2 มิ.ย. เวลา 11:28 • ข่าวรอบโลก

มันคือสงครามกับปูติน ไม่ใช่ชาวรัสเซีย

เป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก กับยุทธการลับลวงพรางของยูเครน
ที่ส่งโดรนไปถล่มฐานบินของรัสเซียหลายจุดถึงในบ้าน
สร้างความวายวอดให้เครื่องบิน ทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์
ของรัสเซียอย่างมาก บางรายงานว่าพังไปถึง 40 ลำ
แถมด้วยเครื่องบินชี้เป้า AWACS A-50 ซึ่งรัสเซียก็มี
น้อยมากอยู่แล้ว อีกหลายลำ
…ด้วยยุทธวิธีที่คล้ายการก่อการร้าย คือส่งคนเข้าไปดำเนินการ เอาโดรนใส่รถบรรทุกไปปล่อยในบ้านรัสเซีย
…ซึ่งไอ้คนทำก็ไม่รู้ว่าเป็นยูเครนรึเปล่าล่ะนะ
บางแหล่งข่าวก็ว่าเป็นคนรัสเซียที่ต่อต้านปูติน
และเบื่อหน่ายสงครามนั่นแหละช่วยทำให้….
…แต่เมื่อทั้งสองชาติทำสงครามกันอยู่ มันจึงไม่ใช่
การก่อการร้าย และที่สำคัญคือมันไม่ใช่เป้าหมายพลเรือน
ในแบบที่รัสเซียถล่มยูเครน….
และการที่โดรนหลุดใส่รถบรรทุกมาได้เป็นเวลานาน
หรือบางกระแสก็ว่ามันเป็นการแยกชิ้นมาประกอบในรัสเซีย ก่อนนำไปโจมตี สิ่งนี้ยิ่งแสดงให้เห็นว่า รัสเซียมีปัญหาภายใน
โดยเฉพาะด้านการข่าว ไม่สมกับที่ท่านผู้นำเคยเป็น KGB เลย
มันเป็นอีกครั้ง ที่ยืนยันวิธีของยูเครน
ที่เหมือนจะไม่ประกาศสงครามกับ “ชาวรัสเซีย”
ยูเครนทำให้คนรัสเซียเห็น ในสิ่งที่เซเลนสกี้พูดมาตลอด
ว่าพวกเขากำลังทำสงครามกับ “ปูติน” ไม่ใช่รัสเซีย
ถ้าเราลองพิจารณาถึงศักยภาพของยูเครนตอนนี้
และลักษณะของการโจมตี ก็ต้องบอกว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ
การโจมตีมอสโคว์ และที่อื่นๆ อาจเคยเกิดขึ้นก็จริง
แต่มันไม่ได้รุนแรงนัก และเป้าหมานก็็เป็นสถานที่ของภาครัฐหรือที่เกี่ยวข้องกับกองทัพรัสเซีย
ทั้งที่ดูแล้ว ปัจจุบันยูเครนมีขีดความสามารถที่จะโจมตีพลเรือน ทั้งด้วยโดรน และขีปนาวุธของตัวเอง อย่าง Neptune
ในหลายเป้าหมายของรัสเซีย
จะบอกว่ารัสเซียสกัดได้หมด มันอาจไม่ถูกนัก
เพราะยูเครนยังโจมตีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์
บนแผ่นดินรัสเซียได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งฐานที่ตั้ง
คลังอาวุธ และโรงกลั่นน้ำมัน หรือโรงไฟฟ้าต่างๆ
มันหมายความว่า รัสเซียก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการต่อการโจมตี
จากยูเครนทั้งหมดได้ แม้แต่เป้าหมายสำคัญทางยุทธศาสตร์
ยังโดนอยู่เรื่อยๆ
ถ้ายูเครนตั้งใจเล่นที่พลเรือน คนรัสเซียจะตายเยอะกว่านี้
ในแบบที่ไม่แตกต่างจากความสูญเสียในเคียฟของยูเครน
โดยเฉพาะนอกมอสโคว์ ที่การป้องกันอ่อนแอกว่ามาก
มันจึงค่อนข้างชัดเจน ว่ายูเครนหลีกเลี่ยงเป้าหมายพลเรือนจริง
ซึ่งจะเป็นแผนจากทางพันธมิตรด้วยหรือไม่ ก็ไม่มีใครรู้
แต่ที่ยูเครนทำแบบนั้น จุดประสงค์มันก็เพื่อบอกชาวรัสเซีย
…ว่าพวกเขาไม่ใช่ศัตรู ถ้ารัสเซียไม่มีปูติน…
ที่ยูเครนต้องทำแบบนั้น เพราะพวกเขารู้ดี ว่าชาวรัสเซียจริงๆ
ส่วนมากไม่ได้ต้องการสงครามแบบตัวผู้นำของพวกเขา
เหตุการณ์มันอาจเปลี่ยนไป ถ้ายูเครนเล่นงานพลเรือนรัสเซีย
การสร้างความโกรแค้นต่อพลเมืองรัสเซีย จะทำให้ประชาชน
ชาวรัสเซียหันมาสนับสนุนสงครามและปูตินมากขึ้น
นั่นคือสิ่งที่ยูเครนหลีกเลี่ยงมาตลอด
เพราะจะแย่มากสำหรับสถานการณ์ต่อไปของพวกเขา
มันอาจเป็นส่วนหนึ่งของ Hybrid war ที่ทางยูเครน
และพันธมิตรช่วยกันวางเอาไว้
กล่าวคือ มันเป็นการทำให้ชาวรัสเซียรู้สึกคับข้องใจ
ทั้งกับสภาพเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ ที่ย่ำแย่ลงทุกวัน
เพราะการตัดสินใจทำสงคราม จนโดนคว่ำบาตร
และทำให้คนรัสเซียรู้สึก ถึงความไร้ประสิทธิภาพ
ไม่สมราคาคุยของกองทัพ ที่ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้
ทั้งยังตอกย้ำปัญหาการคอรัปชั่นที่เลื่องลือมาก
ในกองทัพรัสเซียเอง ที่คนรัสเซียก็รู้อยู่แล้วว่ามันหนักหนา
ให้เด่นชัดขึ้นอีกในสายตาชาวรัสเซีย ที่ยังอยู่ในประเทศ
แต่ในขณะเดียวกัน ก็ทำให้ชาวรัสเซียก็ยังรู้สึกปลอดภัย
และขอบคุณ ที่ยูเครนไม่โจมตีเป้าหมายพลเรือนมากนัก
จนชาวรัสเซียเป็นอันตราย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่
นอกพื้นที่สู้รบ ที่มีการป้องกันต่ำ และอยู่ในพิสัยโจมตี
…คือ คนรัสเซียตอนนี้ ก็แค่รู้สึกว่า ถ้าไม่อยากเป็นเหยื่อ
ก็อย่าไปสถานที่ของรัฐก็ใช้ได้ เพราะยูเครนไม่ค่อยจะจู่โจม
ที่พักอาศัยแบบที่รัสเซียทำอยู่ เพื่อผลทางจิตวิทยาเป็นหลัก
ในลักษณะนี้ ประชาชนชาวรัสเซียจะโทษปูตินมากกว่ายูเครน
ที่ไปเริ่มสงครามแล้วจบไม่ได้ เสียหน้า จนแย่กันไปหมด
…แน่นอน ชาวรัสเซียอาจพูดไม่ได้ ออกมาไล่ปูตินไม่ได้
ในประเทศของตัวเอง…
…แต่การขัดขืนเงียบๆ เช่น การเมินเฉย ซังกะตายทางเศรษฐกิจ หนีทหาร หรือกระทั่งสมองไหล ก็ทำให้รัสเซีย
เสียประสิทธิภาพที่ควรมีเป็นอย่างมากแล้ว….
…มันเป็นการฆ่า “ระบอบปูติน” มากกว่าทำลายรัสเซียตรงๆ…
ในทางปฏิบัติแล้ว ยูเครนไม่มีทางชนะรัสเซียได้
เนื่องจากศักยภาพต่างกันเกินไป แม้จะยื้อได้อย่าง
น่าชื่นชมอย่างมากก็ตาม
และสุดท้าย ยูเครนก็จะต้องเสียสี่ห้าแคว้นนั้นไป
ซึ่งยูเครนทำใจอยู่แล้ว เนื่องจากเอาจริงๆคนแถวนั้นก็
ใฝ่ไปทางรัสเซียมากกว่าจริงๆ ยื้อไว้ก็มีแต่ปัญหา
แถมยังต้องมาเสียเงินฟื้นฟูอีกมหาศาล
แต่ยูเครนเองก็รู้ ว่าเป้าหมายของปูติน
มันจะไม่ใช่แค่พื้นที่ห้าแคว้น แต่มันคือ ยูเครนทั้งหมด
ให้เป็นในลักษณะของ satellite state แบบเบรารุส
สิ่งเดียวที่ยูเครนหวังได้หากอยากเป็นอิสระในฐานะ
ที่เป็นประเทศเอกราช ในส่วนที่เหลืออยู่
ก็คือหวังผลจากความเละเทะของการเมืองในรัสเซียเอง
หรือพูดง่ายๆ ยูเครนจะรอดไหม ก็อยู่ที่ระบอบปูตินจะอยู่ได้ไหม
…ไม่ใช่รัสเซียอยู่ได้ไหม….
ปัจจุบัน ชาวรัสเซียแม้ไม่พูด แต่การสนับสนุนสงครามนั้น
มีค่อนข้างต่ำมากในสังคม หลายคนหลีกเลี่ยง แม้กระทั่ง
การทำงานในโรงงานผลิตอาวุธให้รัฐบาล จนมีปัญหาว่า
คนทำงานมีไม่เพียงพอในโรงงานเหล่านี้
คนที่หนีออกนอกได้ ก็หนีกันหมด ไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิง
รัสเซียจึงเหลือแต่คนไม่มีทางเลือกเท่านั้นที่เป็นกำลัง
ในสงครามของพวกเขาตอนนี้ ถึงขนาดต้องลด อภัยโทษ
ให้คนคุก เพื่อเป็นข้อจูงใจให้มีคนมาทำงานให้ปูติน
เมื่อคนไม่มีคุณภาพ คนเก่งหาย ทหารขาดระเบียบ
เพราะเป็นอาชญากร สังคม และในสมรภูมิ มันก็แย่
ในทางเศรษฐกิจ บรรดา oligarch ทั้งหลาย ที่เป็นทุนผูกขาด
ก็ไม่พอใจ ทั้งจากความเสียหายทางเศรษฐกิจ และการเข้ามา
แบบไม่หยุดของทุนจีน จนพวกเขาเสียประโยชน์อย่างมาก
นี่คือความเป็นจริงของระบอบปูติน ที่เป็นอยู่หลังสงคราม
ที่ถูกเหยียบเอาไว้ด้วยกฎเหล็กของปูติน
ใครหืออือ ก็ตกตึกตาย เป็นงี้ประจำ
1
แต่มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ กับความไร้ประสิทธิภาพของระบบ
ในการบริหารงานภาครัฐของปูตินและพรรคพวก
ไม่ว่าการคอรัปชั่นในรัสเซีย จะรุนแรงเหมือนคลิป
ในโฆษณาชวนเชื่อของยูเครนและตะวันตกหรือไม่
แต่ผล จากการไม่สามารถชนะเด็ดขาดได้ในแนวหน้า
และยังทำให้สงครามลามมาในแนวหลัง
มันทำให้ชาวรัสเซียเชื่อ ว่าการคอรัปชั่นเหล่านี้มีจริง และหนัก
ชนิดที่ว่า มันทำลายสิ่งที่รัฐบาลรัสเซียโม้ต่อชาวบ้าน
ผ่านสื่อต่างๆแทบหมดสิ้น จากความไม่สมเหตุผล
ของสิ่งที่รัฐบาลพูด กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงที่พวกเขาสัมผัส
ลักษณะนี้ มันก็เลี่ยงไม่ได้หรอก ที่คนรัสเซียจะเชื่อจริงๆ
ว่ามีการคอรัปชั่นกันมโหฬาร และจะยิ่งต่อต้านรัฐบาลมากขึ้น
ยิ่งเวลาทอดยาวออกไปนานๆ
และอาจนำไปสู่การล่มสลายของระบอบปูตินได้
…นั่นคือความหวังเดียวในการอยู่รอดของยูเครน….
…แน่นอน ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว…
…แต่แรงกระเพื่อมลักษณะนี้ มันมากขึ้นเรื่อยๆในรัสเซีย…
และจากการโดนเล่นงานในลักษณะนี้
ปูตินย่อมต้องมีการ “สะสาง” ภายในประเทศ
เพื่อหาคนรับผิดชอบ หรือกระทั่งคนทรยศของเขา
ด้วยสไตล์ปูติน มันอาจส่งผลให้เกิดการหว่านแหมั่ว
แต่รุนแรง จากการที่ลูกน้องกลัว ลนลานที่จะปราบปราม
ซึ่งอาจไม่เป็นผลดีทางการเมืองภายในได้…
ผลสุดท้าย มันก็น่าสนใจนะ ว่าอนาคตของรัสเซียจะเป็นยังไง
การขู่ใช้นิวเคลียร์(อีกแล้ว) ของปูติน จะยิ่งนำมาซึ่งหายนะ
ต่อชาวรัสเซีย และปูตินเอง
…คิดเหรอว่าบรรดา oligarchs ทั้งหลาย จะยอมให้ปูตินทำ
พวกเขาก็ห่วงตัวเองเหมือนกัน เพราะการโจมตีด้วยนิวเคลียร์
ผลที่ได้กลับมา ก็คือการโจมตีกลับที่รุนแรงมากเช่นกัน…
…ไม่มีทาง ที่ oligarchs จะยอมตายไปพร้อมปูตินหรอก…
ผมยังเชื่อ ว่าปูตินยังไม่ใช้นิวเคลียร์ตามที่ขู่หรอก
ก็คงขนไอ้พวกไฮเปอร์โซนิคอะไรมาถล่มยูเครนอีกตามสูตร…
แล้วก็เล็งไปที่เป้าหมายพลเรือนยูเครนเหมือนเดิม
เพราะจนปัญญา กับการโจมตีที่ตั้งทางการทหาร
เนื่องจากไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน และบางที่ก็อยู่ใกล้ชายแดน
ของนาโต้จนเกินไป รัสเซียไม่อยากเสี่ยงขนาดนั้น
มันจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงแน่ เพราะปูตินเสียหน้าหนักมาก
จากการโจมตีของยูเครนรอบนี้ ชาวบ้านก็เดือดร้อนแหละ
…แต่ถ้าใช้นิวเคลียร์เมื่อไหร่ มันก็คือจุดจบของตัวปูตินเอง
และรัสเซีย ในแบบของการตายตกตามกัน….
…ซึ่งปูติน ก็ไม่สามารถรับผลของมันได้เช่นกัน…
สงครามเมื่อเริ่ม ก็คือลูกเต๋าได้ทอยแล้ว
แบบที่ จูเลียต ซีซาร์ เคยว่าไว้ในอดีต
ไม่มีใครเรียกมันกลับคืน และเปลี่ยนผลของมันได้
สิ่งที่เป็นในวันนี้ มันเกิดจากการประเมินสถานการณ์
ที่ผิดพลาดทั้งหมดของปูตินเอง จนรัสเซียต้องเสียหาย
โดยเฉพาะ การประเมินท่าทีของนาโต้ผิดไปทั้งหมด
การเริ่มบุกเมื่อสามปีก่อน ปูตินคงประเมินว่านาโต้ไม่กล้า
และคงเฉย เหมือนช่วงที่เขาเข้ายึดไครเมียร์ปี 2014
เลยตัดสินใจบุก และคิดว่าคงจบได้ง่าย และเร็ว
…เขาเมื่อเขาประเมินพลาดสงครามมันจึงไม่จบ
…และยาวมาถึงตอนนี้…
…แม้จะยังไม่มีใครรู้จุดจบ ว่าจะเป็นอย่างไร…
…แต่ไม่ว่ายังไง นี่ก็ไม่ใช่แผนของปูตินอย่างแน่นอน….
ข่าว คลิป
โฆษณา