25 พ.ค. เวลา 09:33 • การเมือง

งบตกใจที่ไร้ผล มาตรการเร่งด่วนที่สูญเปล่า

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ข้าราชการทั้งประเทศได้รับคำสั่งจากต้นสังกัดให้รีบส่งโครงการเร่งด่วนภายในที่ 26 พ.ค. 68 เพราะต้นสังกัดเองต้องเอาไป process ต่อและนำส่งภายใน 29 พ.ค. เพื่อเร่งใช้งบ 1.57 แสนล้านบาททันที นั่นหมายความว่า หน่วยงานมีเวลาทำงานสำหรับงบก้อนนี้เพียง 3 วัน
คำสั่งนี้เกิดขึ้นจากบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบทันที ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเนื่องจากไม่สามารถจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ท 10,000 บาทเฟสต่อไปได้อีกหรือป่าว ก็เลยต้องหาทางกระตุ้นเศรษฐกิจแบบอื่น และเมื่อคิดอะไรไม่ออก วิธีที่ง่ายที่สุดคือเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยกำหนดให้ทุกหน่วยงานภาครัฐเร่งทบทวนและนำเสนอโครงการลงทุนและจ้างงานซึ่งเป็นโครงการเดิมหรือโครงการใหม่ก็ได้เพื่อหวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
เมื่อคำสั่งออกมาแบบนี้ หน่วยงานรัฐทุกหน่วยงานต่างต้องกลับไปค้นโครงการเก่าๆ มาของบให้ทันภายใน 3 วัน รวมวันหยุดสุดสัปดาห์
แน่นอน แม้ว่าคำสั่งจะออกมาว่าเป็นได้ทั้งโครงการเก่าและโครงการใหม่ แต่การที่จะคิดใหม่ให้ทันนั้นเป็นไปได้ยากมาก เพราะหน่วยงานรัฐต่างทราบดีว่าการเติมข้อมูลตามแบบฟอร์มขอโครงการตามระเบียบราชการนั้นมีรายละเอียดเยอะมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นโครงการที่เกี่ยวกับการก่อสร้างจะต้องมีแบบพร้อม ซึ่งไม่ว่า 3 วันหรือ 6 วันก็ไม่มีทางทัน
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการนำโครงการเก่าที่มีข้อมูลพร้อมแล้ว ทั้งที่รอเวลาทำและที่เคยถูกตีตกไปกลับมาขอใหม่ ส่วนโครงการใหม่นั้น ถ้าจะเป็นไปได้จริงๆ ก็ต้องเป็นโครงการใหม่ทำข้อมูลทุกอย่างรอพร้อมไว้แล้ว ซึ่งในภาครัฐจะมีเพียงไม่กี่หน่วยงานที่ทำโครงการรอไว้ แต่หากเป็นหน่วยงานส่วนใหญ่อาจต้องไปหาจากภาคเอกชนที่รู้จักกันดี ซึ่งก็มักจะมีเพียงไม่กี่กลุ่มที่มี connection กับหน่วยงานรัฐและพร้อมสนับสนุนหน่วยงานรัฐที่ต้องการความช่วยเหลือในเวลานี้
ในแง่ของประโยชน์ที่จะตกอยู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ เนื่องจากรัฐกำหนดว่าต้องเร่งดำเนินการภายใน 6 เดือน ดังนั้นโครงการต่างๆ ที่ส่งเข้ามาส่วนใหญ่จะเป็นโครงการขนาดเล็กและเป็นโครงการลักษณะเบี้ยหัวแตก ไม่ใช่โครงการที่เอามาเชื่อมโยงให้เกิด impact ขนาดใหญ่ได้ เงินก้อนเดียวกันนี้จึงไม่ส่งผลต่อการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศไม่ต่างจากการแจกเงิน 10,000 บาท และที่อาจจะแย่กว่าคือเงินก้อนนี้กระจายลงไปอยู่เฉพาะกับคนที่รับงานจากภาครัฐเท่านั้น
หลายคนอาจบอกว่าอย่างน้อย การใส่เงินลงไปแบบนี้อาจจะยังทำให้มีโครงสร้างพื้นฐานเล็กๆ แทนการแจกเงินแล้วหายไป แต่ในความเป็นจริง เนื่องจากเป็นงบเร่งให้รีบส่ง โครงการจำนวนมากอาจกลายเป็นงบซ่อมแซม หรือบางโครงการอาจจะแย่ไปถึงการที่แม้แต่ของเดิมไม่ได้มีปัญหาอะไรก็ทุบทิ้งสร้างใหม่ ไม่ต่างอะไรจากการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลอาจไม่ได้คำนึงถึงให้รอบคอบแต่เพราะข้าราชการต้องเอาตัวรอดเพราะต้องเสนอโครงการให้ทัน
ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ ทำให้มาตรการที่ข้าราชการรู้จักกันดีในชื่อ “งบตกใจ” ซึ่งมีในเกือบทุกรัฐบาลจึงไม่เคยประสบความสำเร็จ แต่ทุกรัฐบาลก็ยังใช้วิธีนี้อยู่และทำให้ประเทศต้องสูญเสียทรัพยากรอันมีค่าไปกับความต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ให้ผลเพียงเล็กน้อยและไม่ทำให้ประเทศมีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
โฆษณา