Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนังกรอบๆ
•
ติดตาม
21 พ.ค. เวลา 12:26 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
ย้อนความทรงจำ Final Destination: เมื่อความตายออกแบบเอง จุดเริ่มต้น ตำนาน และการกลับมาในปี 2025
ผมจำได้ว่าผมซื้อตั๋วไปดูหนังเรื่อง Final Destination ภาคแรก 7 ต้องตาย โกงความตาย เมื่อปี พ.ศ. 2543 แล้วเดินออกจากโรงหนังด้วยความรู้สึกว่า โอ้ว..จอร์จ.. มันยอดมาก มันเป็นหนังสยองขวัญที่ สด..ใหม่.. และ มันส์ อย่างบอกไม่ถูก และ เป็นหนังที่ถูกนำมาเล่าต่อเนื่องมา หลายๆ ภาค จนถึงวันนี้ มาย้อนดูกัน มันมีมากี่ภาคแล้ว
Final Destination แต่ละภาคที่ผ่านมา
Final Destination (ไฟนอล เดสติเนชั่น) หรือในชื่อไทยว่า " ต้องตาย โกงความตาย]" เป็นภาพยนตร์สยองขวัญเหนือธรรมชาติที่สร้างปรากฏการณ์และกลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ภาพยนตร์สยองขวัญที่ประสบความสำเร็จและเป็นที่จดจำมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ด้วยพล็อตเรื่องอันเป็นเอกลักษณ์ว่าด้วยกลุ่มคนที่หลุดรอดจากอุบัติเหตุครั้งใหญ่ แต่กลับต้องเผชิญหน้ากับ "ความตาย" ที่ตามทวงคืนชีวิตพวกเขาอย่างชาญฉลาดและสยดสยอง
จุดเริ่มต้นแห่งตำนาน (2000)
ภาพยนตร์ Final Destination ภาคแรกออกฉายในปี ค.ศ. 2000 (พ.ศ. 2543) เนื้อเรื่องดั้งเดิมของภาพยนตร์เรื่องนี้มีที่มาจากบทภาพยนตร์ที่ไม่ได้ถูกนำไปสร้างสำหรับซีรีส์โทรทัศน์ชื่อดังอย่าง The X-Files เขียนโดย เจฟฟรีย์ เรดดิค ก่อนที่จะถูกพัฒนาต่อยอดโดย เจมส์ วอง และ เกล็น มอร์แกน ซึ่งรับหน้าที่กำกับและเขียนบทภาพยนตร์ตามลำดับ
แก่นของเรื่องราวในภาคแรกเล่าถึง อเล็กซ์ บราวนิง (รับบทโดย เดวอน ซาวา) นักเรียนหนุ่มที่กำลังจะเดินทางไปทัศนศึกษาที่ปารีสกับเพื่อนร่วมชั้น แต่เขากลับมองเห็นภาพนิมิตอันน่าสยดสยองว่าเครื่องบินที่พวกเขาโดยสารจะระเบิดกลางอากาศ
อเล็กซ์ตื่นตระหนกและพยายามเตือนทุกคน ทำให้เกิดความโกลาหลจนเขาและเพื่อนอีกจำนวนหนึ่ง รวมถึงครู ถูกไล่ลงจากเครื่องบิน และแล้วเครื่องบินลำนั้นก็ระเบิดขึ้นจริงๆ ตามนิมิตของอเล็กซ์ แต่เรื่องราวไม่จบเพียงแค่นั้น
เมื่อผู้รอดชีวิตแต่ละคนเริ่มเสียชีวิตลงอย่างปริศนาและน่าสยดสยองในอุบัติเหตุประหลาดต่างๆ อเล็กซ์และเคลียร์ ริเวอร์ส (รับบทโดย อาลี ลาร์เตอร์) หนึ่งในผู้รอดชีวิต จึงต้องพยายามไขปริศนาและหาทาง "โกงความตาย" ให้ได้ ก่อนที่มันจะมาถึงตัวพวกเขา
Final Destination ภาค 1
ความสำเร็จและเสียงตอบรับ
Final Destination ภาคแรกประสบความสำเร็จอย่างงดงามในด้านรายได้ โดยสามารถทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจากแค่พล็อตเรื่องที่แปลกใหม่และน่าติดตาม
แต่ยังรวมถึงฉากการตายที่สร้างสรรค์และน่าจดจำ ซึ่งกลายเป็นลายเซ็นของแฟรนไชส์นี้ในเวลาต่อมา แม้ว่าเสียงวิจารณ์จากนักวิจารณ์จะผสมผสานกันไป แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็สามารถสร้างฐานแฟนคลับได้อย่างเหนียวแน่นและจุดกระแสให้เกิดภาคต่อตามมาอีกมากมาย
จักรวาลแห่งความตาย: ภาคต่อและความสยองที่ต่อเนื่อง
ความสำเร็จของภาคแรกนำไปสู่การสร้างภาคต่อตามมาอีกหลายภาค โดยแต่ละภาคจะนำเสนอตัวละครกลุ่มใหม่ที่ต้องเผชิญหน้ากับอุบัติเหตุครั้งใหญ่และพยายามหนีจาก "แบบแผนของความตาย" ที่ถูกกำหนดไว้ โดยมีรายละเอียดของแต่ละภาคดังนี้:
* Final Destination 2 (โกงความตาย แล้วต้องตาย) (2003) : ภาคนี้เล่าเรื่องราวของผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนครั้งใหญ่บนทางหลวง ที่เริ่มต้นจากนิมิตของ คิมเบอร์ลี คอร์แมน (รับบทโดย เอ.เจ. คุก) ภาคนี้โดดเด่นด้วยฉากเปิดเรื่องที่น่าจดจำและยกระดับความสยองของฉากการตายให้ซับซ้อนยิ่งขึ้น
Final Destination ภาค 2
* Final Destination 3 (โกงความตาย เย้ยความตาย) (2006) : เรื่องราวในภาคนี้เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุรถไฟเหาะตีลังกาในสวนสนุก โดย เวนดี้ คริสเตนเซ่น (รับบทโดย แมรี่ อลิซาเบธ วินสตีด) เป็นผู้เห็นนิมิตและพยายามช่วยเพื่อนๆ ให้รอดชีวิต ภาคนี้มีการนำ "ภาพถ่าย" มาเป็นลางบอกเหตุการตายของแต่ละคน
Final Destination ภาค3
* The Final Destination (โกงตาย ทะลุตาย) (2009): เดิมทีถูกวางให้เป็นภาคสุดท้ายของแฟรนไชส์ ภาคนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีภาพยนตร์สามมิติ (3D) เพิ่มอรรถรสความหวาดเสียวให้กับผู้ชม เล่าเรื่องราวของกลุ่มเพื่อนที่รอดชีวิตจากอุบัติเหตุในสนามแข่งรถความเร็วสูง นำโดย นิค โอ'แบนนอน (รับบทโดย บ็อบบี้ แคมโป)
Final Destination ภาค 4
* Final Destination 5 (โกงตายสุดขีด) (2011): ภาคนี้ถือเป็นภาคย้อนอดีต (Prequel) ของภาคแรก โดยเล่าถึงกลุ่มพนักงานบริษัทที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์สะพานถล่ม นำโดย แซม ลอว์ตัน (รับบทโดย นิโคลัส ดีอกอสโต) ภาคนี้ได้รับคำชมว่าสามารถฟื้นคืนความสดใหม่ให้กับแฟรนไชส์ และมีตอนจบที่เชื่อมโยงกับภาคแรกได้อย่างน่าสนใจ
Final Destination ภาค 5
โดยสรุปแล้ว แฟรนไชส์ Final Destination
มีภาพยนตร์ออกมาแล้วทั้งหมด 5 ภาค ก่อนที่จะมีการประกาศสร้างภาคใหม่ล่าสุด
การกลับมาของความตาย: Final Destination 6 (2025)
ส่วนตัวผม ตื่นเต้นกับการประกาศสร้างภาพยนตร์ภาคที่ 6 ซึ่งมีชื่อว่า Final Destination: Bloodlines โดยมีรายงานว่าภาพยนตร์ภาคนี้จะนำเสนอเรื่องราวและมุมมองใหม่ๆ ให้กับแฟรนไชส์ แม้รายละเอียดเกี่ยวกับเนื้อเรื่องและนักแสดงจะยังถูกเก็บเป็นความลับ
แต่ก็มีการเปิดเผยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะกำกับโดย แซ็ค ลิปอฟสกี และ อดัม บี. สไตน์ และได้ จอน วัตส์ ผู้กำกับจาก Spider-Man ไตรภาค Homecoming มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์
สำหรับแฟนๆ ชาวไทย มีข่าวดีว่า Final Destination ภาคที่ 6 มีกำหนดเข้าฉายในประเทศไทยภายในปี 2025 ( 22 พค. 2568 )
การกลับมาครั้งนี้ของ Final Destination จึงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งว่าทีมผู้สร้างจะสามารถสร้างสรรค์ความสยองขวัญในรูปแบบใหม่ๆ และยังคงรักษาเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์ที่ว่าด้วย "ความตาย" ที่ตามล่าผู้รอดชีวิตอย่างไม่ลดละได้อย่างไร ต้องรอติดตามชมกันต่อไป.
Final Destination: เปิดตำนานหนีตาย ความสยองที่ไล่ล่าไม่สิ้นสุด
Final Destination ภาค 6 (ปี 2025)
โทนี่ ทอดด์ ผู้รับบท สัปเหร่อ ที่ชื่อ William Bludworth
พี่คนนี้ แกไปอยู่แทบทุกภาค ว่ากันว่าแกรู้เรื่องอย่างดีในเรื่อง รูปแบบการตาย ที่ติดตามตัวละครหลักไปอยู่
ภาพยนตร์
บันเทิง
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย