Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
p
peace maker
•
ติดตาม
28 พ.ค. เวลา 09:06 • การเมือง
บทบาทของจีนในด้านการทหารของกัมพูชามีความสำคัญอย่างมากและส่งผลต่อความมั่นคงของไทยในหลายมิติ
ต่อไปนี้คือการวิเคราะห์บทบาทของจีนในด้านการทหารของกัมพูชาและผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย:
1. บทบาทของจีนในด้านการทหารของกัมพูชา
• การให้ความช่วยเหลือด้านยุทโธปกรณ์และการเงิน:
• จีนเป็นผู้สนับสนุนหลักด้านยุทโธปกรณ์ของกัมพูชาตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1990 โดยมอบอาวุธ เช่น รถถัง T-54/55, ปืนต่อสู้อากาศยาน, และเฮลิคอปเตอร์ Zhi-9 จำนวน 12 ลำในปี 2554 ด้วยเงินกู้ 195 ล้านเหรียญสหรัฐ.
• ในปี 2553 จีนมอบรถบรรทุกทหาร 26 คันและเครื่องแบบทหาร 30,000 ชุด และในปี 2561 มอบเงิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐสำหรับการใช้จ่ายด้านกลาโหม.
• การฝึกอบรมและการศึกษา:
• จีนจัดตั้งสถาบันกองทัพบก (Army Institute) ในจังหวัดกำปงสะปือตั้งแต่ปี 2542 โดยมีที่ปรึกษาทหารจีนควบคุมการฝึกสอน และส่งนักเรียนทหารกัมพูชาไปฝึกที่จีนเป็นระยะเวลา 6 เดือนในหลักสูตร 4 ปี.
• การฝึกอบรมร่วม เช่น การซ้อมรบ “Golden Dragon” ในเดือนพฤษภาคม 2567 มีทหารกัมพูชา 1,315 นายและทหารจีน 760 นาย พร้อมเรือรบจากทั้งสองฝ่าย เน้นการฝึกทั้งบนบกและในทะเล.
• การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางทหาร:
• จีนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาฐานทัพเรือเรียม (Ream Naval Base) ในจังหวัดพระสีหนุ โดยช่วยปรับปรุงท่าเรือและสิ่งอำนวยความสะดวกตั้งแต่ปี 2562 ภาพถ่ายดาวเทียมจาก BlackSky เผยว่าเกือบ 92% ของพื้นที่ฐานทัพถูกพัฒนาเป็นอาคาร ถนน และท่าเรือ.
• มีรายงานว่าเรือคอร์เวตต์ชั้นเจียงเต้า (Jiangdao) ของจีน 2 ลำจอดที่ฐานทัพเรียมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ถึงมิถุนายน 2567 ซึ่งยาวนานกว่าที่ศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS) รายงาน.
• การพัฒนาฐานทัพนี้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “สายสร้อยมุก” (String of Pearls) ของจีนเพื่อขยายอิทธิพลทางทหารในมหาสมุทรอินเดียและอ่าวไทย.
• ความสัมพันธ์ทางการเมืองและทหาร:
• ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและกัมพูชาแน่นแฟ้นขึ้นในยุคสมเด็จฮุน เซน โดยเฉพาะหลังจากที่กัมพูชาให้การสนับสนุนจีนในประเด็นทะเลจีนใต้และการเมืองระหว่างประเทศ เช่น การไม่สนับสนุนมติของสหประชาชาติที่วิจารณ์จีน
• จีนแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือทหารกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เช่น การอนุญาตให้จีนทำเหมืองทองในพื้นที่ติดกับเวียดนาม.
2. ผลกระทบต่อความมั่นคงของไทย
• ภัยคุกคามทางยุทธศาสตร์ในอ่าวไทย:
• การพัฒนาฐานทัพเรือเรียมและการปรากฏตัวของเรือรบจีนในอ่าวไทยก่อให้เกิดความกังวลต่อความมั่นคงของไทย เนื่องจากฐานทัพนี้ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล (Overlapping Claims Area - OCA) ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งครอบคลุม 26,000 ตารางกิโลเมตรและมีแหล่งพลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่มีมูลค่าสูง.
• การที่จีนอาจใช้ฐานทัพเรียมเป็นจุดยุทธศาสตร์ในการลาดตระเวนหรือควบคุมเส้นทางเดินเรือในอ่าวไทยอาจกระทบต่ออธิปไตยทางทะเลของไทยและเสรีภาพในการเดินเรือ.
• การถ่วงดุลอำนาจในภูมิภาค:
• ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างจีนและกัมพูชาทำให้กัมพูชากลายเป็น “ตัวแทน” (proxy) ของจีนในอาเซียน ซึ่งอาจลดอิทธิพลของไทยในฐานะผู้นำภูมิภาค.
• ไทย ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ผ่านสนธิสัญญาความมั่นคงและการฝึกซ้อมรบ Cobra Gold อาจเผชิญแรงกดดันจากจีน โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนอาจใช้กัมพูชาเป็นเครื่องมือกดดันชาติที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ.
• ความตึงเครียดบริเวณชายแดน:
• ความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างจีนและกัมพูชาอาจทำให้กัมพูชามีความมั่นใจมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับไทยในกรณีพิพาทชายแดน เช่น กรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งเคยนำไปสู่การปะทะในปี 2551-2554.
• การที่กัมพูชาได้รับยุทโธปกรณ์จากจีนอาจเพิ่มขีดความสามารถทางทหาร ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลทางกำลังทหารบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลให้ไทยต้องเพิ่มการลงทุนด้านกลาโหมเพื่อรักษาดุลอำนาจ.
• ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา:
• ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างจีนและกัมพูชาทำให้ไทยต้องระมัดระวังในการดำเนินนโยบายต่างประเทศกับกัมพูชา โดยเฉพาะในประเด็นที่อาจขัดแย้งกับผลประโยชน์ของจีน เช่น การเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล.
• มีรายงานในอดีตว่าสมเด็จฮุน เซนเคยข่มขู่ถึงความขัดแย้งกับไทยในกรณีพิพาทชายแดน ซึ่งอาจได้รับการสนับสนุนทางอ้อมจากจีนผ่านความช่วยเหลือด้านทหาร.
• ผลกระทบทางเศรษฐกิจและการเมือง:
• การที่จีนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรในกัมพูชา เช่น เหมืองทองและกาสิโน อาจทำให้กัมพูชามีทรัพยากรทางการเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจถูกนำไปใช้ในการพัฒนากองทัพ ส่งผลให้ไทยต้องเผชิญกับเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพทางทหารสูงขึ้น.
• การที่จีนมีอิทธิพลในกัมพูชาอาจทำให้ไทยต้องปรับนโยบายเพื่อรักษาความสมดุลระหว่างการเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ และการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย.
3. บริบทในอดีตและปัจจุบัน
• ยุคสงครามเย็น:
• ในช่วงสงครามเย็น จีนสนับสนุนเขมรแดงเพื่อต่อต้านเวียดนาม ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหภาพโซเวียต ส่งผลให้ไทย ซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ เผชิญกับภัยคุกคามจากเขมรแดงที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน โดยเฉพาะการโจมตีบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาในทศวรรษ 1980.
• ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและไทยในช่วงนั้นตึงเครียด เนื่องจากจีนมองว่าไทยเป็นฐานของสหรัฐฯ ในการต่อต้านคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค.
• ยุคปัจจุบัน:
• ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและจีนดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน อย่างไรก็ตาม การที่จีนสนับสนุนกัมพูชาด้านทหารทำให้เกิดความกังวลในหมู่นักวิเคราะห์ไทยว่า จีนอาจใช้กัมพูชาเป็นเครื่องมือในการขยายอิทธิพลในอาเซียน ซึ่งอาจกระทบต่อความมั่นคงของไทยในระยะยาว.
• การซ้อมรบ “Golden Dragon” และการพัฒนาฐานทัพเรือเรียมถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์จีนในการควบคุมอ่าวไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเส้นทางคมนาคมและทรัพยากรพลังงานของไทย.
4. มุมมองของสหรัฐฯ และเวียดนาม
• สหรัฐฯ:
• สหรัฐฯ แสดงความกังวลต่อการพัฒนาฐานทัพเรือเรียม โดยมองว่าอาจบ่อนทำลายความมั่นคงในภูมิภาคและกระทบต่ออธิปไตยของกัมพูชา รวมถึงความสมดุลทางอำนาจในทะเลจีนใต้และอ่าวไทย.
• สหรัฐฯ เคยให้ความช่วยเหลือด้านทหารแก่กัมพูชา แต่ความสัมพันธ์นี้ลดลงหลังจากที่กัมพูชาหันไปพึ่งจีนมากขึ้น.
• เวียดนาม:
• ความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและเวียดนาม ซึ่งเคยใกล้ชิดในช่วงการยึดครองของเวียดนาม (2522-2532) ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของจีนในกัมพูชา โดยเฉพาะการที่จีนสนับสนุนกองทัพกัมพูชา ซึ่งอาจทำให้เวียดนามรู้สึกถูกคุกคามในฐานะเพื่อนบ้าน.
• เวียดนามและไทยมีผลประโยชน์ร่วมกันในการถ่วงดุลอิทธิพลของจีนในกัมพูชา โดยเฉพาะในประเด็นความมั่นคงในอ่าวไทยและพื้นที่ทับซ้อน.
5. ข้อสรุปและข้อเสนอแนะสำหรับไทย
• ความท้าทาย:
• การที่จีนมีอิทธิพลในกองทัพกัมพูชา โดยเฉพาะผ่านฐานทัพเรือเรียมและการซ้อมรบร่วม ทำให้กัมพูชามีศักยภาพทางทหารสูงขึ้น ซึ่งอาจเพิ่มความตึงเครียดในกรณีพิพาทชายแดนหรือพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับไทย.
• อิทธิพลของจีนอาจทำให้กัมพูชามีจุดยืนที่แข็งกร้าวมากขึ้นในการเจรจากับไทย เช่น ในประเด็น OCA หรือกรณีปราสาทพระวิหาร.
• ข้อเสนอแนะ:
• การทูตที่สมดุล: ไทยควรเสริมสร้างความสัมพันธ์กับกัมพูชาผ่านการเจรจาทวิภาคี เช่น การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) และคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เพื่อลดความตึงเครียดและป้องกันความขัดแย้งที่อาจถูกจีนใช้ประโยชน์.
• การถ่วงดุลอิทธิพล: ไทยควรกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ และเวียดนามเพื่อถ่วงดุลอิทธิพลของจีนในภูมิภาค รวมถึงการผลักดันความร่วมมือในกรอบอาเซียนเพื่อสร้างความมั่นคงร่วม.
• การพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร: ไทยควรลงทุนในกองทัพเรือและระบบเฝ้าระวังในอ่าวไทย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนและรับมือกับการขยายอิทธิพลของจีน.
• การเจรจา OCA: ไทยควรรีบผลักดันการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับกัมพูชา เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากจีนและลดความเสี่ยงจากความขัดแย้ง.
สรุป
บทบาทของจีนในด้านการทหารของกัมพูชา โดยเฉพาะการพัฒนาฐานทัพเรือเรียม การมอบยุทโธปกรณ์ และการฝึกอบรมทหาร ส่งผลให้กัมพูชามีศักยภาพทางทหารที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของไทย โดยเฉพาะในบริเวณอ่าวไทยและพื้นที่ชายแดนที่มีประวัติความขัดแย้ง เช่น กรณีปราสาทพระวิหาร
อิทธิพลของจีนยังทำให้กัมพูชากลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ในแผนการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อดุลอำนาจในอาเซียนและความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา
ไทยจึงต้องใช้การทูตที่รอบคอบและเสริมสร้างขีดความสามารถทางทหารเพื่อรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ.
ข่าว
ข่าวรอบโลก
การเมือง
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย