28 พ.ค. เวลา 04:53 • บ้าน & สวน

โรคของต้นโคโตเนสเตอร์ ในช่วงที่ฝนตกชุก

โคโตเนสเตอร์เป็นพืชที่ชอบน้ำในระดับปานกลางครับ ไม่ได้ชอบน้ำแฉะ แต่ก็ไม่ทนแล้งจัดในช่วงที่ยังเล็กหรือกำลังตั้งตัว เมื่อโตเต็มที่แล้วจะค่อนข้างทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดีขึ้น
ในช่วงที่ฝนตกชุกและอากาศมีความชื้นสูง โคโตเนสเตอร์จะเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจากเชื้อราและแบคทีเรียได้ง่ายขึ้นครับ โดยเฉพาะโรคดังต่อไปนี้
โรคใบจุด (Leaf Spot / Scab)
สาเหตุ: เกิดจากเชื้อราหลายชนิด เช่น Venturia inaequalis (ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค Scab ที่พบบ่อยในพืชตระกูลกุหลาบ รวมถึงแอปเปิ้ลและไพราคาเธีย)
อาการ:
ปรากฏจุดสีเขียวมะกอกไปจนถึงดำ บนใบ มักจะเป็นจุดเล็กๆ กลมๆ หรือมีรูปร่างไม่แน่นอนจุดอาจมีลักษณะเป็นขุยๆ คล้ายกำมะหยี่
ใบที่ติดเชื้อมักจะเหลืองและร่วงก่อนกำหนด ทำให้ต้นโทรมและใบน้อยลง
ในบางกรณี อาจพบจุดที่ก้านใบ กิ่งอ่อน และผลด้วย
แนวทางแก้ไข/ป้องกัน:
รักษาความสะอาด : เก็บกวาดใบที่ร่วงหล่นใต้ต้นไปทำลายทิ้ง เพื่อลดแหล่งสะสมของเชื้อ
การตัดแต่งกิ่ง : ตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดี เพื่อลดความชื้นสะสมบนใบ
การรดน้ำ : หลีกเลี่ยงการรดน้ำบนใบในช่วงเย็น หรือเลือกใช้วิธีรดน้ำที่โคนต้น เพื่อให้ใบแห้งเร็วที่สุด
สารเคมี : หากมีการระบาดรุนแรง อาจพิจารณาใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น กลุ่ม Copper-based fungicides หรือ Fungicides ที่มีส่วนประกอบของ Chlorothalonil ตามคำแนะนำบนฉลาก
โรครากเน่าและโคนเน่า (Root Rot)
สาเหตุ: เกิดจากเชื้อราในดินหลายชนิด เช่น Phytophthora spp. หรือ Pythium spp. ซึ่งมักจะแพร่ระบาดในสภาพดินที่มีน้ำขังหรือระบายน้ำไม่ดีเป็นเวลานาน
อาการ:
เริ่มแรกคือใบจะซีดเหลือง เหี่ยวเฉา แม้ดินจะชื้น ต้นจะชะงักการเจริญเติบโต และอาจมีกิ่งก้านแห้งตาย
เมื่อตรวจสอบรากจะพบว่ารากมีสีดำ เน่าเปื่อย มีกลิ่นเหม็น หรือเปลือกรากหลุดล่อน ในระยะรุนแรง ต้นจะยืนต้นตาย
แนวทางแก้ไข/ป้องกัน:
ปรับปรุงการระบายน้ำของดิน: สำคัญที่สุดคือการใช้ดินปลูกที่ระบายน้ำได้ดี และตรวจสอบให้แน่ใจว่าแปลงปลูกหรือกระถางมีรูระบายน้ำที่เพียงพอ ไม่ให้น้ำขัง
หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป: รดน้ำเมื่อหน้าดินแห้งเท่านั้น
เลือกพื้นที่ปลูก: ปลูกในพื้นที่ที่ไม่เป็นแอ่งน้ำ หรือมีการระบายน้ำที่ดีการรักษา: หากต้นแสดงอาการรากเน่าเล็กน้อย อาจลองขุดขึ้นมา ตัดรากที่เน่าทิ้ง ผึ่งให้แห้ง แล้วปลูกใหม่ในดินที่โปร่งขึ้น แต่หากเป็นมาก อาจจำเป็นต้องกำจัดทิ้ง
โรคใบไหม้จากแบคทีเรีย (Bacterial Blight)
สาเหตุ: เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Pseudomonas syringae ชอบสภาพอากาศเย็นชื้น และการแพร่ระบาดมักเกิดจากการกระเด็นของน้ำฝน หรือการใช้เครื่องมือตัดแต่งกิ่งที่ไม่สะอาด
อาการ:
อาการแรกจะปรากฏเป็นจุดสีน้ำตาลบนใบและกิ่งอ่อน จากนั้นเนื้อเยื่อจะเปลี่ยนเป็นสีดำและเหี่ยวแห้ง คล้ายถูกไฟไหม้ (อาจสับสนกับ Fire Blight ได้) กิ่งอ่อนอาจแห้งตายจากปลายยอดลงมา
แนวทางแก้ไข/ป้องกัน
ตัดแต่งส่วนที่เป็นโรค: ตัดกิ่งและใบที่เป็นโรคออกไปเผาทำลายทันที โดยตัดให้ลึกกว่าส่วนที่เป็นโรคอย่างน้อย 6-12 นิ้ว
ฆ่าเชื้อเครื่องมือ: ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ตัดแต่งกิ่งด้วยแอลกอฮอล์ 70% หรือน้ำยาฟอกขาวเจือจาง (1 ส่วนน้ำยาฟอกขาว ต่อ 9 ส่วนน้ำ) ทุกครั้งหลังการตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรค
หลีกเลี่ยงการให้น้ำบนใบ: ลดการแพร่กระจายของแบคทีเรีย
ใช้สารประกอบทองแดง: สามารถใช้สารประกอบทองแดง (Copper-based products) เพื่อช่วยควบคุมการแพร่ระบาดของแบคทีเรียได้
การดูแลและสังเกตอาการของต้นโคโตเนสเตอร์อย่างสม่ำเสมอในช่วงฤดูฝนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งครับ การแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยรักษาต้นไม้ให้แข็งแรงและสวยงามได้นานขึ้นครับ นี่คือแหล่งข้อมูลของจุดเริ่มต้นของคนรักต้นไม้ ก่อนซื้อต้นไม้ ซื้ออุปกรณ์ทำสวน ก่อนไปร้านขายต้นไม้ ร้านขายอุปกรณ์ทำสวน ปุ๋ย ยา ต่างๆ นานา ขอชวนมาเรียนรู้เบื้องต้นก่อนกับ Green Garden 101
โฆษณา