31 พ.ค. เวลา 11:01 • ประวัติศาสตร์

แอดมินเล่าเรื่อง: “เมืองหัวเว่ย” (Huế) – เสน่ห์จักรพรรดิแห่งเวียดนามตอนกลาง

🏯
สวัสดีครับทุกคน!
ใครเคยไปเวียดนามแล้วหลงรักฮานอยหรือโฮจิมินห์มาบ้าง? วันนี้แอดมินอยากพาเพื่อน ๆ เบนเข็มมาทางตอนกลางของประเทศ ไปที่ “หัวเว่ย” (Huế) เมืองที่เคยเป็นหัวใจของอาณาจักร และเป็นที่ตั้งของราชวงศ์เหงียนอันยิ่งใหญ่!
เมืองนี้ไม่ได้มีดีแค่ปราสาทหรือวัดวา…
แต่มันคือ “ภาพจำของราชวงศ์” ที่ยังหายใจอยู่ในทุกตารางเมตร
📍 หัวเว่ยคืออะไร? อยู่ตรงไหน?
หัวเว่ย (Huế) เป็นเมืองหลวงเก่าแก่ของเวียดนาม อยู่ในจังหวัด เถื่อเทียน-เว้ (Thừa Thiên-Huế)
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม (Sông Hương) ซึ่งเชื่อกันว่าแม่น้ำสายนี้มีกลิ่นหอมในฤดูใบไม้ร่วง และเป็นที่มาของชื่อ!
หากขับรถจากดานังขึ้นเหนือไปประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะถึงเมืองแห่งประวัติศาสตร์นี้
👑 หัวเว่ย – เมืองหลวงสุดท้ายของราชวงศ์เวียดนาม
หัวเว่ยเคยเป็น เมืองหลวงของเวียดนาม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1802 – 1945
ในยุคของ ราชวงศ์เหงียน (Nguyễn Dynasty) ซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายของเวียดนาม
จักรพรรดิองค์แรกคือ เหงียน ฟุก อานห์ (Nguyễn Phúc Ánh) หรือที่รู้จักในพระนามจักรพรรดิ เกีย ลอง (Gia Long)
ท่านเป็นผู้รวมเวียดนามเหนือ กลาง ใต้เข้าด้วยกัน และสถาปนาเมืองหัวเว่ยเป็นราชธานี
ในยุครุ่งเรือง หัวเว่ยคือ…
• 🎎 ศูนย์กลางของอำนาจ การปกครอง และราชสำนัก
• 🏯 ที่ตั้งของพระราชวังจักรพรรดิอันโอ่อ่า
• 🧧 แหล่งศิลปวัฒนธรรมจีน-เวียดผสมผสานที่หรูหราที่สุดในภูมิภาค
🏯 พระราชวังจักรพรรดิ (Imperial City of Huế)
ไฮไลต์ของหัวเว่ยที่ทุกคนต้องไปเยือนคือ พระราชวังจักรพรรดิ (Đại Nội)
ซึ่งสร้างตามแนวทางของพระราชวังต้องห้ามในปักกิ่ง ประเทศจีน
ประกอบด้วยกำแพงล้อมรอบหลายชั้น, ประตูชัย, พระราชฐาน, ศาลา และสวนในแบบราชสำนักเต็มรูปแบบ
แม้จะถูกทำลายบางส่วนจากสงครามเวียดนามและยุคอาณานิคมฝรั่งเศส
แต่หลายส่วนได้รับการบูรณะ และยังคงความสง่างามในแบบ “เมืองจักรพรรดิ”
🪦 สุสานจักรพรรดิ – ความงามในความสงบ
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้หัวเว่ยโดดเด่น คือ สุสานของเหล่าจักรพรรดิราชวงศ์เหงียน
ที่ไม่ได้เป็นแค่ “สุสาน” แต่คือ งานศิลป์ระดับมาสเตอร์พีซ ตั้งอยู่ท่ามกลางภูเขา แม่น้ำ และต้นไม้ใหญ่
ตัวอย่างสุสานยอดนิยม:
• สุสานตือดึ๊ก (Tự Đức): ร่มรื่น อ่อนช้อย เน้นธรรมชาติ
• สุสานไคดิงห์ (Khai Định): หรูหราอลังการ สไตล์ฝรั่งเศสผสมจีน
• สุสานมิงห์หมัง (Minh Mạng): สมมาตรแบบปรัชญาขงจื๊อ
สุสานเหล่านี้คือ “นิยามของอำนาจ ความงาม และปรัชญาชีวิต” ในวัฒนธรรมเวียดนาม
🎨 หัวเว่ย เมืองแห่งศิลปะ และวัฒนธรรม
หัวเว่ยไม่ได้มีแค่เรื่องของจักรพรรดิ แต่ยังเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม
วัฒนธรรมเด่น ๆ ของหัวเว่ย:
• 🎼 ดนตรีราชสำนักหัวเว่ย (Nhã nhạc): ดนตรีศักดิ์สิทธิ์ระดับยูเนสโก
• 🍱 อาหารหัวเว่ย: เช่น ขนมเบื้องเวียดนาม (Bánh bèo), ขนมจีบหัวเว่ย (Bánh nậm), หรือขนมข้าวเหนียวหลากสี (Chè Huế)
• 🎭 วรรณคดี ร้อยกรอง และการแสดงแบบราชสำนัก
⚔️ หัวเว่ยในสงคราม – เมืองแห่งความทรงจำ
หัวเว่ยเคยเป็นหนึ่งในพื้นที่ปะทะหลักในช่วง สงครามเวียดนาม โดยเฉพาะใน “ยุทธการหัวเว่ย (Battle of Huế)” ปี ค.ศ. 1968
ซึ่งเป็นหนึ่งในการสู้รบที่โหดร้ายที่สุด ส่งผลให้พระราชวังและเมืองถูกทำลายไปหลายส่วน
แต่หัวเว่ยก็ลุกขึ้นใหม่อีกครั้งในยุคสมัยใหม่ พร้อมรักษารากเหง้าของตนไว้ทุกอณู
🌍 ขึ้นทะเบียนมรดกโลก
ในปี 1993 พระราชวังจักรพรรดิในหัวเว่ย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม จากยูเนสโก
ในฐานะ:
“ตัวอย่างของเมืองหลวงจักรวรรดิในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวมเอาสถาปัตยกรรม การปกครอง และปรัชญาแบบราชสำนักอย่างลงตัว”
🧠 สรุป: หัวเว่ย – เมืองที่พูดกับหัวใจ
หัวเว่ยไม่ใช่เมืองธรรมดา
แต่มันคือ “ชีวิตของราชวงศ์” ที่ยังคงอยู่ในลมหายใจของวัดวา ศาลา บทกวี และเสียงเพลงราชสำนักที่ยังขับกล่อมในยามเย็น
หากคุณอยากรู้ว่า “เวียดนามเคยยิ่งใหญ่แค่ไหนในสายตาจักรพรรดิ”
จงมาหัวเว่ย แล้วคุณจะเข้าใจ
#แอดมินเล่าเรื่อง #เมืองหัวเว่ย #Huế #เวียดนามกลาง #ราชวงศ์เหงียน #ImperialCity #สุสานจักรพรรดิ #เมืองมรดกโลก #Nhãnhạc #เที่ยวเวียดนาม
ถ้าใครอยากให้แอดมินเล่าต่อเรื่องพระราชวังต้องห้ามที่จีน หรือเปรียบเทียบหัวเว่ยกับอโยธยา-อยุธยาของไทย ก็คอมเมนต์หรือทักมาบอกกันได้เลยนะครับ!
โฆษณา