เรืองอริสัจสี่ สองข้อแรก เป็นเส้นทางของทุกข์ เดินบนพื้นที่มีแต่ทุกข์ สองข้อ หลัง เส้นทางที่จะหนีทุกข์ บรรเทาทุกข์ ไปจนพ้นทุกข์ เรื่องราวที่ทำอย่างไร ให้กายที่มีกรรม เป็นกายของผู้ที่มีบุญกุศลบารมี จะได้มีกายที่เบาบางจากทุกข์
เรื่องที่ว่าชีวิตเกิดมา มันมีวงกลม เหนือศีรษะ วงวัฏฏะ เหมือนอยู่บนศีรษะ วนเวียนเป็นวงกลม โลภโกรธหลง ..ก็มีเส้นสีเหลืองพาดผ่านวงวัฏฎะ เป็นเส้นสีเหลือง เหมือนบอกว่า เมื่อเกิดมา พบศาสนา ก็ศึกษาศาสนา นำกายวาจาใจ มาอยู่ในรอย คำสอนศาสนา นำกายมาสร้างบุญกุศลบารมี ก็จะบรรเทาทุกข์
คราวนี้ เราก็ลองดู ไปดูก็ได้ ..คนที่เค้าว่า รู้ ปฏิจจสมุทปบาท .. มันวนเวียน รู้จักได้ จดจำได้ พิจารณาได้ แล้วมันบรรเทาทุกข์ได้จริงหรือ
คราวนี้ เราก็มาทบตัวเอง ว่า ในชีวิตของเรานั้น เราใช้กิริยาท่าทาง ยืน เดิน นั่ง นอน ทำเรื่องราวอะไรบ้าง ใช้มือทำอะไรบ้าง ..วาจาเราทำอะไรบ้างที่เกิดขึ้น อารมณ์พอใจไม่พอใจ อารมณ์นั้นอารมณ์นี้ บางครั้งก็อุปโลกน์ เพียงแค่ฟัง ก็อุปโลกน์ เรื่องราวขยายใหญ่โต รอยกิริยาท่าทางทั้งสี่ที่เราใช้ วิญญาณทั้งหก ที่ไปสัมผัส ..มันเกิดสิ่งที่เรียกว่า กามาวจร
จิตนั้นจรวนเวียน ไปตามอารมณ์ที่สัมผัส เกิดที่วิญญาณทั้งหก . บ้างก็ว่าสมอง .ยังไงก็ตาม ทั้งหมดนั้น เค้าเรียกว่า จิตเดินตามอารมณ์กรรมตัวกระทำ ที่เกิดขึ้นในกาย แล้วก็ยากจะรู้จักได้ สิ่งที่เราวนเวียน จิตนั่นยึดอารมณ์จร ..ทำตามอารมณ์จร ..สิ่งที่ได้นั้นค่อกรรม อารมณ์นั้นก็เป็นกรรมจรเข้ามา จิตไปยึดเค้าเอง แล้วก็ใช้อารมณ์นั้นไปสร้างกรรม เช่น เกิดโมโห ก็ด่าว่า ตบตี
เอาละ คราวนี้ มาดูเส้นส้นสีเหลืองบ้าง ..ที่เค้าบอกว่าใช้กายพ่อแม่ไปสร้างบุญดกศล
เรารู้จักคำว่าพระคุณพอแม่ พ่อแม่ให้กายเรามาอาศัย เราก็ไม่ยึดกายนี้เป็นของเรา เสมือนเป็นกายพ่อแม่เรา
สมมุติว่า ..วันนี้ เราจะไปกินเหล้า เรากตะโกนมันดังๆ ..วันนี้ ข้าพเจ้า จะนำกายพ่อแม่ ที่ให้ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ ข้าพเจ้าจะนำไปกินเหล้าเมายา ..ตะโกนแบ้ว ก็ไปกินเหล้า ดูสิว่า กายพ่อแม่ ที่จิตอาศัย ..มันรับรู้อย่างไรบ้าน ตั้งกล้องถ่ายทำไปเลย เอาเหล้ามา สักขวด นั่งกิน .เพียวๆ ดูสิมันจะเป็นยังไง ก็ให้กล้องถ่ายทำไปจนจบ ก็ทั้งเมาหลับ ตื่นขึ้นมาเป็นยังไง ..มันทุกข์มั้ยในเส้นทางกินเหล้า ..
คราวนี้ วันนี้ เราไม่เมา ..เราเอากายพ่อแม่ ที่เราอาศัยกายพ่อแม่ ไปหาปัจจัยมา ..ไม่ได้มา เราก็แบ่งปัน นำกายพ่อแม่ นำปัจจัยที่หามา ที่ใช้กายพ่อแม่เหน็ดเหนื่อย เราก็นำปัจจัยนั้นไปซื้อของทำบุญใส่บาตร กายพ่อแม่ก็ได้ บันทึกเรื่องราวบุญกุศล เอ้าทำบุญใสบาตรไม่พอ เราก็มานั่งนิ่งๆฟังธรรม บางที่ก็สวดมนต์ บูชาพระ ..มีตรงไหนบ้าง ในเวลานี้ ที่ไปวุ่นวาย คล้องเวรกรรมคนนั้นคนนี้ พอมาประพฤติปฏิบัติธรรม เดิน ยืน นั่ง นอน มีแต่ภาวนา พุทโธ .ใีเวลาอะไรบ้าง ที่ไปมีกิริยาท่าทางที่เป็นกรรม
คราวนี้ เรื่องการสร้างบุญกุศล นั่น จะช่วยบรรทุกข์ที่กาย เพราะมีบุญหนุนนพกาย จิตที่อาศัยกายที่มีบุญบารมี จิตก็มีความสุข ไม่เดินวนเวียน ในวงกลมวัฏฏะตลอดเวลา นั่นที่เค้าเรียก สร้างบุญกุศล คัดเอ้าท์กรรม หนีกรรมไปเรื่อย โดยอาศัยเดินไปตามรอยคำสอนศาสนา มีองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประธาน ของจิต ที่เดินตามเส้นทางสีเหลือง กายก็เป็นบุญ จิตอาศัยในกายบุญก็มีความสุข
..หากเราไปใส่บาตร ..ทำด่วยความนอบน้อม ทำจิตนิ่ง กายนิ่ง ใส่บาตร ..ใส่เสร็จแล้วลองสังเกต .ตัวเองดู ทำกายนิ่ง จิตเฉยนะ ดูว่ามีความสุขจากบุญกุศลมั้ย แต่คนส่วนมากก็ไม่เคยสังเกต ยิ่งเอาอารมณ์มาใส่บาตร ไมได้เอาจิตมาใสบาตร ก็เลยรับรู้ไม่ได้ ..
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
