23 พ.ค. เวลา 09:38 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 252 มังกรเตรียมปล่อยวาง

ซ่งเจียงใช้จวนอ๋องเป็นที่ว่าการ สั่งการให้ช่วยดับไฟ ห้ามเข่นฆ่าราษฎร และออกประกาศปลอบขวัญชาวเมืองซูโจว
ถัดจากนั้น พวกทหารนำผลงานมาลงบันทึก อู่ซงได้หัวฟางเม่า จูถงจับเป็นสวีฟาง สื่อจิ้นจับเป็นเจินเฉิง ซุนลี่ใช้กระบองฟาดจางเวยตาย หลี่จวิ้นใช้ทวนแทงชางเสิ้งตาย ฝานยุ่ยสังหารอูฝู เซวียนจ้านสู้กับกวอสื้อกว่าง บาดเจ็บถึงตายทั้งคู่ที่สะพานอิ๋นหม่า 饮马桥 ที่เหลือบ้างจับได้ขุนพลโทมาเป็นผลงาน
ซ่งเจียงต้องมาเศร้าเสียใจอีกครั้งเมื่อรู้ว่าได้เสียเขยเจ้าอัปลักษณ์เซวียนจ้านไปอีกคน จึงให้นำร่างไปฝังที่เชิงเขาหู่ชิว 虎丘山 และให้นำศีรษะฟางเม่า เชลยสวีฟาง เจินเฉิงส่งไปให้จางเจาเถ่าที่ฉางโจวพิจารณา
จางเจาเถ่าให้ลงโทษแล่เนื้อสวีฟาง เจินเฉิงกลางตลาด ศีรษะฟางเม่าให้ส่งไปเมืองหลวง จางเจาเถ่ามอบรางวัลกลับมามอบให้ทหารที่มีความดีความชอบ และทูลฮ่องเต้ให้แต่งตั้งหลิวกวงสื้อ 刘光世 มารักษาเมืองซูโจว ให้ซ่งเจียงเดินหน้าบุกรังโจรต่อไป
ทหารรายงานว่า “หลิวตูตู เสนาธิการเกิ่งมาถึงซูโจวแล้ว”
ซ่งเจียงไปรับหลิวกวงสื้อเข้าเมืองมายังจวนอ๋อง แล้วซ่งเจียงก็ย้ายไปบัญชาการยังที่ว่าการเมือง
ซ่งเจียงให้คนไปสอบถามความคืบหน้าของการรบตามหัวเมืองชายฝั่ง บรรดาเมืองชายฝั่งพอรู้ว่าซูโจวแตก เจ้าเมืองก็พากันหนี บัดนี้ล้วนราบคาบลง ซ่งเจียงยินดียิ่ง รายงานแก่จางเจาเถ่า ขอให้จัดการเรื่องการแต่งตั้งเจ้าเมืองไปรักษาหน้าที่ ส่งทหารจากส่วนกลางไปประจำการ แล้วให้ทัพเรือกลับมาสมทบกับตนที่ซูโจว
หลายวันต่อมา กองทัพเรือมาถึง สามหย่วนแจ้งว่า ระหว่างการรบชิงเมืองฉางสู 常熟 เสียซือเอินไป ระหว่างการรบชิงเมืองคุนซาน 昆山 เสียข่งเลี่ยงไป ทั้งคู่จมน้ำตายด้วยต่างว่ายน้ำไม่เป็น ซ่งเจียงพอรู้ว่าเสียพี่น้องไปอีกสองคน ก็ทอดถอนใจ อู่ซงคิดถึงความหลังครั้งพบกับซือเอิน อดไม่ได้ต้องร้องไห้
1
เฟ่ยเป่าและพวกทั้งสี่มาอำลาซ่งเจียงเพื่อเดินทางกลับ ซ่งเจียงพยายามรั้งตัวไว้ แต่พวกเฟ่ยเป่ายืนยันขอลากลับ ซ่งเจียงจึงมอบรางวัลอย่างงาม และให้หลี่จวิ้นไปส่งทั้งสี่ถึงบ้านหวีหลิ่ว หลี่จวิ้นพาถงเวย ถงเหมิ่งไปส่งด้วย พอถึงบ้านหวีหลิ่ว เฟ่ยเป่าก็ให้จัดสุราอาหารมาเลี้ยงรับรองกัน
ระหว่างกินดื่ม เฟ่ยเป่ากล่าวกับหลี่จวิ้นว่า
“แม้ผู้น้องจะโง่เขลา ก็ยังเคยได้ยินคำปราชญ์ว่า
世事有成必有败,为人有兴必有衰。
ธรรมดาโลก มีชำนะย่อมมีอัปรา
สามัญชน มีรุ่งเรืองย่อมมีโรยรา
พี่ท่านสร้างผลงานที่เขาเหลียงซานอยู่สิบกว่าปี รบร้อยครั้งมีชัยร้อยหน ไปตีได้เมืองเหลียว ไม่เสียพี่น้องแม้แต่ผู้เดียว ครั้งนี้มาตีฟางล่า ต้องเสียทีพลาดท่าด้วยชะตาฟ้ากำหนด
ส่วนสาเหตุที่ผู้น้องไม่อยากเป็นขุนนาง ก็เพราะสังคมโลกนี้ช่างวุ่นวาย หากวันใดสุขสันติ ผู้คนก็จะหันมามุ่งร้ายหมายชีวิต โบราณว่า
太平本是将军定,不许将军见太平。
ขุนพลวางรากฐานสร้างสันติ
หากสันติขุนพลมิอาจชื่นชม
คำกล่าวนี้แหลมคมยิ่ง
พวกผู้น้องทั้งสี่ร่วมสาบานผูกพันกับท่านพี่ทั้งสาม ไยมิฉวยโอกาสที่อายุขัยยังไม่สิ้น หาถิ่นพำนักซึ่งอาจปล่อยวางทุกสิ่ง ใช้เงินทุนสักก้อน ต่อเรือสักลำ รวบรวมลูกเรือ ล่องนทีท่องสมุทร หาที่สุขสงบพักพิงกายกว่าวันสุดท้ายแห่งชีวิต มิประเสริฐยิ่งหรือ”
หลี่จวิ้นได้ฟัง ถึงกับก้มกราบแล้วว่า
“ช่างเหมือนพี่ผู้อารีชี้ทางสว่างแก่ผู้งมงายลุ่มหลง งดงามยิ่งนัก แต่เรื่องจับฟางล่ายังมิเสร็จสิ้น ท่านซ่งกงหมิงเป็นผู้มีพระคุณที่มิอาจทอดทิ้ง จึงยังมิอาจทำเช่นนั้นได้ หากติดตามน้องเราไปเสียแต่วันนี้ เท่ากับผิดต่อคุณธรรมน้ำมิตรที่ผูกพันต่อกัน
หากพวกท่านยอมรอหลี่จวิ้นให้จัดการเรื่องฟางล่าให้เสร็จสิ้น หลี่จวิ้นจะนำน้องทั้งสองนี้มาด้วย หว้งอย่างยิ่งว่าจะยินดีให้ร่วมทาง ระหว่างนี้ขอให้พวกน้องเราตระเตรียมลู่ทางเอาไว้ก่อน หากหลี่จวิ้นผิดคำพูดในวันนี้ สวรรค์คงรังเกียจว่าหาใช่ชายชาตรี”
ทั้งสี่ว่า “พวกเราจะจัดเตรียมเรือ รอวันพี่ท่านมา ขออย่าได้ลืมนัดหมาย”
หลี่จวิ้น เฟ่ยเป่า ดื่มเหล้าสาบานนัดหมาย จะไม่กลับกลายคำสัญญา
了身达命蟾离壳,立业成名鱼化龙。
จักจั่นลอกคราบ ปล่อยวางบ่วงอาวรณ์
มัจฉากลายมังกร สำเร็จกิจลือนาม
วันรุ่งขึ้น หลี่จวิ้นอำลาพวกเฟ่ยเป่าทั้งสี่ พาถงเวย ถงเหมิ่งกลับมาหาซ่งเจียง แล้วเล่าว่า พวกเฟ่ยเป่าไม่อยากรับราชการเป็นขุนนาง พอใจจับปลาหาเลี้ยงชีพ ซ่งเจียงจึงได้แต่ถอนหายใจ แล้วสั่งให้กองทัพใหญ่ออกเดินทาง อำเภออู๋เจียง 吴江县 บัดนี้ไม่มีพวกโจรเฝ้ารักษา ซ่งเจียงจึงยึดตำบลผิงว่าง 平望镇 ไว้ได้โดยง่าย จากนั้นมุ่งหน้าสู่สิ้วโจว 秀州
ต้วนไข่ 段恺 ขุนพลผู้รักษาเมืองสิ้วโจว เมื่อรู้ว่าซูโจวแตก อ๋องใหญ่สามฟางเม่าถูกสังหาร ก็คิดแต่จะทิ้งเมืองหาทางหนี ให้ทหารออกลาดตระเวน กลับมารายงานว่ากองทัพใหญ่ยกมาทั้งทางบกทางเรืออยู่ห่างเมืองไม่ไกลนัก ธงทิวบังตะวัน ม้าและเรือเรียงกันแน่นขนัด ต้วนไข่ก็ขวัญหนี พอทัพหน้านำโดยกวนเสิ้ง ฉินหมิงมาถึงเชิงกำแพง ทัพเรือเข้าประชิดประตูเมืองตะวันตก ต้วนไข่ขึ้นไปบนกำแพงเมือง ตะโกนบอกว่า
“ไม่ต้องเข้าตี กำลังเตรียมสวามิภักดิ์”
ต้วนไข่สั่งให้เปิดประตูเมือง ตั้งโต๊ะดอกไม้ธูปเทียน จูงแพะหาบสุรามารอรับแม่ทัพซ่งเจียงเข้าเมือง แล้วนำทางไปพักยังที่ว่าการเมือง ต้วนไข่เข้าพบแล้วแจ้งว่า
“พวกของไข่ เดิมทีเป็นชาวเมืองมู่โจว 睦州 ถูกฟางล่าระรานจนจำต้องยอมเป็นลูกน้อง บัดนี้กองทัพสวรรค์มาถึง มีหรือจักไม่สวามิภักดิ์”
ซ่งเจียงซักรายละเอียดว่า “เมืองหนิงไห่ หางโจว 杭州宁海军 เป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รักษา มีกำลังทหารและขุนพลอยู่เท่าใด”
ต้วนไข่ว่า “กำแพงเมืองหางโจวยาวและกว้าง ประชากรหนาแน่น ทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีเส้นทางบก ทิศใต้ติดแม่น้ำใหญ่ ทิศตะวันตกเป็นทะเลสาป ผู้รักษาเมืองคือ หนานอานอ๋องฟางเทียนติ้ง 南安王方天定 รัชทายาทองค์โตของฟางล่า มีกำลังทหารเจ็ดหมื่น ยี่สิบสี่ขุนพล สี่จอมพล รวมเป็นยี่สิบแปดนาย
ที่นับว่ามีฝีมือระดับพระกาฬสองนาย หนึ่งเป็นสงฆ์ชาวเส้อโจว 歙州 ฉายาหยูไหลทรงกลด 宝光如来 มีแซ่ฆราวาสว่า เติ้ง 邓 ฉายาธรรมว่า หยวนเจว๋ 元觉 ใช้ไม้ขักขระเหล็กหนักห้าสิบกว่าชั่งเป็นอาวุธ คนเรียกท่านว่าราชครู
อีกนายหนึ่งเป็นชาวเมืองฝูโจว 福州 แซ่สือ 石 ชื่อเป่า 宝 ใช้ค้อนดาวตก 流星锤 เป็นอาวุธ ขว้างร้อยครั้งถูกร้อยครั้ง และยังใช้ดาบวิเศษอีกเล่มเรียกว่า ดาบสลาตัน 劈风刀 (พีเฟิงเตา) ตัดเหล็กตัดโลหะ ผ่าเกราะหนาสามชั้นง่ายดายเหมือนลมสลาตันพัดผ่าน
ส่วนอีกยี่สิบหกคนก็ล้วนฝีมือระดับแนวหน้า อีกทั้งกล้าหาญ ท่านแม่ทัพอย่าได้ประมาท”
ซ่งเจียงฟังจบ มอบรางวัลให้ต้วนไข่ แล้วให้ต้วนไข่เดินทางไปพบและรายงานตัวต่อจางเจาถ่า จางเจาเถ่าให้ต้วนไข่อยู่ช่วยรักษาเมืองซูโจว และให้ตูตูหลิวกวงสื้อย้ายมารักษามืองสิ้วโจว ซ่งเจียงยกทัพไปตีเมืองหางโจว ตั้งค่ายอยู่ที่ กุ้ยหลี่ถิง 槜李亭
ระหว่างกินเลี้ยงและร่วมหารือกับเหล่าพี่น้องถึงการตีเมืองหางโจว พายุหมุนน้อยไฉจิ้นลุกขึ้นกล่าวว่า
“นับแต่พี่ท่านช่วยชีวิตผู้แซ่ไฉที่เมืองเกาถัง ทั้งยังเมตตาช่วยเหลือตลอดมา ยังไม่มีโอกาสได้ตอบแทนพระคุณ ครั้งนี้เป็นโอกาสให้ผู้แซ่ไฉได้อาสาเข้ารังฟางล่าไปเป็นไส้ศึกเพื่อสร้างผลงานแทนคุณราชสำนักและเสริมบารมีให้พี่ท่าน มิทราบพี่ท่านจะอนุญาตหรือไม่”
ซ่งเจียงชอบใจยิ่งนักว่า “หากได้ท่านขุนนางใหญ่แฝงตัวเข้ารังโจรสืบรู้ชัยภูมิตื้นลึกหนาบาง จะได้ส่งทัพเข้าจับกุมฟางล่าส่งตัวเข้ากรุง สำเร็จงานใหญ่ ได้เสพสุขกันถ้วนหน้า แต่เกรงว่าลู่ทางลำบาก น้องเราจะทำไม่ได้”
ไฉจิ้นว่า “ชีพพลีเพื่องานนี้ แต่หากได้เอี้ยนชิงมาร่วมด้วยยิ่งดี ด้วยว่าคนผู้นี้รู้ภาษาหลายสำเนียง อีกทั้งรู้จักปรับตัวรับเหตุการณ์เฉพาะหน้า”
ซ่งเจียงว่า “น้องเรากล่าวเช่นนี้ มีหรือจะไม่อนุญาต แต่เอี้ยนชิงตอนนี้อยู่กับแม่ทัพหลู ต้องทำหนังสือไปขอตัวมา”
ทหารเข้ามารายงานว่า “ท่านแม่ทัพหลูให้เอี้ยนชิงมารายงานข่าวชัยชนะ”
ซ่งเจียงชอบใจใหญ่ว่า “น้องเราไปครานี้ งานใหญ่เห็นทีสำเร็จแน่ เอี้ยนชิงช่างมาได้เหมาะเจาะ นับเป็นลางที่ดี” ไฉจิ้นก็ชอบใจ
เอี้ยนชิงเข้ามาในกระโจม คารวะซ่งเจียงแล้วเข้าร่วมรับประทานอาหารจนอิ่ม
ซ่งเจียงถามว่า “น้องเรามาทางน้ำหรือทางบก”
เอี้ยนชิงว่า “นั่งรถราชการ 乘传 มาที่นี่”
ซ่งเจียงถามต่อว่า “ไต้จงกลับมาเที่ยวที่แล้ว บอกว่ากำลังยกทัพไปตีหูโจว เรื่องเป็นเช่นไร”
เอี้ยนชิงว่า
“พอออกจากเซวียนโจว ท่านแม่ทัพหลูก็แบ่งกำลังทหารออกเป็นสองทัพ
ทัพแรกท่านแม่ทัพนำทัพเอง นำกำลังครึ่งหนึ่งบุกตีหูโจว สังหารกงเวิน 弓温 ผู้รักษาเมืองกับขุนพลรองทั้งห้า ชิงเมืองหูโจวได้ ทำการปลอบขวัญราษฏร แล้วทำรายงานส่งท่านจางเจาเถ่าให้ส่งคนมารักษาเมืองและให้เอี้ยนชิงมารายงานข่าวชัยชนะ
อีกทัพหนึ่งให้หลินชงนำกำลังครึ่งหนึ่งโจมตีด่านตู๋ซง 独松关 แล้วนัดพบกันที่หางโจว ระหว่างที่ผู้น้องเดินทางมาที่นี่ ทราบมาว่ายังคงมีการรบกันอยู่ที่ด่านตู๋ซงทุกวัน แต่ยังตีไม่แตก ท่านแม่ทัพหลูกับจูอู่จึงยกทัพไปช่วย ให้ฮูหยันจว๋อนำกำลังทหารรักษาเมืองหูโจวรอท่านจางเจาเถ่าส่งคนมารักษาเมืองแทนแล้ว จึงให้ยกทัพไปตีอำเภอเต๋อชิง 德清县 ได้แล้วมาพบกันที่หางโจว”
ซ่งเจียงถามอีกว่า “กองทัพที่รบอยู่ที่ด่านตู๋ซง และกองทัพของฮูหยันจว๋อที่อยู่หูโจวเตรียมไปตีเต๋อชิง แต่ละแห่งมีขุนพลอยู่กี่คน เจ้าช่วยบอกชื่อมาที”
เอี้ยนชิงว่า “มีรายชื่ออยู่นี่
กองทัพที่รบอยู่ที่ด่านตู๋ซงมียี่สิบสามขุนพล ท่านแม่ทัพหลูจวิ้นอี้ จูอู่ หลินชง ต่งผิง จางชิง เซี่ยเจิน เซี่ยเป่า หลวี่ฟาง กวอเสิ้ง โอวเผิง เติ้งเฟย หลี่จง โจวทง โจวยวน โจวยุ่น ซุนซิน กู้ต้าเส่า หลี่ลี่ ไป๋เสิ้ง ทังหลง จูกุ้ย จูฟู่ สือเชียน
กองทัพที่อยู่รักษาหูโจวขณะนี้ เตรียมยกไปตีเต๋อชิงมีสิบเก้าขุนพล ฮูหยันจว๋อ สว่อเชา มู่หง เหลยเหิง หยางสยง หลิวถัง ซ่านถิงกุย เว่ยติ้งกว๋อ เฉินต๋า หยางชุน เซวียหย่ง ตู้เชียน มู่ชุน หลี่หยุน สือหย่ง กงว่าง ติงเต๋อซุน จางชิง ซุนเอ้อเหนียง
ทั้งสองทัพมีขุนพลรวมสี่สิบสองนาย กำหนดไว้ตามนั้น เมื่อตอนที่ผู้น้องออกเดินทางมา”
ซ่งเจียงว่า “จัดสรรกำลังได้เหมาะสมดียิ่ง เมื่อครู่ท่านขุนนางใหญ่ไฉขอตัวเจ้าร่วมแฝงตัวเข้ารังฟางล่าไปเป็นไส้ศึก เจ้ากล้าไปไหม”
เอี้ยนชิงว่า “ท่านแม่ทัพมีบัญชา ย่อมต้องปฏิบัติตาม ผู้น้องยินดีร่วมงานกับท่านขุนนางใหญ่ไฉ”
ไฉจิ้นชอบใจยิ่งว่า “ข้าจะแต่งตัวเป็นบัณฑิตชุดขาว เจ้าเป็นคนใช้ นายบ่าวขนพิณกระบี่หีบตำรา คงไม่มีคนสงสัย ไปหาเรือที่ชายฝั่งล่องไปยังเยว่โจว 越州 เดินตามทางน้อยไปยังอำเภอจูจี้ 诸暨县 จากที่นั่นเดินตามทางภูเขาไปยังมู่โจว 睦州 ไม่ไกลแล้ว”
ไฉจิ้น เอี้ยนชิงลาซ่งเจียงไปจัดข้าวของเดินทางตามกำหนด
ตอนก่อนหน้า : พี่น้องร่วมสาบานที่ไท่หู
ตอนถัดไป : เสียหมอเทวดา มือทวนทอง
โฆษณา