26 พ.ค. เวลา 10:18 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 19 - 23 พ.ค. 2568

ภาพรวม
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ได้รับแรงกดดันจาก Bond Yield และนโยบายภาษีของทรัมป์
  • สภาผู้แทนฯ สหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณรายจ่ายประจำปี
  • Bond Yield ญี่ปุ่น อายุ 30 และ 40 ปี พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • เงินเฟ้อญี่ปุ่น เดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นจากราคาพลังงานและอาหาร
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate ระยะ 1 ปี และ 5 ปี
  • สภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทย ปี 2568 เหลือ 1.3% – 2.3%
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เผชิญแรงกดดันจาก Bond Yield และนโยบายภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ชะลอตัว โดยทั้ง 3 ดัชนีหลักปรับตัวลดลงราว 2.5% ในขณะที่นักลงทุนเข้าสู่ภาวะ Risk-off (หลีกเลี่ยงความเสี่ยง) จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และนโยบายของสหรัฐฯ
๐ Bond Yield ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะพันธบัตรอายุ 20 ปี จากความกังวลต่อสถานะทางการคลังของรัฐบาล การปรับลด Credit Rating ของสหรัฐฯ โดย Moody’s และความต้องการประมูลพันธบัตร 20 ปี ที่ต่ำกว่าคาด
1
๐ สภาผู้แทนฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายภาษีและงบประมาณของสหรัฐฯ (215 ต่อ 214 เสียง) โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่
- ขยายเพดานหนี้อีก 4 ล้านล้านดอลลาร์
- ขยายมาตรการลดภาษีของทรัมป์
- เพิ่มเพดานการหักลดหย่อนภาษีท้องถิ่นและรัฐ จาก 10,000 เป็น 40,000 ดอลลาร์
- ยกเว้นภาษี OT และทิป
- ตัดวงเงินในโครงการ Medicaid และยกเลิกการลดหย่อนภาษีพลังงานสะอาดในสมัยของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน
- เพิ่มงบให้กับกระทรวงกลาโหม และงบความมั่นคงชายแดน
๐ ทรัมป์สร้างแรงกดดันเรื่องสงครามการค้าอีกครั้ง โดย
- ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากยุโรป 50% มีผล 1 มิ.ย. แต่ภายหลัง ได้ประกาศเลื่อนภาษีนำเข้าจากยุโรปออกไปเป็น 9 ก.ค. หลังหารือกับผู้นำสหภาพยุโรป
- ประกาศเก็บภาษีสมาร์ทโฟนที่ผลิตจากต่างประเทศ 25% ภายในสิ้นเดือน มิ.ย. ส่งผลให้หุ้นเทคโนโลยีได้รับผลกระทบ เช่น หุ้น Apple ร่วงกว่า 3% จากข่าวที่ถูกกดดันให้ย้ายฐานผลิตกลับสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม การย้ายฐานผลิตทำได้ยากและมีต้นทุนสูง
  • ญี่ปุ่น
๐ Bond Yield อายุ 30 และ 40 ปี พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูความชัดเจนจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในการลดการซื้อพันธบัตร หรือ QT (Quantitative Tightening) ในขณะที่ Bond Yield อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
๐ ผู้ว่าการ BOJ ยืนยันว่ายังไม่จำเป็นต้องดำเนินการแทรกแซงในทันที แต่จะจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
๐ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 3.5% YoY จากราคาพลังงานและอาหาร โดยรัฐบาลเตรียมมาตรการบรรเทาค่าครองชีพ แต่ BOJ ยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย
๐ ตัวเลขการส่งออกเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 2% YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้า (มี.ค. +4%) โดยตัวเลขการส่งออกไปสหรัฐฯ -1.8% จีน -0.6% ในขณะที่เอเชีย +6% ส่วนการนำเข้าลดลง 2.2% จากกลุ่มถ่านหินและน้ำมันดิบที่ชะลอตัว
๐ ญี่ปุ่นต้องการเจรจาภาษีกับสหรัฐฯ โดยเร็ว หลังทรัมป์สนับสนุนข้อตกลงระหว่าง US Steel และ Nippon Steel โดยอ้างว่าจะสร้างงานกว่า 70,000 ตำแหน่ง และเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ 14,000 ล้านดอลลาร์
  • จีน
๐ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Loan Prime Rate ระยะ 1 ปี และ 5 ปี โดยลดจาก 3.1% เป็น 3.0% และจาก 3.6% เป็น 3.5% ตามลำดับ หลังธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ลดดอกเบี้ยเงินฝากลงสูงสุดถึง 0.25% เพื่อลดต้นทุนดอกเบี้ย
๐ การลดดอกเบี้ยนี้ เป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกตั้งแต่เดือน ต.ค. 2024 สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง
  • ไทย
๐ GDP ไตรมาส 1 ปี 2025 เพิ่มขึ้น 3.1% YoY สูงกว่าคาดที่ 2.9% แต่ต่ำกว่าไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ที่ 3.3%
๐ การขยายตัวดังกล่าวมาจากการเร่งส่งออกล่วงหน้า เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้ยอดส่งออกสินค้าในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้น 13.8% โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
๐ สภาพัฒน์ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2025 เหลือ 1.3% – 2.3% จากเดิม 2.3% – 3.3% เนื่องมาจากประเด็นของสงครามการค้าโลก เศรษฐกิจโลกชะลอตัว และหนี้ภาคครัวเรือนยังสูง
๐ เตือนภาคธุรกิจและผู้บริโภคให้เตรียมรับมือความเสี่ยง และใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา