26 พ.ค. เวลา 16:46 • ปรัชญา
โรงเรียนวัดห้วยทราย
เกิดดับๆ อะไรมันเกิดขึ้นมาบ้าง อะไรที่มันดัย ..ดับแล้วเกิด สุขสบายมั้ย
เกิดมามีกายมันก็มีทุกข์ ..ไอ้ที่ไม่ทุกข์นั้นมีมั้ย ภายในกายที่จิตอาศัย . เอ้า ..หายใจเข้า แล้วก็ดับ หายใจออก แล้วก็ดับ มันไม่ดับสนิทจริง มันต่อเนื่องกันไป หากลมเข้า แล้วไม่ออก มันเป็นอย่างไร หากลมออกออกแบ้วไม่เข้ามันเป็นอย่างไร แค่เป็นวัดคัดจมผูก..มีความสุขมั่ย
อะไรละที่มันเกิดขึ้น แล้วก็ดับลงไป มันไม่ได้หายไปไหน มันอยู่ข้างจิตเรานั้น แหละ เดี๋ยวมันก็ลุกขึ้นมา บังคับกาย บังตับจิต ให้ทำตาม ที่เค้าเรียกว่า อารมณ์กรรมตัวกระทำ ที่ทำได้ ทั้วดี และไม่ดี ..แล้วก็สิ่งเรากระทำมันก็ไม่ได้สูญหายไปไหน มันก็บันทึกจดจำลงไปที่ธาตุทั้งสี่ ตั้งแต่เกิดไปจนหมดลม ที่เค้าว่า ได้โอกาสมีกายเปมนุษย์ ก็ใช้กายนี่ใหดีๆ คราวนี้ คนเรามันก็มองข้าม เรื่องของกาย ไม่ระมัดระวัง อารมณ์ที่เกิดดับ ในกาย นำพากายไปสร้างกรรม
ทีว่าเกิดดับๆ ก็ดูที่ เข้ามาก็กิน กินอิ่มก็กินเข้าไปไม่ได้ พอใช้ก่ายทำงานเดี๋ยวหิวน้ำ เดี๋ยว ..เที่ยงอีกแล้ว เย็นอีกแล้ว มันก็เกิดดับ มันเกิดๆดัยๆ กินนอน ไปนาน กายมันแก่ หยุดไม่ให้มันแก่เฒ่า เจ็บแ่วยไม่ได้ บางก็นอนติดเตียง รอความตาย กายมันดับสนิท แต่จิตไม่ดัยไปตามกาย ต้องไปหาที่อยู่ใหม่ เตรียมเสบียงไว้หรือยั้ง้ เมื่อไม่มีกาย ก็ต้องหาที่อยู่ให้ สร้างรูปข้าวหน้าให้แก่จิตแล้วหรือยัง
คราวนี้ เราก็ไม่รู้จักว่า อารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น โมโหโกรธ เกลียดชัง อิจฉาตาร้อน มันมาจากไหน มันกมาจากธาตุทั้งสี่ เป็นขิงเก่าที่เราเคยใช้ เคยสะสมมา พอเกิดมามีกาย ก็มีอารมณ์โลภโกรธหลง ..แล้วหยุดยั้งอารมณ์นั้นได้มั้ย ..เมื่อจิตที่อาศัยในกาย .ก็ไม่รู้จักอารมณ์ ที่เกิดขึ้น จิตอาศัยในกาย.. นั่นเขื่อฟังอารมณ์ ก็ยึดอารมณ์นั้นเป็น ยึดเอากรรมนั้นเปจิต ..เพราะอารมณ์นั่นก็เป็นตัวกรรม ที่จิตนั้นต้องชดใช้
หากเรารู้ว่า ชีวิตนั้นมันเกิด เพีาะเรามีกรรม เราก็เสาะแสวงหา ทำอย่างไรหนอให้จิตเรา เบาบางจากกรรม .เราก็ใช้กายนี้ ไปสร้างคำว่า บุญกุศลบารมี คำว่า บุญกุศลบารมี เราจะดูใครเป็นเยี่ยง เราก็มองไปที่ องค์พระสิทธัตถะ ที่ท่านบำเพ็ญบุญกุศลบารมีมา
..เราก็ทำตามท่าบบ้าง ให้ทาน ทำบุญ สร้างกุศลไป การทำบุญทำทาน ..จืตนั้นต้องมีขันติ ขันติที่ตัดขาดไม่เสียดายเงินทองที่หามาด่วยความเหนื่อย เรากสละ ..สละปัจจัยนั่นไป (อารมณ์โลภโกรธหลง มันก็ฃ่อนเร่้น อยู่กับวัตถุที่เราหา หามาก็ยึดว่า เป็นของๆเรา แม้ใกล้ตาย ก็ยังเรียกร้อง แหวนเพชรฉันอยู่ที่ไหน
ที่เกิดดับ กายมันเกิดขึ้น มันยังไม่ดับ จะทำอย่างเี ให้กายนีร้มีอารมณ์ นั้นอารมณ์นี้เกิดขึ้น ตลอดเวลา เราก็หยุดอารมณ์ ..นำกายนี้ไปกราบพระ สวดมนต์ ภาวนา .เดินจงกรรม เรานำกายมาสวดมนต์ไหว้พระ จิตเราก็ได้พัก ไม่มีอารมณ์นึกคิด ไม่ห่วงใคร ไม่ไปติเตียนใคร .
เมื่อมาสวดมนต์ภาวนา อารมณ์ต่างๆ เค้่าก็สงบลง ชั่วขณะหนึ่ง ก็ยังดี ..พอออกจากการปฏิบัติ อารมณ์ก็เข้ามาใหม่ จะไปกินไอ้นั้นไอ้นี่ ไปคุยกับคนนั้นคนนี้ บ้างก็ไปติเตียน ไม่พอใจคนนั้นคนนี้ ..ไปมีอารมณ์พอใจไม่พอใจ กินข้างก็กินไปบ่นไป ไอ้นี้อร่อย ไนอ้เนื้อเป็เนื้อได่ เนื้อของผู้ที่มีกรรมไม่อร่อย บางที่ก็เอร็ดอร่อย อยากกินอีก
เพราะฉะนั้น ชีวิตควร พิจารณาเอาเรื่องบุญกุศลเป็นสำคัญ หากไม่ทำ ..คนมีกรรมมันก็ต้องมีทุกข์ เมื่อมองเห็นว่า บุญกุศลเป็นเรื่องสำคัญ เราก็สร้างบุญกุศล ให้มีกายมีบุญหนุนนำจิต เมิ่กายนี้ เป็นกายบุญ อุปสรรคต่างๆ ก็ผ่านพ้นไปได้
โฆษณา