Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 01:36 • กีฬา
อโมริม vs การ์นาโช่ : ความบาดหมางที่อาจนำมาสู่การแยกทางกับ แมนฯ ยูไนเต็ด | Main Stand
รูเบน อโมริม เลือกดรอป อเลฮานโดร การ์นาโช่ เป็นผู้เล่นสำรองในเกม ยูโรป้าลีก ฤดูกาล 2024-25 นัดชิงชนะเลิศที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ไปด้วยสกอร์ 0-1 ทั้งที่ดาวเตะทีมชาติอาร์เจนตินารายนี้ลงสนามเป็นตัวจริงให้กับทีมในถ้วยนี้มาโดยตลอด
เรื่องราวการถูกดรอปเป็นตัวสำรองของ การ์นาโช่ ดูเหมือนจะสร้างความไม่พอใจให้เจ้าตัวอยู่ไม่น้อย จนไปถึงนำมาซึ่งการเกิดประเด็นดราม่ากับทางเฮดโค้ช
มีการรายงานจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้หลายรายที่เผยว่า การ์นาโช่ เตรียมมองหาต้นสังกัดใหม่ในทันที และ อโมริม ก็ยินดีพร้อมปล่อยตัว การ์นาโช่ ออกไปจากทีมเช่นกัน
ที่มาที่ไปของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ? ร่วมติดตามพร้อมกันได้ที่ Main Stand
ไม่ดีกันตั้งแต่เริ่มงาน
หากจะพูดว่า รูเบน อโมริม และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เพิ่งจะมามีปัญหาในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเท่าไหร่นัก เพราะชนวนเริ่มแรกของปัญหาในเรื่องนี้ ต้องเริ่มย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงที่ อโมริม เข้ามาทำงานใหม่ ๆ
เรื่องดังกล่าวต้องย้อนกลับไปในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันที่ 15 ธันวาคม 2024 ซึ่งในเกมนัดดังกล่าว รูเบน อโมริม ตัดสินใจไม่ใส่ชื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช่ อยู่ในทีม
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความไม่เข้าใจของทั้งสองยังไม่ค่อยได้รับการพูดถึงมากเท่าไหร่นัก เนื่องจากเกมนัดดังกล่าวนั้น มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เป็นอีกรายที่ทาง อโมริม เลือกตัดชื่อออกจากขุมกำลังของทีม
และดูเหมือนเรื่องราวของ แรชฟอร์ด จะรุนแรงและหนักกว่าทางฝั่งของ การ์นาโช่ มากพอสมควร เพราะนับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา แรชฟอร์ด ไม่ได้กลับมาสวมชุด แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนามภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม อีกเลยแม้แต่นัดเดียว ก่อนถูกปล่อยให้แอสตัน วิลล่า ยืมตัวในท้ายที่สุด
แต่ทางฝั่งของ การ์นาโช่ หลังจากเกมนัด แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ตัวเขาก็กลับมามีชื่ออีกครั้งในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปแพ้ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ด้วยสกอร์ 4-3 ในศึก คาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2024 หรือ 4 วันถัดมาจากเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้
ท้ายที่สุดแล้วมีรายงานออกมาว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้ทาง รูเบน อโมริม ไม่พอใจต่อ อเลฮานโดร การ์นาโช่ และเลือกตัดชื่อออกจากทีมในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เป็นเพราะสาเหตุที่มีข่าวว่า มีนักเตะของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายหนึ่ง ชอบนำข่าวภายในห้องแต่งตัว อาทิเช่น แผนการเล่น 11 ตัวจริงก่อนเกมการแข่งในแต่ละแมตช์ ไปบอกกับทางเอเย่นต์ส่วนตัว ก่อนที่เอเย่นต์ของนักเตะรายนั้นจะไปบอกกับบรรดาเหล่านักข่าวให้ทราบ ๆ กันในเวลาต่อมา
แม้ทาง อโมริม ไม่ได้พูดว่านักเตะคนดังกล่าวคือใคร ในการสัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้เช่นกัน แต่เหล่าแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ส่วนใหญ่ต่างคาดการณ์ไปในทิศทางเดียวกัน นั่นก็คือ อเลฮานโดร การ์นาโช่
สาเหตุเพราะเมื่ออดีต ก็เกิดเรื่องราวที่คล้ายคลึงกับเรื่องนี้ในช่วงยุคสมัยการทำทีมของ เอริค เทน ฮาก จากการที่ การ์นาโช่ เคยถูกทางฝั่งของ เอริค เทน ฮาก ต่อว่าเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน ด้วยสาเหตุมาจาก โรแบร์โต้ น้องชาย ของ การ์นาโช่ ที่มักชอบนำเอาเรื่องแต่งตัวภายในสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปพูดในโซเชี่ยลมีเดียของตนเอง
1
“ผมรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนั้นดี [ข่าวหลุดภายในห้องแต่งตัว] แต่ผมคิดว่าเราคงแก้ไขไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะในสโมสรมีผู้คนอยู่มากมาย นักเตะภายในทีมบางคนอาจนำเรื่องพวกนี้ไปคุยกับเอเย่นต์ส่วนตัว หรือคนในครอบครัวของพวกเขาก่อนแข่งก็เป็นได้ ดังนั้นผมจะไม่พูดเรื่องนี้ ออกไปว่าคน ๆ นั้นคือใคร” รูเบน อโมริม กล่าวถึงเรื่องข่าวในห้องแต่งตัวที่หลุดออกไปถึงนักข่าว
“แต่ผมได้มีบทลงโทษให้กับตัวของเขาเป็นที่เรียบร้อย แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดี แต่พวกเราทุกคนภายในสโมสรต้องเดินหน้ากันต่อไป และผมจะรอดูเลยว่าเหล่านักข่าวจะได้รู้อีกหรือไม่ว่าเกมนัดต่อไปผมจะจัดใครลง 11 ตัวจริง” อโมริม กล่าวต่อถึงเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวถือว่าจบลงไปด้วยดี ไม่เหมือนกับในเคสของ มาร์คัส แรชฟอร์ด เพราะจากแหล่งข่าวที่ต่างรายงานไปในทิศทางเดียวกัน เผยว่า อเลฮานโดร การ์นาโช่ เป็นคนที่เดินเข้าไปขอโทษ อโมริม เกี่ยวกับเรื่องฉาวครั้งนี้ พร้อมกับยืนยันว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้ให้เห็นอีกต่อไปในอนาคต
เป็นสาเหตุให้ท้ายที่สุด แฟนบอลปีศาจแดงจึงยังได้เห็น อเลฮานโดร การ์นาโช่ กลับมาลงสนามลากเลื้อยในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้ายให้กับทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คนที่ อโมริม ต้องการขายมาโดยตลอด
แม้หากดูจากตัวเลขที่บ่งชี้ว่า อเลฮานโดร การ์นาโช่ คือผู้เล่นคนสำคัญที่ทาง รูเบน อโมริม มักเลือกใช้งานส่งลงสนามแทบทุกเกมที่ลงเล่น โดยในฤดูกาล 2024-25 การ์นาโช่ ลงสนามในยุคของ อโมริม ไปมากถึง 39 นัด ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่มากกว่านักเตะคนอื่น ๆ ภายในทีมทุกคน
แต่เหตุผลหลัก ๆ ทุกคนต่างทราบกันดีว่า อโมริม จำเป็นที่จะต้องใช้งาน การ์นาโช่ มาโดยตลอด เป็นเพราะว่าดาวเตะรายนี้ไม่เคยมีอาการบาดเจ็บรบกวนแม้แต่ครั้งเดียวในซีซั่นนี้ ต่างจากเหล่าผู้เล่นแนวรุกรายอื่น ๆ ทั้ง โจชัว เซิร์กซี, เมสัน เมาท์, อาหมัด ดิยัลโล่ หรือแม้แต่ในรายของ ค็อบบี้ เมนู ที่ต่างได้รับบาดเจ็บและหายหน้าหายตาจากการลงสนามกันอยู่บ่อยครั้ง
แต่ถึงจะได้ลงสนามเยอะมากขนาดไหนในฤดูกาลปัจจุบัน แต่อย่างที่ทุกคนต่างรู้กันว่าสถานะของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ในยุคของ รูเบน อโมริม นั่นคือ “พร้อมขาย” และถือเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ที่ทีมต้องการปล่อยตัวมากที่สุดอีกด้วย เพราะด้วยฝีเท้า, อายุ และมูลค่าของ การ์นาโช่ ที่บอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด มองว่าเปรียบเสมือนเป็นสินทรัพย์ชั้นดี หากทีมต้องการงบประมาณก้อนโตในช่วงเวลานี้
เราจึงเห็นข่าวลือหนาหูในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาวเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมาเกือบแทบทุกวันเกี่ยวกับข่าวของ การ์นาโช่ ที่ทาง แมนฯ ยูไนเต็ด พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอกับเหล่าสโมสรที่ให้ความสนใจอยากได้ตัวไปร่วมทีม อย่างเช่น นาโปลี และ เชลซี ที่ต่างเคยยื่นข้อเสนอซื้อตัวมาแล้วเช่นกันด้วยจำนวนราว ๆ 35-40 ล้านปอนด์
1
แต่ด้วยหลายปัจจัย ทั้งค่าตัวที่แมนฯ ยูไนเต็ด ตั้งเอาไว้มากถึง 60 ล้านปอนด์ และตัวของ การ์นาโช่ ก็แสดงเจตจำนงอย่างชัดเจนว่าตัวเขาไม่ต้องการย้ายออกไปจากทีม จึงทำให้ดีลไม่เกิดขึ้นในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะครั้งที่ผ่านมา
“อเลฮานโดร การ์นาโช่ ต้องการอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไป เขาแสดงความชัดเจนมาโดยตลอด เขาไม่ต้องการทิ้งทีมไปในช่วงที่ผลงานย่ำแย่อย่างเช่นทุกวันนี้ หาก การ์นาโช่ จะย้ายออกจากทีมจริง จะเป็นช่วงจบฤดูกาลเท่านั้น” ไซมอน สโตนส์ นักข่าวจาก BBC ทวิตถึงดีลของ การ์นาโช่ เผยว่า จะไม่มีทางเกิดขึ้นอย่างแน่นอนในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะเดือนมกราคม
ปรับเปลี่ยนตัวเอง
ในเมื่อดีลซื้อขายยังไม่เกิด ทางฝั่งของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ก็ได้ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตามดั่งที่เขาหวังเอาไว้ และเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าตัวของ การ์นาโช่ ก็พยายามทำทุกวิถีทางเช่นกันที่ต้องการจะมัดใจ รูเบน อโมริม ให้ได้มากกว่าเดิม
อย่างที่ทราบกันดีว่า แนวทางการเล่นของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด มากนัก ยิ่งในการเล่นเกมรับ ทั้งคู่แทบถอดแบบออกมาเหมือนกันอย่างชัดเจน นั้นก็คือไม่ชอบวิ่งไล่เพรสซิ่ง ช่วยเพื่อนร่วมทีมไล่แย่งบอลจากนักเตะทีมคู่แข่ง
แต่เห็นได้เด่นชัดเลยว่านับตั้งแต่ อเลฮานโดร การ์นาโช่ มีการเคลียร์ใจกับทาง รูเบน อโมริม และยังได้อยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่อไป เขาเปรียบเป็นเด็กคนใหม่ที่แฟนบอลปีศาจแดงแทบไม่เคยเห็น นั้นก็คือการวิ่งลงมาช่วยเล่นเกมรับแทบทุกครั้ง หรือแม้แต่เป็นอีกคนที่คอยช่วย ทาง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไล่เพรสซิ่งใส่ทีมคู่แข่งแบบกัดไม่ปล่อยเช่นกัน
ถึงขั้นที่ทาง พอล สโคลส์ อดีตนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่แฟนบอลปีศาจแดงต่างรู้กันว่า หากตำนานรายนี้มีการพูดถึงนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด ในทีมชุดนี้ ส่วนใหญ่แล้วต่างเป็นการวิจารณ์ในแง่ลบทั้งสิ้น แต่กลับไม่ใช่ในกรณีของ การ์นาโช่ เพราะทาง สโคลส์ กล่าวคำชมผ่านรายการของ Sky Sports มองว่ามีความมุ่งมั่นทำเพื่อทีมมากขึ้นทั้งในการเล่นเกมรุกและเกมรับ รวมไปถีงด้านทัศนคติที่เริ่มมีความเป็นผู้ใหญ่ มากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
“จากเดิมที่ผมเคยบอกว่า อเลฮานโดร การ์นาโช่ ควรถูกปล่อยออกจากทีม เพราะเขามีความเอาแต่ใจและเล่นเพื่อตัวเองมากเกินไป แต่พักหลังมานี้ผมรู้สึกว่าทัศนคติความเป็นผู้ใหญ่ของเขาเริ่มมีมากยิ่งขึ้นทั้งการเล่นเพื่อตัวเองและเพื่อสโมสร”
“พักหลังมานี้เห็นได้บ่อยขึ้นว่า การ์นาโช่ เป็นอีกคนในผู้เล่นแนวรุกนอกเหนือจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่พยายามวิ่งไล่บอลใส่คู่แข่ง และเขายังทำประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น คอยลงมาช่วยเกมรับเพื่อกดดันใส่ผู้เล่นแนวรุกฝั่งตรงข้าม ผมจึงรู้สึกว่าถ้าเขาทำมาตรฐานได้ดีแบบนี้ตลอดไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ควรตอบแทนเขาคืนด้วยการไม่ปล่อยออกจากทีม”
การเล่นแบบเต็มที่ทั้งเกมรุกและเกมรับ ก็เป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้ การ์นาโช่ เริ่มปรับตัวได้ดียิ่งขึ้นกับแผนการเล่น 3-4-2-1 ของ รูเบน อโมริม พร้อมกับมัดใจเฮดโค้ชรายนี้ให้กลายเป็นแข้งสัมปทาน 11 ตัวจริงในแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงหลังมาโดยตลอด
ยิ่งนับตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิ้นเดือนเมษายน 2025 แมนฯ ยูไนเต็ด มีแมตช์ลงทำการแข่งขันรวมทุกรายการมากถึง 15 นัด การ์นาโช่ เป็นผู้เล่นเพียงคนเดียว ภายในทีมที่ได้รับโอกาสลงสนามเป็นผู้ตัวจริงทุกนัด และยังได้รับคำชมจากทาง อโมริม เกี่ยวกับเรื่องสภาพความฟิตที่รักษาร่างกายออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
“ผมประทับใจในสภาพร่างกายและความฟิตของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ เขาลงสนามทุกนัดในช่วงหลังที่ผ่านมา แต่เขาก็ยังมีฟอร์มส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมเช่นเดิม เขาพัฒนาขึ้นอย่างชัดเจนเพราะในช่วงแรกที่ผมเข้ามา เขาดูมีปัญหาเกี่ยวกับการเล่นในแผนของผม”
“ผมบอกกับเขาว่า คุณไม่จำเป็นต้องยืนชิดเส้นตลอดทั้งเกม ผมอยากให้คุณหุบเข้ามาเล่นในพื้นที่ตรงกลางตอนที่ไม่มีบอลและผมพยายามกำชับกับเขาอีกว่าไม่จำเป็นต้องเก็บบอลไว้ที่ตัวเองมากเกินไป เพราะมันเสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ เขารับฟังคำแนะนำจากผมพร้อมกับนำมาปรับใช้ สุดท้ายมันเป็นผลดีทั้งต่อตัวเขาที่ได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอและต่อสโมสรที่มีนักเตะที่พร้อมลงสนามในทุกนัด”
มรสุมที่กลับมาและอาจมีฝ่ายต้องไป
ทว่าเรื่องราวแฮปปี้มีระยะเวลาไม่นานมากนัก เพราะในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูโรป้า ลีก ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เจอกับ สเปอร์ส รูเบน อโมริม กลับเลือกที่จะดรอป อเลฮานโดร การ์นาโช่ ออกจากรายชื่อ 11 ตัวจริง และเลือกใช้ เมสัน เมาท์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในตำแหน่งตัวรุกฝั่งซ้าย
แต่ตลอด 71 นาทีที่ เมาท์ อยู่ในสนาม เขาแทบไม่สร้างความแตกต่างออกมาให้เห็นแม้แต่เล็กน้อย มิหนำซ้ำลูกวิ่งเพรสซิ่งไล่กดดันคู่แข่งที่เปรียบเป็นจุดเด่นของ เมาท์ ก็แทบไม่ผลิดอกออกผลในเกมนัดนี้
กระทั่ง การ์นาโช่ ลงสนามมาแทนที่ เกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดีขึ้นแบบทันตาเห็น การ์นาโช่ ไล่กดดัน เปโดร ปอร์โร่ และ คริสเตียน โรเมโร่ ผู้เล่นในแนวรับทางด้านฝั่งขวาของ ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ ได้อยู่หลายครั้งในช่วง 10 นาทีสุดท้าย พร้อมกับยังมีโอกาสได้สับไกถึง 2 ครั้ง ซึ่งแตกต่างจากฝั่งของ เมสัน เมาท์ ที่ตลอดทั้ง 71 นาที ไม่มีแม้แต่การยิงและการสร้างสรรค์ให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูแม้แต่ครั้งเดียว
หลังจบเกม ประเด็นดังกล่าวเปรียบเสมือนมรสุมที่จากเดิมดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของ รูเบน อโมริม กับทาง อเลฮานโดร การ์นาโช่ กำลังจะกลับมาดีขึ้นมากกว่าเดิม แต่สุดท้ายแล้วความสัมพันธ์ของทั้งสองเรียกได้ว่า “ขาดสะบั้น” ลงเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ตัวของ การ์นาโช่ ไปให้สัมภาษณ์กับสื่อ ยอมรับว่าไม่เข้าใจ อโมริม ที่เลือกดรอปเขาเป็นตัวสำรองทั้งที่เป็นผู้เล่นตัวจริงมาโดยตลอด
“แน่นอนว่าเป็นเรื่องยากสำหรับทุกคน ฤดูกาลนี้ของพวกเรามันช่างห่วยมาก เราไม่สามารถเอาชนะใครในลีกได้เลย และเรายังขาดหลายสิ่งหลายอย่าง ทั้งในด้านการทำ ประตู เมื่อคุณทำประตูไม่ได้ คุณก็ต้องพยายามมากขึ้นเสมอ"
"ผมลงเล่นตัวจริงทุกรอบก่อนหน้านี้ ผมช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ในเกมนี้ผมได้ลงสนามแค่ 20 นาที ก็ไม่รู้สินะ ผมขอสนุกกับซัมเมอร์นี้ก่อน แล้วค่อยดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต"
หลังบทสัมภาษณ์ดังกล่าวของ การ์นาโช่ ถูกแพร่กระจายไปทั่วโลก ความสัมพันธ์ของเขากับทาง อโมริม กลายเป็นประเด็นร้อน และมันยิ่งปะทุมากขึ้นกว่าเดิม เพราะหลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมง อโมริม ก็ได้ตอบกลับนักข่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน
"เราเคยคุยกันเรื่องนี้กี่ครั้งแล้ว และมันผิดจากที่พูดไหม ? นักเตะบางคนหายเจ็บกลับมา อย่างเช่น เมสัน เมาท์ และเขาสร้างความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดแบบในเกมที่พวกเราพบกับ แอธเลติก บิลเบา เขาแสดงให้เห็นว่าสามารถเปลี่ยนเกมได้"
"ตอนนี้มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากหากจะบอกว่า ใครพลาดโอกาสสำคัญในเกมครึ่งแรกกับบิลเบา ? ใช่ [การ์นาโช่] แน่นอน ตอนนี้มันง่ายสำหรับเราที่จะพูดถึงเรื่องราวต่าง ๆ มากมาย"
เชื่อว่าสถานการณ์ของทั้งสอง ต้องจบลงด้วยการที่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนที่ก้าวออกไปจากสโมสรอย่างแน่นอน และมีโอกาสมากกว่าที่ทาง การ์นาโช่ จะต้องเก็บกระเป๋าและเดินออกไปจากทีม เมื่อบอร์ดบริหารของสโมสร นำโดย เซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์ ให้คำมั่นอย่างชัดเจนก่อนหน้านี้ว่า พร้อมซัพพอร์ต รูเบน อโมริม อย่างเต็มที่ และจะไม่มีทางปลดออกจากตำแหน่งกุนซือของทีมอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกัน The Teleglaph ก็รายงานว่า การ์นาโช่ จะถูกปักป้ายขายในราคาเดิมที่ 60 ล้านปอนด์ ซึ่งทางสโมสรยินดีพร้อมรับข้อเสนอพิจารณาในทันทีนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
และจากกระแสก่อนเกมนัดล่าสุดที่ทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ แอสตัน วิลล่า ในเกมนัดสุดท้ายศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปด้วยสกอร์ 2-0 ที่ทาง รูเบน อโมริม เลือกตัดชื่อ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ออกจากขุมกำลังของทีมในเกมนัดนี้ ทั้งที่ตัวของ การ์นาโช่ ก็ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรบกวนทั้งสิ้น
พร้อมกับตัวแฟนสาวของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่โพสต์รูปภาพยูนิฟอร์ม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเขียนคำว่า “Last Day” ซึ่งเอ่ยเป็นนัยยะว่าสามีของเธอ น่าจะไม่ได้อยู่กับสโมสรต่อไปในฤดูกาลหน้า
มิหนำซ้ำแหล่งข่าวน่าเชื่อถือได้ทุกสำนัก ต่างเล่นข่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า รูเบน อโมริม ได้แจ้งไปกับตัวของ อเลฮานโดร การ์นาโช่ และ เอเย่นต์ส่วนตัวของ การ์นาโช่ ให้เตรียมหาต้นสังกัดใหม่ได้เลยในฤดูกาลหน้า เพราะ อโมริม ไม่ต้องการเก็บดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่าผู้นี้เอาไว้กับทีมอีกต่อไป
ทั้งนี้ต้องมารอติดตามไปพร้อมกันว่าสุดท้ายแล้ว อเลฮานโดร การ์นาโช่ จะต้องเป็นคนก้าวออกไปจากสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เขาทั้งรักและผูกพันหรือไม่ แต่เชื่อว่าหากฝ่ายของ การ์นาโช่ เลือกที่จะไม่เดินไปขอโทษทาง รูเบน อโมริม กับเรื่องเหตุการณ์ทั้งหมด ก็มีโอกาสไม่น้อยเช่นกันที่แฟนบอลปีศาจแดงอาจจะไม่ได้ร้องเพลง “Viva Garnacho” ส่งกำลังใจให้เด็กดาวรุ่งเลือดฟ้าขาวผู้นี้อีกต่อไป
แหล่งอ้างอิง
https://www.bbc.com/sport/football/articles/c071dzv9z94o
https://www.beinsports.com/en-us/soccer/uefa-europa-league/articles-video/ruben-amorim-vs-alejandro-garnacho-the-internal-fight-fueling-manchester-united-s-crisis-2025-05-22
https://www.manutd.com/en/news/detail/ruben-amorim-on-alejandro-garnacho-role-in-new-system
https://www.independent.co.uk/sport/football/ruben-amorim-man-utd-leak-team-b2664980.html
https://www.teamtalk.com/manchester-united/alejandro-garnacho-final-decision-manchester-united-chelsea-fabrizio-romano-deadline-day-signings
https://www.goal.com/en/lists/ridiculous-man-utd-paul-scholes-make-alejandro-garnacho-man-utd-kobbie-mainoo/blteea607f6a1160af7
บทความโดย : วิสุทธา วงค์หน่อแก้ว
5 บันทึก
17
1
2
5
17
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย