29 พ.ค. เวลา 13:33 • ความคิดเห็น
เราคงคุยโดยอาศัยเนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับเขา เช่นละเเวกบ้านเขาเป็นเช่นไรน้ำท่วมไหม สมัยเป็นนักศึกษา ชอบทำกิจกรรมอะไร งานที่เขาทำเป็นอย่างไร หยุดวันอะไร เเล้วดูอากัปกิริยาของเขาขณะสื่อสารกัน เเต่ไม่ถึงกับจ้องมอง จากนั้นเราจะเล่าความผิดพลาดเล็กๆหรือเรื่องขำๆของตัวเองให้เขาฟังเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย เราเชื่อว่าเรื่องประเภทนี้สามารถทำให้เขาเเสดงทัศนคติเเละนิสัยใจคอของอีกฝ่ายได้
1
หากการสนทนาเป็นไปได้ราบลื่นไม่ติดขัด เราจะพูดวกเข้าหาเรื่องราวธรรมะ ถ้าเขาไม่ค่อยสนใจทางด้านนี้ ก็คงไม่ไปต่อ เราไม่ค่อยมีความรู้รอบด้านเท่าไหร่ คุยได้เป็นบางเรื่องเท่านั้น เเต่เชื่อว่า เรื่องเกี่ยวกับธรรมะ ปรัชญา สุขภาพ เป็นเรื่องน่ารู้เเละน่าเเชร์ประสบการณ์
1
ได้ยินมาบ่อยๆว่า คนเราจะอยู่ร่วมกันได้ต้องมีศีลเสมอกัน เราว่าจริงเเต่ไม่ใช่คำตอบเดียว ถ้าศีลห้าเหมือนกัน เเต่ทัศนคติเรื่องการทำบุญต่างกัน บางทีขัดเเย้งกันได้ก็มี เช่นฝ่ายหนึ่งชอบทำบุญถวายปัจจัย เเต่อีกฝ่ายเกิดไม่เห็นด้วยไม่เห็นด้วยขึ้นมา
1
เเต่เท่าที่เห็นมา คนเราจะสนใจหลักธรรมคำสอนหรือไม่ก็ตาม พอมีการปะทะกัน ก็เป็นต้องยกหลักธรรมจริยธรรมมาเป็นข้ออ้างเสมอ ต่างคนต่างยึดมั่นในคำชี้เเจงนั้นๆ ใครก็ตามที่บอกว่า เมื่อมีความขัดเเย้งเกิดขึ้น ก็ต้องพูดคุยกันด้วยเหตุผล ขอให้คิดใหม่นะคะ ไอ้ที่คนเราทะเลาะกัน ก็เพราะเหตุผลไม่ตรงกันทั้งนั้นเเหละค่ะ
1
โฆษณา