2 มิ.ย. เวลา 03:15 • ธุรกิจ

อย่าใส่ไข่ทั้งหมด ไว้ในตะกร้าใบเดียว! ถอดรหัส “Start Smart” และพลังมหัศจรรย์สร้างเงินออมให้เติบโต

ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน การวางแผนทางการเงินที่รอบคอบและมั่นคงจึงกลายเป็นทักษะจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เสาวรส ทวีบรรจงสิน ที่ปรึกษาทางการเงิน ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้นำเสนอแนวคิด "Start Smart" ภายในงาน "Thairath Money Roadshow 2025" ที่ได้เปิดโลกการเงินให้คนไทย ในครั้งแรกของปี 2568 โดยจัดขึ้นที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัล โคราช เพื่อเป็นเข็มทิศนำทางให้ผู้คนสามารถสร้างรากฐานทางการเงินที่แข็งแกร่งก่อนก้าวเข้าสู่โลกแห่งการลงทุน พร้อมชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการวางแผนทางการเงินผ่าน 3 เหตุผลหลัก
  • ทำไมการวางแผนทางการเงินจึงสำคัญ?
- อายุขัยที่ยืนยาวกับเวลาทำงานที่จำกัด ปัจจุบันคนเรามีแนวโน้มอายุยืนยาวขึ้น แต่ช่วงเวลาในการหารายได้และเก็บออมมักจำกัดอยู่เพียงประมาณ 40 ปี (ตั้งแต่เริ่มทำงานอายุ 20 ปี จนถึงวัยเกษียณอายุ 60 ปี) การตระหนักถึงข้อจำกัดนี้และเริ่มต้นวางแผนการเงินแต่เนิ่นๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความมั่นคงในบั้นปลายชีวิตโดยไม่ต้องเป็นภาระของใคร
- เงินเฟ้อ ศัตรูตัวร้ายที่กัดกินมูลค่าเงิน เพราะมูลค่าของเงินในกระเป๋าเราไม่ได้คงที่ แต่กลับลดน้อยถอยลงตามกาลเวลาจากผลของ "เงินเฟ้อ" เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนผ่านราคาก๋วยเตี๋ยวที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละยุคสมัย การวางแผนทางการเงินที่ดีจะช่วยให้เราสามารถรับมือและเอาชนะผลกระทบจากเงินเฟ้อได้
- สานฝันให้เป็นจริงด้วยพลังแห่งการออม ทุกคนล้วนมีความฝัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว การให้รางวัลชีวิตกับตัวเอง หรือเป้าหมายอื่นๆ ซึ่งทุกความฝันจำเป็นต้องอาศัย "เงิน" เป็นปัจจัยสนับสนุน การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนผ่าน 3 คำถามสำคัญ คือ "อะไร (What)?" "เท่าไร (How much)?" และ "เมื่อไร (When)?" จะช่วยให้เราสามารถวางแผนการออมเพื่อทำให้ความฝันเหล่านั้นเป็นจริงได้
  • จาก "ทำงานเพื่อเงิน" สู่ "ให้เงินทำงานแทนเรา"
เสาวรส ได้แนะนำ "พีระมิดทางการเงิน" เป็นเครื่องมือในการวางแผน ซึ่งประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก คือ สร้าง ปกป้อง สะสม และส่งต่อ
1. สร้าง (Create) รากฐานที่แข็งแกร่งที่สุด หัวใจสำคัญของพีระมิดขั้นตอนนี้คือ "การจัดการสภาพคล่อง" ซึ่งถือเป็นฐานรากที่สำคัญที่สุด หากฐานไม่มั่นคง โครงสร้างทั้งหมดก็พร้อมจะพังทลาย การสร้างสภาพคล่องเริ่มต้นจากการบริหารรายรับรายจ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการเก็บออมอย่างสม่ำเสมอ
- เทคนิคบริหารเงิน: เปลี่ยนความคิดและพฤติกรรมด้วยสมการ "รายได้ - เงินออม = ค่าใช้จ่าย" หรือ "ออมก่อนใช้" ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของ Warren Buffett ที่ว่า "อย่าออมเงินด้วยเงินที่เหลือจากการใช้จ่าย แต่ให้ใช้จ่ายด้วยเงินที่เหลือจากการออม"
- บัญชีรายรับ-รายจ่าย: การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างละเอียด โดยแยกรายการค่าใช้จ่ายคงที่และผันแปร จะช่วยให้เห็นภาพรวมทางการเงินและสามารถตัดทอนรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปได้
- บริหารหนี้สิน: จัดการหนี้สินอย่างชาญฉลาด โดยพิจารณาทั้งหนี้ระยะสั้น (รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน) และหนี้ระยะยาว (บ้าน รถ) เพื่อจัดลำดับความสำคัญในการชำระหนี้ที่จำเป็นก่อน
- วินัยในการออม: สร้างวินัยการออมอย่างสม่ำเสมอ แม้จะเป็นจำนวนเงินเล็กน้อยต่อวัน เช่น การลดค่ากาแฟ ก็สามารถสร้างเงินก้อนใหญ่ได้ในระยะยาว (ตัวอย่าง: ออมวันละ 50 บาท 5 ปีมีเงิน 90,000 บาท)
2. ปกป้อง (Protect) โอนย้ายความเสี่ยงด้วยประกัน เมื่อมีรากฐานที่มั่นคงแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการ "ปกป้อง" ความมั่งคั่งจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วยการ "ทำประกัน" เพื่อโอนย้ายความเสี่ยง การเริ่มต้นทำประกันตั้งแต่เนิ่นๆ และวางแผนการชำระเบี้ยประกันอย่างเหมาะสม จะช่วยลดภาระทางการเงินหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
3. สะสม (Accumulate) สร้างความมั่งคั่งให้เติบโต ขั้นตอนนี้คือการนำเงินออมไป "ลงทุน" เพื่อให้เงินงอกเงยและเติบโตเอาชนะเงินเฟ้อ เนื่องจากการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ คุณเสาวรสแนะนำให้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างๆ เช่น เงินฝากประจำ กองทุนรวมที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ หรือแม้กระทั่งทองคำ
4. สะสม (Accumulate) สร้างความมั่งคั่งให้เติบโต ขั้นตอนนี้คือการนำเงินออมไป "ลงทุน" เพื่อให้เงินงอกเงยและเติบโตเอาชนะเงินเฟ้อ เนื่องจากการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ คุณเสาวรสแนะนำให้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์การลงทุนต่างๆ เช่น เงินฝากประจำ กองทุนรวมที่มีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ หรือแม้กระทั่งทองคำ
ทั้งนี้ เสารส ให้คำถามชวนคิด หรือ ถ้าเลือกได้ระหว่าง 1.ได้เงินวันละ 1,000,000 บาท ทุกๆวันไปตลอด 30 วัน หรือ 2.ได้เงิน 1 บาทที่จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุกๆ วันไป 30 วัน นี่คือ การทวีคูณของเงิน แต่ก็เป็นไปได้ยาก
  • ฉะนั้นเราต้องใช้ 3 พลังมหัศจรรย์ที่สร้างเงินออมให้เติบโต นั่นคือ
1.พลังเงินต้น จำนวนเงินออมเล็กๆ ในแต่ละงวด “ยิ่งเยอะยิ่งดี”
2.พลังระยะเวลา จำนวนงวดที่ออม “ต่อเนื่อง” ออมก่อนได้เปรียบ
3.พลังผลตอบแทน อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยต่องวด ยิ่งมากยิ่งดี
“ภายใต้ 3 พลังนี้ หากทำอย่างจริงจัง 1 ปีก็เริ่มเห็นผล ถ้าเราจัดการรายรับรายจ่ายตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งทุกส่วนสำคัญหมด แต่ที่ง่ายที่สุดคือ พลังเงินต้น เพราะเราสามารถทำได้ทุกวัย และทุกช่วงเวลา ส่วนพลังเวลาจะแล้วแต่ Gen ส่วนผลตอบแทนอยู่ที่ความรู้ที่มี กับความเสี่ยงที่รับได้ โดยเน้นว่าอย่าลงทุนเกินตัวทั้งความรู้ความเสี่ยงและเงินลงทุน”
ส่วนปัจจัยที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จใจระยะยาว มีเทคนิคง่ายๆ เสาวรส ฉายภาพ ว่า การจัดสรรสินทรัพย์ และกระจายการลงทุนไปในหลายสินทรัพย์ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ หุ้นสามัญทั้งในและต่างประเทศ และการลงทุนทางเลือก ทั้งอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ทองคำ หรือแม้กระทั่งสินทรัพย์ดิจิทัล
  • เราไม่ควร “วางไข่” ไว้ในตระกร้าใบเดียว
แต่แนะนำให้กระจายการลงทุน เพราะเราไม่ควร “วางไข่” ไว้ในตระกร้าใบเดียว หากวันใดสินค้าตระกร้าไหนตก ความมั่งคั่งเราจะได้ไม่สูญหาย เพราะเรายังมีความมั่งคั่งในตระกร้าใบอื่นรองรับอยู่ มันคือปัจจัยที่ทำให้การลงทุนประสบควาสำเร็จในระยะยาวได้ เช่น เลือกหุ้น 2.5% การจับจังหวะซื้อขาย 1.7% การจัดสรรสินทรัพย์ 93.6% และอื่นๆ 2% เพราะไม่มีสินทรัพย์ใดให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดในทุกช่วงเวลา ดังนั้นต้องมีการจัดสรรพอร์ตให้เหมาะสมกับความเสี่ยง โดยต้องมีการทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อน
เพราะสุดท้ายแล้วการวางแผนทางการเงินเปรียบเสมือน “การสร้างบ้าน” ที่แข็งแรง เริ่มตั้งแต่การวางรากฐานด้วยการออม การจัดการหนี้สิน การปกป้องด้วยการโอนย้ายความเสี่ยงผ่านประกัน และการต่อยอดความมั่งคั่งด้วยการลงทุน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และวินัย เพื่อนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินที่ทุกคนปรารถนาตามแนวคิด "Start Smart" นั่นเอง
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดีได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney
โฆษณา