค่ข้ามแม่น้ำไปได้แก่ ลิลิตปูร์หรือชื่อเดิมว่าพาตัน (Patan)
เจดีย์สวยัมภูนารถ
จุดแรกคือ วัดลิงหรือเจดีย์สวยัมภูนารถ(Swayambhunath) โดยก่อนที่จะเข้าไปชม จะต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่พอเราโชว์พาสปอร์ตและแจ้งว่าเป็นคนไทย ก็ได้รับส่วนลดราวครึ่งหนึ่ง
ภายในวัดลิง
ทำให้เพิ่งทราบว่า พาสปอร์ตไทยก็มีอำนาจและศักดิ์ศรีสูงกว่าพาสปอร์ตของสหรัฐและยุโรป เมื่อใช้กับประเทศเนปาล
ภายในวัดมีลิงมากสมชื่อ แต่ไม่ได้ถึงกับมากมายนัก ที่สำคัญลิงของเนปาลค่อนข้างน่ารัก ไม่ได้ดุร้ายหรือจ้องจะมารบกวนแย่งชิงข้าวของหรืออาหารจากผู้คน
ลูกแฝดเกาะอกแม่ลิง
สังเกตว่ามีลิงแม่ลูกอ่อนอยู่หลายตัวและตัวหนึ่งมีลูกแฝดเกาะหน้าอกด้วยน่ารักดีครับ
ลิงมาดื่มน้ำตรงจุดที่เป็นที่รู้กัน
ลิงจะแวะมากินน้ำตรงจุดที่เป็นรู้จักกันเองของหมู่ลิง สวยงามน่าเอ็นดูมาก
หน้าตาไร้เดียงสาของลูกลิง
เราเดินเท้าขึ้นไปบนยอดเนิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ โดยระหว่างทางจะเห็นวิวเมืองหลวงของเนปาลอย่างชัดเจน
ตัวเมืองหลวง กาฐมาณฑุ
โดยที่เนปาลนั้น มีที่ราบน้อย ประชากรจำนวน 27 ล้านคน อาศัยอยู่ในพื้นที่เพียงหนึ่งในห้าของไทย จึงถือว่ามีความหนาแน่นมากทีเดียว
บนยอดเขามีเจดีย์ที่สวยงาม และบรรยากาศรอบรอบ น่ารักน่าศรัทธา พร้อมกันมีเสียงพระเนปาลสวด ซึ่งแปลกหูไปกว่าของไทยเรา
เครื่องบินกับเจดีย์
มีเครื่องบินผ่านเป็นระยะ จึงได้ภาพเครื่องบินพร้อมเจดีย์ด้วย
จุดที่สองคือ จัตุรัสหนุมานโดกาเป็นมรดกโลกเช่นกัน มีขนาดย่อมกว่า Bhaktapur และสวยงามหย่อนลงมานิด แต่ยังคงมีความคุ้มค่าในการแวะชม ทั้งในเรื่องประวัติศาสตร์ ศาสนา ความเชื่อ วัฒนธรรม ประเพณี เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกมากมาย
ของที่ระลึกสีสันสดใสสวยงาม
จุดที่สามถือว่าเป็นไฮไลท์ของวันนี้ เพราะนอกจากจะได้เยี่ยมชมเมืองเก่าที่เป็นมรดกโลกแล้ว
ฝีมือปราณีตมากๆ
ณ จัตุรัส Paton Darbar ยังจะมีงานบูชาเทพแห่งฝนหรือเทศกาลขอฝน ซึ่งปีนึงมีเพียงครั้งเดียว
เรียกว่าเทศกาลราโต มัจฉินทรนาถ (Rato Machindranath) เป็นประเพณียิ่งใหญ่ประจำเมือง ควบกันระหว่างฮินดูกับพุทธเข้าด้วยกัน
2
สวยงามสมเป็นมรดกโลก
จตุรัสแห่งนี้มีความยิ่งใหญ่และเก่าแก่มากแห่งหนึ่งของเนปาล มีพระราชวังขนาดใหญ่ 3 ชั้น
หลังจากชำระค่าธรรมเนียมแล้ว เราสามารถเข้าไปเดินชมได้ทุกชั้น
วัตถุมีค่าทางประวัติศาสตร์ภายในพระราชวัง
รอบพระราชวัง มีโบราณสถาน ศาสนสถานที่เก่าแก่ยิ่งใหญ่ และมีความสำคัญมากอยู่หลายแห่ง
เมื่อเดินชมจนเป็นที่พอใจแล้ว อาบิ้นผู้ประสานงานทริปของเราครั้งนี้ เป็นคนเมืองนี้และปัจจุบันก็ยังอยู่อาศัยในเมืองนี้ด้วย ก็มาพบกับเราที่จุดนัดพบหน้าพระราชวัง
และได้อาสาพาเราเดินลัดเลาะ ไปตามเส้นทางพิเศษ ที่ทัวร์หรือทริปทั่วไปจะไม่รู้จัก ทำให้เราเดินหลบฝูงคนจำนวนมากมายแน่นขนัดไปได้
ล้อไม้ของราชรถสีสดใส
และเข้าถึงใจกลางของงาน ที่มีขบวนแห่มีลักษณะเป็นรถลากโบราณขนาดยักษ์ มีเสาสูงกว่าอาคาร 6 ชั้น
โดยเราเข้ามาถึงตัวราชรถ ซึ่งแม้กระทั่งประชาชนชาวเนปาลเอง ก็ยังเข้าถึงได้ยาก
เราได้ชื่นชมและถ่ายรูปกับราชรถแบบ Exclusive จริงๆ คือใกล้ชิดมากๆ มากกว่านักท่องเที่ยวและคนทั่วไปท้องถิ่น
เป็นโชคดีมาก มาจากฝีมือของคุณอาบิ้นโดยแท้
เมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้ว อาบิ้นยังแนะนำว่า เราไม่ควรยืนรอดูอยู่ที่ริมถนนซึ่งขบวนจะเคลื่อนผ่าน เพราะถนนค่อนข้างแคบและตัวราชรถค่อนข้างใหญ่จะเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมาก
จึงได้พาเราเดินมาถึงจุดไฮไลท์คือ ถนนที่หักข้อศอกแบบ 90 องศา ซึ่งจะเป็นจุดที่ตื่นเต้นที่สุดประจำเทศกาลทุกปี
ว่าคนที่ช่วยกันลากราชรถนับ 100 นับ 1000 คน นั้นจะสามารถดึงและลากให้เลี้ยวรถแบบหักศอก 90 องศาสำเร็จหรือไม่
คุณแม่และพี่สาวของอาบิ้น
โดยอาบิ้นได้พาเรามาที่บ้านคนรู้จักของคุณแม่และพี่สาว ซึ่งคุณแม่ก็ได้พาเราขึ้นไปยังอาคารสูง 6 ชั้น ซึ่งอยู่ตรงหัวมุมถนนหักข้อศอกดังกล่าวพอดี
เป็นโชคดีแบบสุดสุด ที่เราได้มาชมขบวนแห่ซึ่งมีเพียงปีละครั้ง แบบ Bird Eye View หรือมุมมองแบบโดรน
แล้วยังสามารถเลือกชมอยู่ในจุดที่เป็นไฮไลท์ของงานได้ โดยที่ไม่ต้องเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมากอีกด้วย
แต่ก็ต้องออกแรงกันนิดหน่อย ด้วยการเดินขึ้นบันไดไป 6 ชั้นรวด ไม่มีการพัก เพราะคุณแม่ของอาบิ้น เป็นคนเดินนำขึ้นบันไดรวดเดียว
เห็นเธอเดินทะมัดทะแมง ไม่พักเลย เราเลยต้องกัดฟันเดินตาม ไม่ให้เสียชื่อผู้สูงวัยคนไทยเช่นกัน โชคดีที่ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นทุนอยู่แล้ว จึงทำให้สามารถเดินขึ้นรวดเดียว 6 ชั้นได้
ภาพจากดาดฟ้าน่าตื่นตาตื่นใจมาก คนมาจากทั่วสารทิศ แบบมืดฟ้ามัวดิน เบียดเสียดยัดเยียดอยู่ในถนนแคบๆ ที่มีอาคารสูง 6 ชั้นขนาบข้างทั้งสองด้านของถนน
ราชรถจะถูกคนที่มีจิตศรัทธาอาสามาลากด้วยเชือกเส้นใหญ่มากๆ ให้เคลื่อนไปด้วยล้อไม้ขนาดยักษ์แบบโบราณ จึงต้องใช้จำนวนคนมาก เนื่องจากใช้แรงคนล้วนล้วน ไม่มีเครื่องจักรเครื่องยนต์ใดใดทั้งสิ้น
เวลารถจะเคลื่อนแต่ละที ก็จะมีเสียงเชียร์เฮเฮ เป็นระยะระยะ คอยให้กำลังใจ สนุกสนาน และมันมากๆ ได้อารมณ์จริงๆ
คนมารอชมอยู่บนดาดฟ้าเต็มไปหมด
มีผู้คนอยู่บนชั้นดาดฟ้าและหน้าต่างชั้นต่างๆของอาคารทั้งสองข้างเต็มไปหมด
เมื่อรถมาถึงโค้งหักศอก ก็มีปัญหาให้ตื่นเต้นจริงๆคือ จะทำอย่างไรให้รถที่ทั้งใหญ่และหนัก เครื่องยนต์ก็ไม่มี การหล่อลื่นก็ไม่มี เป็นล้อไม้ดิบๆฝืดน่าดู
มุมที่ต้องหักข้อศอก ทั้งลุ้นและทั้งตื่นเต้นสนุกสนาน
ผู้คนต่างออกแรงกันเต็มที่ ตามจังหวะของนักบวชที่อยู่บนรถคอยตะโกนสั่ง ให้ชื่อเส้นนี้ลากไปทางนี้ ให้เชือกเส้นโน้นลากไปทางโน้น
หวังผลให้รถหักเลี้ยวขวาให้สำเร็จ กว่าจะสำเร็จ ก็ต้องออกแรงกันอยู่หลายครั้ง สนุกสนานตื่นเต้นไม่รู้ลืมเลยครับ
ปิดท้ายของวันและของทริปเนปาลด้วยความประทับใจ เต็มอิ่มกับงานเทศกาลขอฝนในเมืองมรดกโลกที่ยิ่งใหญ่และเก่าแห่งหนึ่งของโลก
ท่องเที่ยว
ไลฟ์สไตล์
ข่าวรอบโลก
2 บันทึก
15
3
2
2
15
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย