21 พ.ค. เวลา 15:24

เมื่อบึงบัวสะท้อนการท่องเที่ยว: จุดเปลี่ยนของนักท่องเที่ยวจีนในไทย

เข้าใจปรากฏการณ์ด้วยการคิดเชิงระบบ Systems Thinking
Lily Pond – โมเดล สัญญานเล็กๆ Small Signal กับจุดพลิกระบบ Tipping Point
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจการท่องเที่ยวไทย ด้วยจำนวนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนกลายเป็นกลุ่มหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตของภาคบริการและเศรษฐกิจท้องถิ่น แต่ในช่วงเดือนเมษายน–พฤษภาคม 2025 เราเริ่มเห็นภาพที่ตรงกันข้าม — จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงอย่างฉับพลัน และหลายฝ่ายเริ่มตั้งคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น?
“บึงบัว” กับการเติบโตที่ดูมั่นคง... ก่อนจะแปรเปลี่ยน
แนวคิดหนึ่งจากกระบวนการคิดเชิงระบบ Systems Thinking คือ บทเรียนจาก "บึงบัว" หรือ Lily Pond
โจทย์คือ:
ใบบัวในบึงขยายตัวเป็นสองเท่าทุกวัน และภายในวันที่ 30 ใบบัวจะปกคลุมบึงทั้งหมด 100%
คำถามที่น่าสนใจคือ: วันที่เท่าไรที่บึงจะถูกปกคลุมครึ่งหนึ่ง?
.
.
มีบางคนอาจตอบว่าวันที่ 15
คำตอบคือ: วันที่ 29
และ คำถามต่อมา วันที่ 15 มีใบบัวปกคลุมบึงเท่าไหร่
.
.
...ในวันที่ 15 จะมีใบบัวปกคลุมอยู่เพียง .0025% ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งแทบจะสังเกตไม่เห็นอะไร
นี่คือบทเรียนสำคัญว่ากระบวนการเติบโตแบบทวีคูณที่ตอนต้นอาจดูไม่มีอะไร จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน — นั่นคือ Tipping Point จุดพลิกระบบ
สถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนกับวงจรของระบบ
1. แรงขับเคลื่อนเชิงบวก - Reinforcing Loop: นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ประเทศไทยมีจุดแข็งทั้งด้านความคุ้มค่า วัฒนธรรมที่ใกล้ชิด และความสะดวกในการเดินทาง
- นักท่องเที่ยวที่เคยมา แชร์ประสบการณ์เชิงบวกต่อเนื่องผ่านโซเชียลมีเดีย
- ระบบนี้ขับเคลื่อนให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
2. แรงต้านที่มองไม่เห็น - Balancing Loop: ความท้าทายต่างๆ มุมมองจากเราและเขา
- ปัญหาความปลอดภัย: คดีหลอกลวง การรีดไถ การเอาเปรียบ การเลือกปฏิบัติ
- ข่าวสารเชิงลบจากสื่อจีน (เช่น Weibo, Xiaohongshu): การเหมารวมคนจีนว่าเป็น นักท่องเที่ยวจีนเทา
- ความกังวลมุมมองต่อนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงความไม่สบายใจต่อภาพลักษณ์ประเทศไทย กระบวนการยุติธรรม
แรงเหล่านี้สะสมพลังงานเงียบๆ อยู่ใต้ผิวน้ำ คล้ายใบบัวที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ไม่ทันสังเกต เป็น organic exponential growth เป็นการเติบโตโดยธรรมชาติอย่างก้าวกระโดด
จุดพลิกระบบ Tipping Point เมื่อแรงพลังงานสะสมเพิ่มขึ้น จนถึงจุดเปลี่ยน จากการเกิดเหตุการณ์สำคัญ เช่น คดีที่เป็นกระแสไวรัลในจีน หรือเนื้อหาวิจารณ์ที่แพร่กระจายรวดเร็วในโลกออนไลน์ สิ่งเหล่านี้กลายเป็น “ตัวเร่ง” ที่ทำให้สถานการณ์การรับรู้เปลี่ยนในทันที
จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เคยเติบโตดีอย่างต่อเนื่อง ก็อาจหันกลับมาสู่ภาวะถดถอยอย่างรวดเร็ว — เหมือนบึงบัวในวันที่ 29 ที่มีเพียงครึ่งหนึ่งของทั้งบึง กลายเป็นวันที่ 30 วันที่บึงถูกปกคลุมเต็มพื้นที่
บทเรียนเชิงระบบสำหรับผู้นำ :
1. ต้องฟังสัญญาณเล็กๆ ก่อนจะสายเกินไป
การมองข้ามข้อร้องเรียนเล็กๆ อาจทำให้เสียโอกาสในการแก้ไขก่อนถึง Tipping Point
2. การสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญเสมอ ตามตัวอย่าง ภาพลักษณ์ความปลอดภัยไม่ใช่แค่เรื่องการป้องกันภัย
ต้องจัดการ ทั้ง “ความจริง” - มาตรการด้านความปลอดภัย และ “ความเชื่อมั่น ความรู้สึก” สื่อสารผ่านช่องทางที่นักท่องเที่ยวจีนใช้จริง ทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ
3. ควรให้ความสำคัญกับการคิดเชิงระบบ รับรู้ว่าเราไม่รู้ทุกเรื่อง ไม่ใช่เพียงการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
การท่องเที่ยวจีนเป็นระบบที่ซับซ้อน มีทั้งแรงเสริมและแรงต้าน ต้องดูองค์ประกอบทั้งหมด ไม่ใช่โปรโมชั่นระยะสั้น เพียงเพื่อเพิ่มจำนวนเที่ยวบินหรือลดราคาที่พัก หรือตั๋วเครื่องบิน
ผู้นำควรให้ความสำคัญกับสัญญานเล็กๆ ควรตระหนักถึงความเป็นไปได้ที่ “ใบบัว” จะปกคลุมบึงทั้งบึง
พยายามสังเกตมองเห็นใบบัวตั้งแต่ยังมีเพียงไม่กี่ใบ และเข้าใจว่าระบบมีจุดเปลี่ยนที่อาจมาถึงเร็วกว่าที่เราคิด
#SystemsThinking
#การคิดเชิงระบบ
#LilyPond
#บึงบัว
#SmallSignal
#สัญญาณเล็กๆ
#TippingPoint
#จุดพลิกระบบ
โฆษณา