เตือน 7 จังหวัด รับมือน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยา
กรมชลฯ เตือน 7 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เตรียมรับมือน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบน ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งอาจทำให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นประมาณ 1 เมตร
วันที่ 26 พ.ค. 2568 นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 1/2568 ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ อุทัยธานี, ชัยนาท, สิงห์บุรี, อ่างทอง, สุพรรณบุรี, พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา
การแจ้งเตือนดังกล่าวสอดคล้องกับประกาศสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 6/2568 ที่ระบุถึงความเสี่ยง “น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม” จากการประเมินร่วมหลายหน่วยงาน ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมชลประทาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่าช่วงวันที่ 26–30 พ.ค. 2568 นี้ จะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังในเขตเมือง และน้ำไหลหลากในพื้นที่ลุ่ม
ขณะนี้พบปริมาณน้ำที่สถานี C2 จังหวัดนครสวรรค์ ไหลผ่านอยู่ที่ 898 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเป็น +15.59 ม.รทก. ขณะนี้มีการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ที่ 490 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อนอยู่ที่ 8.63 ม.รทก. และคาดว่าอัตราการระบายจะเพิ่มเป็น 500–700 ลบ.ม./วินาที ในระยะสั้น ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นประมาณ 1.00–1.20 เมตร โดยเฉพาะในพื้นที่ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ถึง ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 12 ยืนยันจะบริหารจัดการน้ำอย่างใกล้ชิด โดยควบคุมไม่ให้ระดับน้ำเกิน +16.20 ม.รทก. และยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรในขณะนี้
หากมีแนวโน้มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเกิน 700 ลบ.ม./วินาที จะมีการแจ้งเตือนเพิ่มเติม จึงขอให้ประชาชนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หน่วยงานราชการ บริษัท ห้างร้าน รวมถึงผู้ประกอบกิจการในแม่น้ำ เช่น แพร้านอาหาร และงานก่อสร้างริมตลิ่ง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดตลอดช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
