30 พ.ค. เวลา 09:53 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 255 เสียขุนพลทวนคู่ ศรไร้ขน เสือติดปีก

ฟางเทียนติ้งได้รับรายงานว่าซ่งเจียงกับไต้จงทำพิธีเซ่นไหว้จางซุ่นอยู่ที่สะพานซีหลิง ฟางเทียนติ้งสั่งการให้จัดทหารสองกองทัพยกออกทางประตูหลังไปจับซ่งเจียง
ทัพแรกไปทางเขาใต้ 南山 นำโดยห้าขุนพล อู๋จื๋อ 吴值 เจ้าอี้ 赵毅 เฉาจง 晁中 หยวนซิง 元兴 ซูจิง 苏泾 พลสามพัน
ทัพที่สองไปทางเขาเหนือ 北山 นำโดยห้าขุนพล เวินเค่อย่าง 温克让 ชุยวี่ 崔彧 เหลียนหมิง 廉明 เหมาตี๋ 茅迪 ทังเฝิงสื้อ 汤逢士 พลสามพัน
ซ่งเจียง ไต้จง รดสุราเผากระดาษเซ่นไหว้อยู่ ได้ยินเสียงกลองศึก ใต้สะพานก็มีเสียงโห่ร้องขึ้น ทางซ้ายฝานยุ่ย หม่าหลิน ทางขวาสือสิ้ว แต่ละฝ่ายพลห้าพัน เห็นแสงคบไฟข้างหน้า จึงพากันจุดคบไฟ แล้วพุ่งตรงไปหาแสงคบ สองทัพฝ่ายใต้จากเขาเหนือเขาใต้เห็นว่ามีทหารซุ่มตั้งรับจึงพากันถอยหนี
เวินเค่อย่างนำทัพเขาเหนือล่าถอยไปถึงเขาเป่าซูถ่า 保叔塔山 พบทัพหยวนเสี่ยวเอ้อ หยวนเสียวอู่ เมิ่งคัง พลห้าพันออกมาจากหลังเขาเข้าสกัดทาง เหมาตี๋ถูกจับเป็นเชลย ทังเฝิงสื้อถูกรุมแทงด้วยทวนตาย
อู๋จื๋อนำทัพเขาใต้ล่าถอยไปถึงสะพานติ้งเซียง 定香桥 พบทัพหลี่ขุย เป้าสวี้ เซี่ยงชง หลีกุ่น พลห้าร้อยสกัดทางไว้ สองขุนพลโล่ หมุนโล่ซัดมีดบินถูกหยวนซิงตาย เป้าสวี้ใช้ดาบฟันซูจิงตาย หลี่ขุยใช้ขวานจามเจ้าอี้ตาย
ทหารฝ่ายใต้กว่าครึ่งถูกต้อนลงทะเลสาบจมน้ำตาย ที่หนีรอดไปถึงเมืองมีทัพในเมืองหนุนออกมาช่วยไว้ แต่ทัพซ่งหลบกลับมาตามทางภูเขาหมด แล้วมารวมพลกันที่วัดหลิงอิ่น 灵隐寺 ทั้งหมดจับม้าศึกชั้นดีได้ถึงห้าร้อยกว่าตัว
ซ่งเจียงให้สือสิ้ว ฝานยุ่ย หม่าหลิน อยู่ช่วยหลี่จวิ้นที่ค่ายเขาซีหู เตรียมยกเข้าตีเมือง ส่วนตนนำไต้จง และพวกหลี่ขุยกลับค่ายที่เขาเกาถิง 皋亭山
อู๋ย่งออกมารอรับซ่งเจียงเข้ามาในกระโจม ซ่งเจียงว่า “อุบายครั้งนี้ เราสังหารขุนพลไปได้สี่นาย จับเหมาตี๋เป็นเชลยไว้รอส่งตัวไปให้จางเจาเถ่าตัดหัว”
ซ่งเจียงใคร่รู้ข่าวการรบทางด่านตู๋ซง 独松关 และเต๋อชิง 德清 จึงให้ไต้จงไปสืบข่าว ไต้จงไปได้หลายวันกลับมารายงานว่า แม่ทัพหลูข้ามด่านมาได้แล้ว อีกไม่ช้าจะยกทัพมาสมทบ
ซ่งเจียงได้ฟัง กึ่งกังวลระคนยินดี ถามถึงเหล่าขุนพลว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง ไต้จงว่า “รายละเอียดอยู่ในรายงานนี้แล้ว ท่านแม่ทัพอย่าได้กังวล”
ซ่งเจียงว่า “คงมีพี่น้องสูญเสียไปอีกแล้วสิ ท่านอย่าปิดบัง จงเล่าความมาตามจริง”
ไต้จงว่า “ท่านแม่ทัพหลูเข้าตีด่านตู๋ซง ด่านแห่งนี้สองข้างเป็นเขาสูง มีเส้นทางผ่านกลางเส้นเดียว เขาสูงค้ำด่าน ข้างด่านมีไม้ใหญ่ต้นหนึ่งสูงสิบกว่าจ้างสามารถมองเห็นได้จากรอบทิศ ใต้ต้นไม้เป็นดงสนทึบ
นายด่านเป็นขุนพลสามนายมี อู๋เซิง 吴升 เจี่ยงอิ้น 蒋印 เว่ยเฮิง 卫亨 ในวันแรกๆ ที่ออกรบหลินชงใช้ทวนงูแทงเจี่ยงอิ้นตาย อู๋เซิงจึงปิดด่านไม่ยอมออกรบ รอจนกระทั่งลี่เทียนยุ่น 厉天闰 นำทัพหนุนมาถึงพร้อมกับอีกสี่ขุนพล ลี่เทียนอิ้ว 厉天佑 จางเจี่ยน 张俭 จางเทา 张韬 เหยาอี้ 姚义
วันรุ่งขึ้นจึงออกจากด่านมารบใหม่ ลี่เทียนอิ้วรบกับหลวี่ฟางได้หกสิบเพลง ถูกหลวี่ฟางใช้ทวนจี่แทงตกม้าตาย ทหารโจรหนีเข้าด่านแล้วไม่ยอมออกรบอีกหลายวัน ท่านแม่ทัพหลูเห็นชัยภูมิบนสันเขาคับขัน จึงให้โอวเผิง เติ้งเฟย หลี่จง โจวทงนำทหารไปสำรวจ ลี่เทียนยุ่นต้องการล้างแค้นให้น้องชายจึงนำทหารมาโจมตี ใช้ง้าวสังหารโจวทงตาย หลี่จงบาดเจ็บ แต่สามขุนพลหนีกลับมาได้
วันรุ่งขึ้น ขุนพลทวนคู่ต่งผิงร้อนใจใคร่แก้แค้น จึงพาทหารไปยืนม้าด่าอยู่หน้าด่าน ไม่ทันระวังถูกปืนไฟยิงเข้าที่แขนซ้ายบาดเจ็บ กลับค่ายมา ใช้ทวนไม่ได้ต้องเข้าเฝือกแขนซ้ายไว้ วันรุ่งขึ้นจะไปแก้แค้นอีก ท่านแม่ทัพหลูห้ามไว้ ไม่ให้ไป
ผ่านคืนนั้นไป อาการที่แขนดีขึ้นใช้ทวนได้ จึงนัดแนะกับจางชิง ไม่ขี่ม้าแอบเดินเท้าไปที่ด่านไม่ให้ท่านแม่ทัพหลูรู้ ลี่เทียนยุ่น จางเทาจึงยกทัพออกจากด่านมารบ ต่งผิงใคร่จับตัวลี่เทียนยุ่น เดินเท้าใช้ทวนคู่เข้ารบกับลี่เทียนยุ่นได้สิบเพลง แขนซ้ายออกอาการใช้ทวนไม่ถนัด จึงรบถอย ลี่เทียนยุ่นตามมา
จางชิงถือทวนเข้าไปช่วย ลี่เทียนยุ่นหลบไปหลังต้นสน จางชิงใช้ทวนแทงไปปักติดกับต้นสน จะชักทวนกลับ ลี่เทียนยุ่นออกมาใช้ทวนแทงถูกท้องของจางชิงล้มลงกับพื้น ต่งผิงรีบกลับมาช่วย ไม่ทันระวัง จางเทาดอดมาข้างหลังใช้ง้าวฟันเอวขาดสองท่อน แม่ทัพหลูพอรู้ความ รีบยกทัพมาช่วย ศัตรูหนีเข้าด่านไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้
ซุนซิน กู้ต้าเส่าสองสามีภรรยา พาหลี่ลี่ ทังหลง สือเชียน ไป๋เสิ้ง ปลอมเป็นชาวบ้านหนีภัยสงครามเข้าไปในป่า ใช้เส้นทางน้อยหนีมาเข้าด่าน กลางดึกจึงพากันลอบวางเพลิง ขุนพลโจรเห็นไฟไหม้ในด่าน รู้ว่ามีไส้ศึกซ่งแทรกซึมเข้ามาได้แล้ว จึงทิ้งด่านหนี
แม่ทัพหลูนำทัพเข้าด่าน ซุนซิน กู้ต้าเส่าจับเป็นอู๋เซิงมาเป็นผลงาน หลี่ลี่ ทังหลงจับเจี่ยงอิ้นได้ สือเชียน ไป๋เสิ้งจับเว่ยเฮิงได้ เชลยทั้งสามได้ส่งตัวไปยังจางเจาเถ่าแล้ว ให้นำร่างของต่งผิง จางชิง โจวทงทั้งสามฝังไว้ในด่าน
แม่ทัพหลูนำทัพไล่ตามมาสี่สิบห้าลี้ทันทัพโจร เข้ารบกับลี่เทียนยุ่นได้สามสิบกว่าเพลง สังหารลี่เทียนยุ่นได้ เหลือจางเจี่ยน จางเทา เหยาอี้นำทหารเดนตายหนีกลับไปได้
ท่านแม่ทัพหลูจะมาถึงในไม่ช้า ท่านแม่ทัพโปรดดูจากรายงาน”
ซ่งเจียงอ่านรายงานแล้ว ยิ่งเพิ่มความกลัดกลุ้มจนน้ำตาไหลพราก
อู๋ย่งว่า “ท่านแม่ทัพหลูได้ชัยแล้ว ควรให้ไปช่วยฮูหยันจว๋อกระหนาบตีฝ่ายใต้ที่หูโจว”
ซ่งเจียงว่า “กล่าวได้ถูกต้องนัก”
จึงสั่งการให้หลี่ขุย เป้าสวี้ เซี่ยงชง หลีกุ่นนำพลเดินเท้าสามพันนายไปตามทางภูเขาไปสมทบ และแจ้งความแก่หลูจวิ้นอี้ หลี่ขุยเริงร่าได้ออกศึกรีบนำทัพไป
ซ่งเจียงสั่งการให้เข้าตีหางโจวทางประตูด้านตะวันออก จูถงนำเหล่าขุนพลและพลห้าพันใช้เส้นทางทังเจิ้น 汤镇路 เข้าตีทางประตูไฉ้สื้อ 菜市门 เส้นทางสายตะวันออกนี้เลียบริมแม่น้ำใหญ่ เรือกสวนไร่นาอุดมสมบูรณ์ หมู่บ้านร้านรวงคับคั่งพอกันกับในเมือง
พอมาถึงเชิงกำแพง ทัพตั้งแถวแปรขบวน หลู่จื้อเซินถือไม้เท้าเหล็กเดินเท้าขึ้นหน้ามายืนด่าท้ารบ
“ไอ้พวกหัวนกเขาเถื่อนหัวทู่ ออกมารบกัน มา !”
ทหารบนกำแพงเห็นสงฆ์มาท้ารบ จึงรายงานยังวังรัชทายาท ราชครูหยูไหลทรงกลดเติ้งหยวนเจว๋ 宝光如来国师邓元觉 ฟังว่าเป็นสงฆ์มาท้ารบ จึงลุกขึ้นทูลรัชทายาทว่า
“สงฆ์ผู้น้อย 小僧 ฟังมาว่า ที่เหลียงซานมีสงฆ์ชื่อหลู่จื้อเซินใช้ไม้เท้าเหล็กเป็นอาวุธ ขอเชิญฝ่าบาทเสด็จบนกำแพงเมืองทอดพระเนตรสงฆ์ผู้น้อยเดินเท้ารบ”
ฟางเทียนติ้งหัวเราะชอบใจ นำจอมพลสือเป่า กับอีกแปดขุนพลขึ้นบนกำแพงประตูไฉ้สื้อรอชมราชครูออกรบ ประตูเมืองเปิดทอดสะพานชัก ราชครูสวมจีวรแดงนำพลเดินเท้าห้าร้อยนายเดินออกมา
穿一领烈火猩红直裰,系一条虎筋打就圆绦,
挂一串七宝璎珞数珠,着一双九环鹿皮僧鞋。
衬里是香线金兽掩心,双手使铮光浑铁禅杖。
สวมจีวรสีแดงเพลิงเริงเปลว
คาดเอวรัดประคตเอ็นเสือสาง
สร้อยประคำร้อยมณีเจ็ดอย่าง
รองเท้าสงฆ์หนังกวางเก้าห่วง
ชั้นในจตุบาททองคุ้มครองทรวง
สองมือควงไม้เท้าเหล็กทอประกาย
หลู่จื้อเซินเห็นแล้วตรองว่า
“ที่แท้ฝ่ายใต้ก็มีไอ้โล้นนี่ ส่าเจียต้องสั่งสอนมันสักร้อยไม้เท้า”
สงฆ์ลงลายไม่พูดมากความควงไม้ขักขระเข้าหา ราชครูทรงกลดใช้ไม้ขักขระตั้งรับ ทั้งคู่รบกันด้วยไม้เท้าชนิดเดียวกัน
鲁智深忿怒,全无清净之心;
邓元觉生嗔,岂有慈悲之念?
这个何曾尊佛道,只于月黑杀人;
那个不会看经文,惟要风高放火。
这个向灵山会上,恼如来懒坐莲台;
那个去善法堂前,勒揭谛使回金杵。
一个尽世不修梁武忏,一个平生那识祖师禅?
หลู่จื้อเซินกราดเกรี้ยวกริ้วโกรธา
หาได้มีจิตใจใสสงบ
เติ้งหยวนเจว๋เพลิงโทสะอวลตลบ
หาไม่พบดวงจิตกรุณา
ฝ่ายนี้หาเคยใฝ่พระธรรม
พอยามฟ้ามืดค่ำเที่ยวเข่นฆ่า
ฝ่ายนั้นหาเคยสวดมนตรา
เคยแต่หาหนทางวางเพลิงสุม
ฝ่ายนี้เคยขึ้นชุมนุมเขาหลิงซาน
รังควานพระพุทธจากแท่นปทุม
ฝ่ายนั้นเคยเข้าหอสุธรรมประชุม
เค้นคอคุมทูตคะเตคืนสากทอง
ฝ่ายหนึ่งตลอดชีพหาเคยรู้
บทสวดเหลียงอู่ช่านไม่เคยท่อง
ฝ่ายหนึ่งชั่วชีวิตหาเคยตรอง
ครรลองคลองพระธรรมพระศาสดา
(เขาหลิงซาน 灵山 เขาคิชฌกูฏ)
(揭谛 คะเต คำทับศัพท์แปลว่า “ไป” มาจากปรัชญาปารมิตาหฤทัยสูตร คาถาตอนท้ายพระสูตร ที่ว่า “揭谛揭谛,波罗揭谛,波罗僧揭谛,菩提萨婆诃 คะเต คะเต ปารคะเต ปารสังคะเต โพธิสวาหา” นำมาใช้เป็นชื่อเรียก ธรรมทูต หรือ ชื่ออื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น 揭谛功 พลังคะเต)
(บทสวดเหลียงอู่ช่าน 梁武忏 คือ บทสวดปล่อยผี หรือบทสวดขอขมากรรมของพระเจ้าเหลียงอู่ตี้ 梁武帝)
หลู่จื้อเซินสู้กับราชครูทรงกลดได้ห้าสิบกว่าเพลง ไม่รู้แพ้ชนะ ฟางเทียนติ้งนั่งชมอยู่บนหอ กล่าวกับสือเป่าว่า
“เคยได้ยินแต่ชื่อสงฆ์ลงลายหลู่จื้อเซินแห่งเหลียงซาน ไม่คิดว่าจะร้ายกาจสมคำร่ำลือเช่นนี้ สู้กันมาตั้งนาน ไม่มีพลาดท่าเสียทีสงฆ์ทรงกลด 宝光和尚”
สือเป่าว่า “ข้าน้อยก็ทึ่งยิ่งนัก มิเคยเห็นการต่อสู้ที่สูสีดังนี้”
พลันมีม้าเร็วมารายงานว่า “มีกองทัพยกมาที่ประตูเป่ยกวน 北关门”
สือเป่ารีบลุกขึ้นขอตัวไปดู
ทางเชิงกำแพง ผู้จาริกอู่ซงเห็นหลู่จื้อเซินเอาชนะทรงกลดไม่ได้ ร้อนใจเกรงเพื่อนอาจเสียที จึงควงมีดศีลคู่วิ่งเข้ามาจะรุมรบทรงกลด ทรงกลดกลัวถูกรุม ลากไม้เท้าผละหนีจะเข้าเมือง อู่ซงวิ่งกวดตาม
ขุนพลเป้ยอิงขุย 贝应夔 ควบม้าออกมาจากในเมืองใช้ทวนเข้าสกัดอู่ซง ทั้งคู่รบกันอยู่บนสะพานชัก อู่ซงได้จังหวะทิ้งมีดศีลในมือข้างหนึ่ง รวบทวนแล้วกระชากจนตกจากหลังม้า แล้วฟันฉับด้วยมีดศีลอีกเล่ม ตัดหัวเป้ยอิงขุยขาดกระเด็น
หลู่จื้อเซินนำทหารตามมาคุ้มกันอู่ซงถอยกลับ ฟางเทียนติ้งให้ทหารถอยเข้าเมืองแล้วชักสะพานขึ้น จูถงให้ถอยทัพสิบลี้ค่อยตั้งค่าย แล้วรายงานข่าวชัยชนะไปยังซ่งเจียง
ทางฝ่ายซ่งเจียงนำทัพมาท้ารบที่ประตูเป่ยกวน สือเป่าติดค้อนดาวตกขึ้นม้า มือถือดาบสลาตัน 劈风刀 เปิดประตูเมืองออกมารับศึก ฝ่ายทัพซ่งง้าวใหญ่กวนเสิ้งเข้ารบกับสือเป่า สู้กันได้ยี่สิบกว่าเพลง สือเป่าชักม้าหนี กวนเสิ้งไม่ไล่ตาม ขี่ม้ากลับกระบวน
ซ่งเจียงถามว่า “ทำไมจึงไม่ไล่ตาม”
กวนเสิ้งว่า “เพลงดาบของสือเป่าไม่ได้ด้อยกว่าง้าวของกวนเสิ้ง ชักม้าหนีไปเช่นนี้ คงต้องมีแผน”
อู๋ย่งว่า “ต้วนไข่เคยบอกว่า คนผู้นี้ชำนาญขว้างค้อนดาวตก หนีไปเช่นนี้คงล่อให้เราตาม”
ซ่งเจียงว่า “พอเราตาม คงลงมือเล่นงาน เช่นนั้นก็ถอยทัพกลับกันก่อน จะได้ไปรางวัลอู่ซงด้วย”
กล่าวถึงหลี่ขุยนำทัพพลเดินเท้าไปหาหลูจวิ้นอี้ ระหว่างทางภูเขา พบจางเจี่ยนนำทหารเดนตายหนีมา จึงตรงเข้ารบสังหารเหยาอี้ได้ จางเจี่ยน จางเทานำทหารถอยกลับทางเดิมไปปะกับทัพหลูจวิ้นอี้ที่ไล่ตามมา เกิดปะทะกัน จางเจี่ยน จางเทาทิ้งม้าหนีไปตามทางน้อย ไปถึงดงไผ่ พบเซี่ยเจิน เซี่ยเป่าดักทางไว้ใช้สามง่ามหวดล้มจับเป็นได้ นำตัวกลับมาพบหลูจวิ้นอี้ หลูจวิ้นอี้จึงสมทบทัพหลี่ขุยกลับมาหาซ่งเจียงที่ค่ายใหญ่เขาเกาถิง 皋亭山 แล้วเล่าเรื่องที่เสียต่งผิง จางชิง โจวทงให้ฟัง ทั้งค่ายต่างเศร้าเสียใจ
วันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงให้นำตัวจางเจี่ยนส่งไปให้จางเจาเถ่าลงโทษตัดหัวเสียบประจาน ส่วนจางเทานั้นให้คว้านท้องควักหัวใจออกมาเซ่นไหว้ต่งผิง จางชิง โจวทงที่ค่าย แล้วซ่งเจียงก็ให้หลูจวิ้นอี้นำทัพไปช่วยฮูหยันจว๋อตีอำเภอเต๋อชิง 德清县
หลูจวิ้นอี้เดินทัพมาทางตำบลเฟิ่งโข่ว 奉口镇 พบซือสิงฟาง 司行方 พาทหารแตกทัพหนีมา จึงเข้าสกัด ซือสิงฟางพลัดตกน้ำ จมน้ำตาย ทหารที่เหลือแตกหนี ฮูหยันจว๋อนำทัพไล่ตามมาถึงพบเข้าจึงสมทบทัพกลับมาหาซ่งเจียง
ซ่งเจียงไม่เห็นเหลยเหิง กงว่างกลับมากับฮูหยันจว๋อ ฮูหยันจว๋อรายงานว่า
“เหลยเหิงรบกับซือสิงฟางหน้าประตูทิศใต้ของเต๋อชิงได้สามสิบเพลง ถูกซือสิงฟางฟันตกม้าตาย กงว่างรบกับหวงอ้ายอยู่จึงชักม้าหนีข้ามคลอง พลัดตกคลองทั้งม้าทั้งคน ทหารฝ่ายใต้ตามมาใช้ทวนรุมแทงตาย สว่อเชาใช้ขวานฆ่าหมี่เฉวียนตาย หวงอ้าย สวีไป๋ถูกจับเป็น ซือสิงฟางจมน้ำตายระหว่างหนี มีเพียงเซวียโต่วหนาน 薛斗南 หนีรอดไปได้ระหว่างรบชุลมุน ไม่ทราบว่าไปทางใด”
ซ่งเจียงรู้ว่าเสียเหลยเหิง กงว่างไปอีกสองคน ก็น้ำตาไหลพรากกล่าวว่า
“วันก่อนจางซุ่นมาเข้าฝัน เห็นเงาร่างโชกเลือดอีกสามสี่เงาอยู่ด้านข้าง ที่แท้ก็คือ ต่งผิง จางชิง โจวทง เหลยเหิง กงว่างนี่เอง ข้าเข้าเมืองหนิงไห่หางโจวได้เมื่อไร ต้องทำบุญใหญ่อุทิศส่วนกุศลให้แก่พี่น้อง”
แล้วให้นำตัวหวงอ้าย สวีไป๋ส่งไปให้จางเจาเถ่าตัดหัวเสียบประจาน
ตอนก่อนหน้า : จางซุ่นพลีชีพ
ตอนถัดไป : ภูตจางซุ่น
โฆษณา