ลงทุน 1,000 ล้าน สร้าง"กระเช้าภูกระดึง" ยันรบกวนธรรมชาติน้อยที่สุด (คลิป)
คนไทยเตรียมตัวนั่ง “กระเช้าภูกระดึง” โครงการที่มีการพูดคุยถกเถียงกันมายาวนานหลายสิบปี วันนี้กำลังจะเกิดขึ้นจริง
ล่าสุดวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ร่วมกันแถลงถึง โครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าภูกระดึง
สำหรับไทม์ไลน์คร่าวๆ จะเริ่มออกแบบก่อสร้างในเดือนพฤษภาคม 2568 นี้ โดยจะมีการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) อย่างละเอียด รับฟังความเห็นประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และขออนุญาตการก่อสร้างต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จากนั้นจึงเริ่มก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดใช้งานอย่างเร็วที่สุดในพฤศจิกายน 2570 ด้วยแนวคิด Tourism for All ให้คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสภาพร่างกาย สามารถเดินทางไปเที่ยวได้
โครงการนี้หากก่อสร้างได้แล้วเสร็จ คาดใช้งบประมาณราว 1 พันล้านบาท โดยเป็นกระเช้า 8 ที่นั่ง จำนวน 32 กระเช้า เส้นทางยาว 4.5 กิโลเมตร ตั้งเสาทั้งหมด 12 ต้น ขนาด 6x6 เมตร พร้อมยืนยันว่าเส้นทางกระเช้าจะไม่บดบังทัศนียภาพหลักของเส้นทางเดินเท้า โดยจะมีศูนย์เปลี่ยนถ่ายการจราจร-จุดจอดรถ ห่างจากสถานีกระเช้า 3.5 กิโลเมตร มีชัตเทิลบัสให้บริการรับ-ส่ง
ในส่วนของข้อกังวลว่า การสร้างกระเช้าจะกระทบต่อธรรมชาติ ทำลายอาชีพลูกหาบ และทำให้เสน่ห์ของการพิชิตภูกระดึงหายไปหรือไม่นั้น
นายสรวงศ์ ยืนยันว่าในการก่อสร้างมีการรับฟังความเห็นของชาวบ้านในพื้นที่ อุทยาน และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด มีการทำ EIA อย่างเข้มงวด และออกแบบก่อสร้างให้กระทบธรรมชาติน้อยที่สุด ซึ่งเมื่อมีกระเช้าจะทำให้การค้างแรมบนยอดภูลดลง ทำให้ขยะลดลง และสามารถขนขยะลงมากำจัดได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสที่สัตว์ป่าจะมาหาอาหารใกล้แหล่งท่องเที่ยว ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศในระยะยาว
ส่วนลูกหาบ ยังสามารถรับลูกค้าสายเดินเท้าได้เช่นเดิม ซึ่งปัจจุบันลูกหาบก็มีจำนวนน้อยลงมากอยู่แล้วเนื่องจากส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว นอกจากนี้บริเวณสถานีและศูนย์เปลี่ยนถ่ายจราจรจะเปิดให้ใช้พื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยจะจัดสรรให้ชาวบ้านและผู้ได้รับผลกระทบ เช่น ลูกหาบ เป็นอันดับแรก
ในประเด็นเสน่ห์ของภูกระดึง มองว่าจะยังคงอยู่ และจะดีขึ้นด้วยซ้ำ จากเส้นทางเดินเท้าที่มีคนลดลง ได้บรรยากาศการเดินอย่างสงบและปลอดภัยมากขึ้น
คาดหวังว่าเมื่อมีกระเช้า จะทำให้ยอดนักท่องเที่ยวซึ่งแต่เดิมอยู่ที่ 65,000 คนต่อปี เพิ่มขึ้นราว 1 เท่าตัว แต่จะไม่ใช่การเพิ่มจำนวนของนักท่องเที่ยวบนยอดภูจนเกิน Carrying Capacity (ขีดความสามารถในการรองรับ) และรบกวนธรรมชาติ แต่เพิ่มให้มีการหมุนเวียนมากขึ้น จากการไปเที่ยวแบบไป-กลับในวันเดียว กระจายรายได้สู่ชุมชนโดยรอบ และทำให้การท่องเที่ยว จ.เลย และจังหวัดข้างเคียงคึกคักมากขึ้นด้วย
- 20
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
