Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
28 พ.ค. เวลา 10:02 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 254 จางซุ่นพลีชีพ
ในวันนั้น จางซุ่นกล่าวกับหลี่จวิ้นว่า
“ทหารฝ่ายใต้ถอยเข้าเมืองหางโจวไปหมด พวกเราตั้งค่ายอยู่ที่นี่มาได้กว่าครึ่งเดือนแล้วยังไม่ได้ออกรบ อยู่แต่ในเขานี่ เมื่อไรจะได้สร้างผลงาน ผู้น้องอยากจะดำน้ำข้ามทะเลสาบ ลอบเข้าเมืองทางประตูน้ำ ไปจุดไฟเผาเมืองเป็นสัญญาน พี่ท่านก็ยกกำลังไปยึดประตูน้ำเอาไว้ จากนั้นรายงานท่านแม่ทัพให้บุกตีเมืองทั้งสามด้าน”
หลี่จวิ้นว่า “แผนนี้ถึงจะดี แต่เกรงว่าลำพังกำลังน้องเราจะทำไม่สำเร็จ”
จางซุ่นว่า “แม้จะสละชีพนี้แก่ท่านพี่แม่ทัพเพื่อตอบแทนน้ำใจไมตรีตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็ไม่นับว่าเกินไป”
หลี่จวิ้นว่า “น้องเราอย่าเพิ่งไป รอข้ารายงานท่านพี่ให้ตระเตรียมกำลังตามแผนก่อน”
จางซุ่นว่า “ทางนี้ข้าเข้าไป พี่ท่านไปรายงาน พอผู้น้องถึงในเมืองลงมือ ท่านพี่แม่ทัพก็รู้เองว่าจะทำอย่างไร”
เย็นนั้น จางซุ่นเหน็บมีดใบผักแพวปลายแหลม กินอาหารจนอิ่ม เดินมาริมทะเลสาบซีหู 西湖 มองไปโดยรอบ สามด้านเป็นขุนเขาเขียว เบื้องหน้าเป็นทะเลสาบ ข้ามฟากไปเป็นตัวเมืองหางโจวเห็นประตูสี่แห่งอยู่ริมทะเลสาบ ประตูเฉียนถัง 钱塘门 ประตูหย่งจิน 涌金门 ประตูชิงปอ 清波门 ประตูเฉียนหู 钱湖门
อันเมืองหางโจวนี้ก่อนยุคซ่งเรียกว่าตำบลชิงเหอ 清河镇 มายุคเฉียนหวาง 钱王 ปกครอง เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น เมืองหางโจวหนิงไห่ 杭州宁海军 (军 เมืองระดับจวิน) สร้างประตูเมืองสิบประตู ทางตะวันออกมีประตูไฉ้สื้อ 菜市门 ประตูเจี้ยนเฉียว 荐桥门 ทางใต้มีประตูโฮ่วเฉา 候潮门 ประตูจยาหุ้ย 嘉会门 ทางเหนือมีประตูเป่ยกวน 北关门 ประตูเกิ่นซาน 艮山门 ทางตะวันตกมีสี่ประตูที่กล่าวถึงข้างต้น
มายุคที่ซ่งเกาจง 宋高宗 ย้ายเมืองหลวงลงใต้ เปลี่ยนชื่อเมืองเป็น เมืองฮวาฮวาหลินอัน 花花临安府 สร้างประตูเพิ่มอีกสามแห่ง แต่นั่นเป็นเหตุการณ์ในภายหน้า ในสมัยฟางล่านี้ตัวเมืองยังคงเป็นเช่นที่เฉียนหวางสร้างไว้ ตัวเมืองกว้างยาวโดยรอบแปดสิบลี้ เจริญรุ่งเรือง ผู้คนมั่งคั่ง ทิวทัศน์งดงาม จนมีคำกล่าวว่า
上有天堂,下有苏杭。
เบื้องบนมีสรวงสวรรค์
เบื้องล่างนั้นมีซูหาง
江浙昔时都会,钱塘自古繁华。
休言城内风光,且说西湖景物:
有一万顷碧澄澄掩映琉璃,列三千面青娜娜参差翡翠。
春风湖上,艳桃浓李如描;
夏日池中,绿盖红莲似画。
秋云涵如,看南国嫩菊堆金;
冬雪纷飞,观北岭寒梅破玉。
九里松青烟细细,六桥水碧响泠泠。
晓霞连映三天竺,暮云深锁二高峰。
风生在猿呼洞口,雨飞来龙井山头。
三贤堂畔,一条鳌背侵天;
四圣观前,百丈祥云缭绕。
苏公堤东坡古迹,孤山路和靖旧居。
访友客投灵隐去,簪花人逐净慈来。
平昔只闻三岛远,岂知湖北胜蓬莱?
เจียงเจ้อ 江浙 แต่โบราณเป็นเมืองใหญ่
เฉียนถัง 钱塘 แต่ไหนไรมาฟุ้งเฟื่อง
มิพักกล่าวถึงในตัวเมือง
มาคุยเรื่องทัศนีย์ซีหู 西湖 กัน
ผืนน้ำใสหมื่นชิง 顷 กว้างไพศาล
เขียวใสปานมรกตสดสีสัน
เขารายรอบดังใบหน้านับพัน
แลขุระขระหลั่นลดหยกมณี
สายลมวสันต์เหนือทะเลสาบ
เถาหลี่ 桃李 งามดังภาพเขียนสดสี
แดดคิมหันต์ตกต้องท้องวารี
กอบัวแดงมีใบเขียวป้ายสีปาด
มวลเมฆฤดูสารทโบยบดบัง
เหลืองดังทองท้องทุ่งเบญจมาศ
หิมะเหมันต์ว่อนนภากาศ
เหมยยอดเขาผงาดแดงแทงแผ่นหยก
สนเก้าลี้ 九里松 ยืนต้นเรียงถี่ถึ่
หกสะพาน 六桥 มีน้ำใสไหลวนวก
ซานเทียนจู๋ 三天竺 แดงแสงวลาหก
เมฆสายัณห์ปกคลุมสองยอดสิงขร 二高峰
เสียงลมอู้อยู่ปากถ้ำลิงกู่ 猿呼洞 (ถ้ำหยวนฮู)
ฝนพร่างพรูเหนือหลงจิ่ง 龙井 บ่อมังกร
ซานเสียนถัง 三贤堂 หลังเต่าอ๋าวชนอัมพร
สื้อเสิ้งกวน 四圣观 ก้อนเมฆมังคลาตระการ
เขื่อนซูตี 苏堤 กวีตงพอ 东坡 ลือชื่อ
กูซาน 孤山 คือบ้านเหอจิ้ง 和靖 และสุสาน
เคยยินแต่สามเกาะสวรรค์มาเนิ่นนาน
หารู้ว่าด้านเหนือซีหูยิ่งเผิงไหล 蓬莱
(九里松、六桥、三天竺、南北高峰、猿呼洞、龙井、三贤堂、四圣观、苏堤、孤山 สิบทิวทัศน์ชวนชมของทะเลสาบซีหู
สามเกาะสวรรค์โพ้นทะเล มีเกาะเผิงไหล 蓬莱 เป็นหนึ่งในสามเกาะ)
มหากวีซูตงพอ 苏东坡 รจนาบทกวีเทียบความงามของซีหูกับโฉมสะคราญซีซือ 西施 (ไซซี) ไว้ว่า
湖光潋滟晴偏好,山色空蒙雨亦奇。
若把西湖比西子,淡妆浓抹也相宜。
ท้องวารีวาววิบวับขับฟ้าใส
ขุนเขาในไอพิรุณขุ่นพรมพร่าง
แม้นเปรียบซีหูคู่ซีซือนวลปราง
จะแต่งแต้มหนาบางช่างงามเหมาะ
(ซีจื่อ 西子 คือ ซีซือ 西施 (ไซซี) หนึ่งในสี่โฉมงาม)
กวีเอกโอวหยางซิว 欧阳修 ประพันธ์ฉือ 词 ชมซีหูไว้ว่า
湖上朱桥响画轮,溶溶春水浸春云,碧琉璃滑净无尘。
当路游丝迎醉客,入花黄鸟唤行人,日斜归去奈何春!
เสียงล้อบนสะพานแดงเหนือเลสาบ
เห็นภาพเมฆแช่ในน้ำวสันต์ใส
แผ่นหยกขจีไร้ธุลีต้องตา
ใยแมลงพันแข้งขาผู้สัญจรหลง
สกุณาเพรียกหาในดงบุปผา
สุรีย์สาดแสงลาแล้ววสันต์
จางซุ่นเดินมายังสะพานซีหลิง 西陵桥 ยืนชมทิวทัศน์วสันตฤดูอยู่เนิ่นนาน น้ำในทะเลสาบสีฟ้าใส ขุนเขารายรอบเขียวขจี จางซุ่นรำพึงว่า
“ตัวข้าเกิดมาในลุ่มน้ำสวินหยาง 浔阳 ผ่านคลื่นลมมามากมาย ยังไม่เคยเห็นทะเลสาบงดงามเช่นนี้ หากต้องมาตายที่นี่ แม้เป็นผีก็มีความสุข”
กล่าวจบ ถอดเสื้อผ้าวางไว้ใต้สะพาน มุ่นมวยผมด้วยผ้าแดง ใส่กางเกงว่ายน้ำ ผูกไถ้ตาป๋อ 搭膊 คาดมีดไว้กับเอว ถอดรองเท้าแล้วพุ่งตัวลงในน้ำ ดำข้ามทะเลสาบมา
เพลายามต้น พระจันทร์ทอแสงอ่อน จางซุ่นคลำทางมาใกล้ประตูหย่งจิน 涌金门 โผล่หัวขึ้นเหนือน้ำ ได้ยินเสียงกลองยามในเมืองย่ำบอกเวลายามหนึ่งสี่เตี่ยน นอกเมืองเงียบเชียบ ไร้เงาผู้คน ข้างใบเสมาบนกำแพงมีทหารยืนอยู่สี่ห้าคน จางซุ่นดำลงน้ำอีก รออยู่พักใหญ่ โผล่หัวขึ้นมา ทหารข้างใบเสมาไปกันหมดแล้วไม่เห็นใคร
จางซุ่นคลำทางไปปากช่องประตูมีลูกกรงเหล็กกั้นอยู่ ล้วงมือเข้าไปพบม่านกั้นน้ำอีกชั้น บนม่านมีเชือกผูกกระดิ่งไว้เป็นพวง จางซุ่นเห็นลูกกรงเหล็กแข็งแรงเข้าเมืองไม่ได้ ยื่นมือเข้าไปดันม่านดู ทำให้กระดิ่งบนเชือกส่งเสียงดัง บนกำแพงมีเสียงคนตะโกน จางซุ่นรีบดำไปซ่อนตัวในทะเลสาบ มีเสียงคนลงมาจากกำแพงตรวจดูม่านน้ำ แต่ไม่พบอะไร เสียงบนกำแพงว่า
“กระดิ่งดังผิดปกติ อาจจะเป็นปลาใหญ่ว่ายน้ำมาชน”
พอตรวจดูว่าไม่มีอะไร ก็พากันกลับไปนอน
จางซุ่นฟังเสียงกลองย่ำบอกเวลายามสาม คาดว่าพวกทหารคงนอนหลับสลบไสลกันไปหมดแล้ว ดำปราดมาข้างกำแพง ในเมื่อเข้าทางน้ำไม่ได้ก็ลองปีนขึ้นมาดูบนฝั่ง บนกำแพงมองดูไม่เห็นใคร คิดอยากจะปีนขึ้นไปบนกำแพง แต่มาตรองว่า
“หากมีคนอยู่บนกำแพง มิขึ้นไปตายเปล่าหรอกหรือ ต้องทดสอบดูหน่อย”
จางซุ่นคว้าก้อนดินโยนขึ้นไปบนกำแพง มีทหารยังไม่หลับยามร้องเอะอะขึ้นมา แล้วมีคนลงมาตรวจดูประตูน้ำกันใหม่ก็ยังไม่เห็นใคร ขึ้นหอยามบนกำแพงมองสำรวจดูในทะเลสาบ ก็ไม่เห็นมีเรือสักลำ ด้วยว่ามีคำสั่งจากฟางเทียนติ้งว่า เรือในทะเลสาบซีหูให้จอดได้เฉพาะที่ประตูชิงปอ 清波门 และในอ่าวจิ้งฉือ 净慈港 เท่านั้น ประตูอื่นห้ามจอดเรือ
เสียงคนว่า “แปลกจริง คงเป็นภูตผี ไปนอนกันดีกว่า อย่าไปสนใจ” กล่าวคำกันเช่นนั้น แต่พากันไปแอบอยู่ข้างใบเสมา
จางซุ่นรอเวลาผ่านไปอีกหนึ่งชั่วยาม ไม่เห็นมีความเคลื่อนไหว จึงมายังข้างกำแพง ข้างบนไม่มีแม้แต่เสียงกลองยาม จางซุ่นไม่กล้าขึ้นไป หยิบก้อนดินโยนขึ้นบนกำแพงอีก ยังคงเงียบสงบ จางซุ่นตรองว่า
“นี่ยามสี่แล้ว ฟ้าใกล้สว่าง ไม่ขึ้นไปตอนนี้ จะรอเมื่อไร”
จางซุ่นปีนกำแพงไปได้ครึ่งทาง มีเสียงเคาะเกราะดังขึ้น พวกทหารโผล่กันขึ้นมา จางซุ่นโดดจากกลางกำแพงจะลงน้ำดำหนี ทหารระดมยิงธนูหน้าไม้และทิ้งหิน น่าเสียดายจางซุ่นผู้หาญกล้า ต้องมาตายกลางน้ำหน้าประตูหย่งจิน 涌金门
曾闻善战死兵戎,善溺终然丧水中。
瓦罐不离井上破,劝君莫但逞英雄。
เชี่ยวชาญศึกมักตายใต้คมอาวุธ
เก่งมุดน้ำที่สุดตายในวารี
ไหดินแตกไม่พ้นปากบ่อที
ขอจงฟังอย่าถือดีเป็นวีรชน
(瓦罐不离井上破 ไหดินใส่น้ำมักต้องแตกที่ปากบ่อ)
กล่าวถึงซ่งเจียงรับรายงานจากหลี่จวิ้นว่า จางซุ่นจะดำน้ำเข้าเมืองไปวางเพลิง จึงสั่งการไปยังทัพที่ประตูให้เตรียมพร้อม
คืนนั้น ซ่งเจียงหารือการศึกกับอู๋ย่งจนถึงยามสี่ รู้สึกอ่อนล้า จึงให้คนออกไปจากกระโจม แล้วฟุบหลับไป พลันมีกระแสลมเย็นโชยมา ซ่งเจียงลุกขึ้นมามองหา เห็นแสงตะเกียงดับมืดลง ไอเย็นหนาวสะท้าน เพ่งตามองเห็นเงาร่างหนึ่งเหมือนคนแต่ไม่ใช่คน เหมือนผีแต่ไม่ใช่ผี ยืนอยู่กลางไอเย็น ร่างนั้นชุ่มโชกเลือด กล่าวเสียงแผ่วแผ่วว่า
“ผู้น้องติดตามพี่ท่านมาหลายปี ได้รับความรักความเมตตาอยู่มากล้น บัดนี้ขอพลีชีพทดแทนพระคุณ ตายใต้คมธนูที่ประตูหย่งจิน จึงมาขออำลาพี่ท่าน ณ เบื้องนี้”
ซ่งเจียงว่า “นี่มิใช่จางซุ่นน้องเราหรือ”
หันมองอีกทีเห็นยังมีเงาร่างมัวซัวโชกเลือดสามสี่เงา ซ่งเจียงร้องไห้เสียงดัง แล้วสะดุ้งตื่นในทันใด ที่แท้เป็นแค่ฝัน คนข้างนอกได้ยินเสียงซ่งเจียงร้องไห้ รีบเข้ามาดู
ซ่งเจียงว่า “แปลกแท้” แล้วให้ตามเสธ.มาทำนายฝัน
อู๋ย่งว่า “พี่ท่านคงเหน็ดเหนื่อยเกินไปจึงได้ฝันประหลาด”
ซ่งเจียงว่า “เมื่อครู่หนาวยิ่งนัก เห็นชัดกับตาว่าจางซุ่นร่างชุ่มเลือด ยืนอยู่ตรงนี้บอกข้าว่า “ผู้น้องติดตามพี่ท่านมาหลายปี ได้รับความรักความเมตตาอยู่มากล้น บัดนี้ขอพลีชีพทดแทนพระคุณ ตายใต้คมธนูที่ประตูหย่งจิน จึงมาขออำลาพี่ท่าน ณ เบื้องนี้” พอหันหน้ามาอีกทีก็เห็นร่างชุ่มเลือดอีกสามสี่เงาแต่ไม่ชัด จึงร้องไห้แล้วตื่น”
อู๋ย่งว่า “เมื่อเช้า หลี่จวิ้นมาแจ้งว่า จางซุ่นจะข้ามทะเลสาบเข้าไปวางเพลิงในเมือง พี่ท่านคงเก็บเอามาเป็นฝันร้าย”
ซ่งเจียงว่า “เพียงคิดว่าจางซุ่นเป็นคนหลักแหลม ตายไปโดยไม่ควร”
อู๋ย่งว่า “จากซีหูถึงริมกำแพงเมือง เป็นเขตอันตราย ถ้าเข้าไปคงต้องตาย วิญญานจางซุ่นจึงได้มาเข้าฝันพี่ท่าน”
ซ่งเจียงว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น อีกสามสี่คนที่เห็นน่าจะเป็นใคร”
อู๋ย่งไม่รู้จะตอบเช่นไร นั่งกันจนฟ้าสาง ในเมืองยังไม่มีความเคลื่อนไหว พอหลังเที่ยง หลี่จวิ้นให้ม้าเร็วมารายงานว่า
“จางซุ่นไปเข้าเมืองทางประตูหย่งจิน ถูกธนูตายในน้ำ บัดนี้ศีรษะถูกเสียบไม้ไผ่ปักอยู่บนกำแพงเมืองฝั่งซีหู เขียนป้ายข้อความบอก”
ซ่งเจียงฟังรายงานแล้วร้องไห้จนสลบไป เหล่าพี่น้องล้วนเศร้าเสียใจ ด้วยว่าจางซุ่นเป็นที่รักใคร่ของทุกคน
ซ่งเจียงว่า “ข้าจัดงานศพให้พ่อแม่ ก็ยังไม่เจ็บปวดรวดร้าวใจปานนี้”
อู๋ย่งและพวกปลอบว่า “พี่ท่านโปรดเห็นแก่บ้านเมือง อย่าให้ความสัมพันธ์ฉันพี่น้องทำให้ต้องเสียสุขภาพ”
ซ่งเจียงว่า “ข้าจะต้องไปไว้อาลัยที่ริมทะเลสาบ”
อู๋ย่งว่า “พี่ท่านไม่ควรเข้าไปเสี่ยงในพื้นที่อันตราย หากศัตรูรู้ จะแห่กันมาโจมตี”
ซ่งเจียงว่า “ข้ามีแผนรับมือ”
แล้วสั่งการให้หลี่ขุย เป้าสวี้ เซี่ยงชง หลีกุ่นนำทหารห้าร้อยลาดตระเวนนำหน้า ซ่งเจียงนำสือสิ้ว ไต้จง ฝานยุ่ย หม่าหลินนำทหารห้าร้อยตามหลัง ลอบใช้เส้นทางน้อยเขาซีซานไปยังค่ายของหลี่จวิ้น หลี่จวิ้นนำไปพำนักกับเจ้าอาวาสวัดหลิงอิ่น 灵隐寺 ซ่งเจียงร่ำไห้แล้วขอให้ทางวัดช่วยสวดมนตร์ให้แก่จางซุ่น
เย็นวันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงให้ทหารนำธงขาวไปปักริมน้ำ บนธงเขียนว่า
“ดวงวิญญานของขุนพลเอกจางซุ่นน้องชายผู้ล่วงลับ
亡弟正将张顺之魂”
ตั้งเครื่องสักการะเรียงรายบนสะพานซีหลิง 西陵桥
สั่งการให้หลี่ขุยนำกำลังไปซุ่มที่ปากทางเขาทิศเหนือพร้อมทั้งนัดแนะเรื่องการลงมือ
ให้ฝานยุ่ย หม่าหลิน สือสิ้วซุ่มอยู่ซ้ายขวา ให้ไต้จงติดตามอยู่ข้างกายตน
เวลาประมาณยามหนึ่ง ซ่งเจียงสวมชุดศึกสีขาว หมวกศึกสีทองคาดผ้าไว้ทุกข์ พร้อมกับไต้จงและสงฆ์เจ็ดรูปขึ้นไปบนสะพานซีหลิง ทหารนำหมูดำแพะขาว เงินทอง วางเรียงเป็นเครื่องเซ่น จุดเทียนและโคมสว่างไสว จุดเครื่องหอมกำจาย
ซ่งเจียงร่ำไห้ หันหน้าหาประตูหย่งจินกล่าวคำปฏิญาณ ไต้จงยืนอยู่ด้านข้าง หมู่สงฆ์สั่นกระดิ่งสวดมนตร์ เอ่ยนามส่งวิญญานจางซุ่น ลดธงลง ไต้จงอ่านคำสักการะ ซ่งเจียงรดสุราคารวะ แหงนหน้ามองฟ้าแล้วร่ำไห้
1
เสียงกลองศึกดังขึ้นที่เขาคู่เหนือใต้ 南北两山
只因恩义如天大,惹起兵戈卷地来。
พระคุณ ใจภักดิ์ ใหญ่คับนภา
แหย่สรรพาวุธมาแน่นพิภพ
ตอนก่อนหน้า : เสียหมอเทวดา มือทวนทอง
https://www.blockdit.com/posts/68343ec6a6cd6c32ae08c28b
ตอนถัดไป : เสียขุนพลทวนคู่ ศรไร้ขน เสือติดปีก
1 บันทึก
5
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน ภาคจบ (ซ้องกั๋ง 20 ตอนสุดท้าย)
1
5
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย