28 พ.ค. เวลา 06:03 • หุ้น & เศรษฐกิจ

มาเลย์ใช้ ‘การทูตหม้อไฟ’ ดัน ‘น้ำมันปาล์ม’ เจาะตลาดจีน หนุนสุขภาพ เชื่อมสัมพันธ์ด้วยรสชาติ

มาเลเซียใช้ ‘หม้อไฟหมาล่า’ ของโปรดที่ชาวจีนชอบ เป็นทูตในการผลักดัน ‘น้ำมันปาล์ม’ ให้เป็นพระเอกคนใหม่แทนไขมันสัตว์ ชูจุดขายสุขภาพบุกตลาดจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า “มาเลเซีย” เดินหน้าขยาย “ตลาดน้ำมันปาล์ม” ในจีน ด้วยการยก “หม้อไฟหมาล่า” เมนูยอดนิยมของชาวจีน มาเป็นเวทีใหม่ของการทูตเชิงอาหาร เสนอทางเลือกจาก “พืช” สำหรับแทนที่ไขมันสัตว์ในน้ำซุปเผ็ดร้อนอันเป็นเอกลักษณ์ เพื่อเชื่อมโยงรสชาติที่คุ้นเคยเข้ากับแนวคิดการบริโภคเพื่อสุขภาพ
ในฐานะประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มาเลเซียได้จับมือกับนักวิจัยจีน ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทดแทนไขมันสัตว์ ซึ่งมักได้จากเนื้อวัว โดยชูจุดเด่นของ “น้ำมันปาล์ม” ว่า ไม่เพียงสอดรับกับเทรนด์รักสุขภาพในยุคปัจจุบัน แต่ยังสะท้อนความร่วมมือระหว่างสองประเทศผ่าน “การทูตหม้อไฟ” ที่ใช้รสชาติเป็นเครื่องเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
“นี่ไม่ใช่แค่การแลกเปลี่ยนด้านอาหารเท่านั้น แต่นี่คือ ‘การทูตหม้อไฟ’ อย่างแท้จริง” ชาน ฟุง ฮิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและสินค้าโภคภัณฑ์ของมาเลเซียกล่าว พร้อมระบุว่าน้ำมันปาล์ม “ปราศจากคอเลสเตอรอล” และผลิตจากแหล่งที่ยั่งยืน
สำหรับหม้อไฟหมาล่านั้น มีจุดเด่นอยู่ที่พริกหมาล่าและพริกชี้ฟ้า ซึ่งให้สีแดงสดและรสชาติเผ็ดร้อนชาลิ้นเป็นเอกลักษณ์
สำหรับผลการวิจัยเบื้องต้นของมาเลเซียพบว่า เครื่องปรุงสำเร็จรูปสำหรับทำน้ำซุปหม้อไฟ ที่ผลิตจากไขมันพืชบนฐานน้ำมันปาล์มใหม่นี้ สามารถเลียนแบบปริมาณไขมัน และประสบการณ์ทางรสสัมผัสได้ใกล้เคียงกับไขมันวัวแบบดั้งเดิม อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติ และชาวมุสลิมอีกด้วย
ความริเริ่มครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของมาเลเซียในการใช้วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมน้ำมันปาล์มในจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันปรุงอาหารมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือกับผู้ผลิตอาหารรายอื่น ๆ เพื่อเปิดตลาดใหม่ให้น้ำมันปาล์มที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นในขนมรสหมาล่า ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ไปจนถึงการใช้งานในอุตสาหกรรม
ชานกล่าวว่า การค้าระหว่าง “มาเลเซีย” กับ “นครฉงชิ่ง” เมืองสำคัญในภาคกลางของจีนซึ่งเป็นที่นิยมของหม้อไฟหมาล่า มีมูลค่าสูงถึง 3,270 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1 แสนล้านบาท โดยน้ำมันปาล์มมีบทบาทสำคัญทั้งในเมนูอาหารดังกล่าว ตลอดจนในเคมีภัณฑ์สีเขียว และโอลีโอเคมีคัลส์ ซึ่งเป็นเคมีภัณฑ์จากธรรมชาติ
“ไขมันพืชจากน้ำมันปาล์ม เป็นทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า ทั้งยังคงรสชาติและเนื้อสัมผัสใกล้เคียงกับไขมันวัวแบบดั้งเดิม” ชานกล่าว “มาเลเซียภาคภูมิใจที่ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาวัฒนธรรมอาหารของจีน ควบคู่ไปกับการกระชับความร่วมมือทางการค้าและเทคโนโลยีผ่านน้ำมันปาล์ม”
โฆษณา