2 มิ.ย. เวลา 16:24 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

ปรปักษ์จำนน ว่าด้วยการให้อภัย

จริง ๆ เคยตั้งใจว่าจะไม่อ่านหนังสือก่อนดูละคร เพราะอาจทำให้ติดภาพในหนังสือ แล้วจะพาลดูละครไม่สนุก แต่ได้ยินร่ำลือหนาหูมากว่านิยายเรื่องนี้สนุก ก็แหกกฎสักเรื่อง
ปรากฏว่า ไม่ชอบเลย อ่านข้าม ๆ เพราะไม่ชอบคาแรกเตอร์พระเอกอย่างแรง โดยเฉพาะฉาก18 + ครั้งแรกของนางเอก ถ้าพูดตรงๆ ก็คือถูกสามีข่มเหง แค่นี้ก็อ่านต่อไม่ได้แล้ว แต่ก็ทนอ่านข้ามๆไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็ต้องส่งหนังสือคืนไป ทั้งที่ยังอ่านไม่จบ
บังเอิญได้อ่านงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องการข่มขืนในสังคมไทยพอดี ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือคนไทยทั่วไปไม่ให้ความสำคัญกับ “ความยินยอม” แม้ว่าจะเป็นสามีภรรยากันแล้วก็ตาม ก็ไม่มีสิทธิข่มเหงถ้าอีกฝ่ายไม่ยินยอม ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยสุด ๆ จึงไม่รู้สึกว่าผู้ชายที่มีพฤติกรรมแบบนี้ต่อให้หล่อและเก่งจะเป็น “พระเอก”ได้อย่างไร
สาเหตุที่ดูเรื่องนี้ทั้งที่ไม่ชอบนิยาย เพราะชอบซ่งจูเอ่อร์ และอยากรู้ว่าจะปรับอย่างไร ปรากฏว่า ผิดคาด ละครสนุกมาก ซึ่งต้องอวยคนเขียนบทเลยว่า ดัดแปลงนิยายได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็น “สาร” ที่ต้องการ “สื่อ” การดำเนินเรื่องที่ทั้งบันเทิงและสะกิดต่อมคิดไปเป็นระยะจนจบเรื่อง
ประเด็นหลักของเรื่องต่างจากละครจีนส่วนใหญ่ที่เคยดูมา ซึ่งมักเล่าเรื่อง “การแก้แค้น” โดยประโยคที่ยินติดหูคือ “แก้แค้น สิบปีไม่สาย” แต่เรื่องนี้คือว่าด้วย “การให้อภัย” ล้วน ๆ
เรื่องราวเกิดขึ้นเพราะตระกูลเฉียวทรยศตระกูลเว่ยไม่ส่งทหารไปช่วยป้องกันเมืองตามสัญญา ทำให้ตระกูลเว่ย 3 รุ่นเสียชีวิตพร้อมกันในสงคราม แน่นอนว่าตระกูลเว่ยแค้นตระกูลเฉียวหนักมาก
ต่อมาท่านย่าตระกูลเว่ยกับท่านปู่ตระกูลเฉียวทำโครงการสลายแค้นสองตระกูล โดยให้หลานสาวตระกูลเฉียวกับหลานชายตระกูลเว่ย แต่งงานกัน ซึ่งต้องให้เครดิตท่านย่าตระกูลเว่ย ผู้เห็นว่า “ความแค้น” ไม่ได้ทำให้ใครมีความสุขโดยเฉพาะหลานชายสายตรงคนเดียวที่เหลืออยู่
เมื่อโจทย์คือ “การให้อภัย” แล้วอะไรจะทำให้อภัยกันได้ เพราะเว่ยเซ่าต้องเรียกว่า PTSD หนักกว่าใคร แถมต้องแต่งงานกับลูกสาวบ้านคนทรยศ สุดจะกล้ำกลืนจริงๆ (ถึงแม้พบกันครั้งแรกก็ตะลึงกับความงามล่มเมืองของนางก็ตาม) ยังไม่นับความเกลียดชังของคนตระกูลเว่ยที่ยังมีชีวิตอยู่โดยเฉพาะแก๊งแม่ทัพข้างกายเว่ยเซ่าทั้ง 4
คำตอบคือ “ความรัก”
แล้วทำอย่างไรให้ “รัก” บทขยี้อย่างละเอียดไปทีละเรื่อง ทีละก้าวว่าทำไมทั้งคู่ถึงเข้าใจกัน ยอมรับกันไปจนถึงรักกันได้ ทุกครั้งที่ทะเลาะกันคือความเข้าใจที่เพิ่มพูนขึ้น ทุกเหตุการณ์ทำให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
เมื่อหัวใจมี “รัก” ก็ไม่มีพื้นที่ให้ “แค้น” อีก
การจะให้อภัยใครหรือไม่ สามารถทำได้เลยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายสำนึกผิด แต่ถ้าฝ่ายถูกแค้นเต็มใจขอโทษอย่างจริงใจ ก็จะยิ่งยกระดับโครงการสลายแค้นขึ้นไปอีกระดับ เหมือนตอนที่พ่อของหมานหมานทำ
บทเรื่องนี้ แทบทุกฉากสื่อสารเรื่องใดเรื่องออกมาเสมอ
บทเรื่องอื่นสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครทะเลาะกันเพื่อลากดราม่า บทเรื่องนี้สร้างสถานการณ์ให้ตัวละครเข้าใจกัน ทุกสถานการณ์ ทุกไดอาล็อกวางไว้ บทตามไปเก็บหมดทุกประเด็น
ฉากเลิฟซีนอันลือลั่น
ต้องอวยคนเขียนบทอีก ที่ทำให้คนดูลุ้นว่าจะมีเลิฟซีนไหม เพราะยังไงตามเส้นเรื่องก็ต้องอุ่นเตียงกันอยู่แล้ว ปรากฏว่ากว่าจะเห็น คิสซีน ก็โน่น ep 29 แต่ก็ทำเอาคนดูกระเจิดกระเจิงกันไป มาอุ่นเตียงกันจริง ๆ ตอน ep 32 คราวนี้ยิ่งหนักเลย คลินิกจัดฟันใกล้บ้านคิวยาวไปหลายเดือน
นี่พิสูจน์ให้เห็นว่า ถึงไม่มีฉากแบบนี้ คนก็ยังรู้สึกได้ถึงเคมีฟิสิกส์ชีวะ ของพระ-นาง (ถ้าเล่นถึง) ได้ แล้วการอุ่นเตียงกันด้วยความยินยอมพร้อมใจของตัวละคร ก็สามารถทำให้ดูเซ็กซี่ได้แบบพอดี ๆ ( แต่หลายคนบอกว่านักแสดงทำถึงทำเกินไปถึงดาวอังคารโน่น )
ตัวละครที่อยากพูดถึง
หมานหมาน
ชอบที่คนเขียนบทสร้างคาแรกเตอร์หมานหมานคิดวิเคราะห์ แยกแยะ ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ( critical thinking )ไม่ว่าเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องบ้านเมือง แถมเข้าอกเข้าใจคนอื่น (empathy ) โดยเฉพาะเว่ยเซ่า ไม่คิดแต่จากมุมของตัวเอง แต่คิดว่าถ้าต้องในสถานะของอีกฝ่ายจะรู้สึกเช่นไร ในขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งความเป็นมนุษย์ที่มีความรู้สึก คือมีโกรธ มีน้อยใจ แต่ไม่ทิฐิ ทะเลาะกันได้ก็ดีกันได้
เว่ยเซ่า
คาแรกเตอร์ของเว่ยเซ่า ความโหดความเด็ดขาด เป็นเพียงเปลือก แต่เนื้อในเป็นหัวหน้าตระกูลที่มีคุณธรรมทั้งเรื่องการปกครองบ้านเมือง และเรื่องส่วนตัว ก่อนแต่งงาน จะวีนขนาดไหนไม่ว่ากัน แต่เมื่อตกลงปลงใจแต่งงานกับหมานหมาน ก็ให้คำสัญญาว่าจะปกป้องนางไปตลอด แล้วก็ทำจริงๆ คำว่าปกป้องของเขากินความไปถึงการให้เกียรติเต็มที่กับหมานหมาน แม้จะปากแข็งปากดีตลอด แต่การกระทำเป็นตรงกันข้าม เอาจริงเขาเป็นละเอียดอ่อนและเข้าใจคนอื่น อย่างทำอาวุธชิ้นเล็กให้แม่ทัพเว่ยทั้ง 4
ไม่ว่าจะทะเลาะกันกี่ครั้ง เว่ยเซ่าไม่เคยพูดเรื่องหย่ากัน ไม่เคยไล่กลับบ้าน การที่ไม่มีอนุ ไม่ใช่เพราะกลัวเสียการปกครอง แต่ไม่อยากมี ไม่ต้องการจะมี ไม่เที่ยวหอคณิกา อาการพ่อบ้านใจกล้าที่ทุกคนมองเป็นเรื่องฮา หากพิจารณาลงลึกลงไป มันคือคุณธรรมของคนเป็นสามี แม้ว่าคนที่แต่งด้วยไม่ใช่หมานหมาน เขาก็เป็นแบบนี้ แค่อาจไม่เกรงใจเมียเท่านี้
และที่ชอบที่สุด คือ เว่ยเซ่าไม่ได้บังคับขืนใจหมานหมาน จริง ๆ ก็เกือบไป แต่หลังจากถูกตบสติก็กลับมา แถมยังรู้สึกผิดมากมาย นับเป็นผู้ชายที่ให้ความสำคัญเรื่อง “ความยินยอม” เพราะถ้าเป็นเรื่องอื่นข้าวสารก็คงกลายเป็นข้าวสุกไปแล้ว
ชอบความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้นิสัยใจคอ เข้าใจกัน เชื่อใจกัน จนกระทั่งสามารถเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่อกันได้
หมานหมานกับเว่ยเซ่านี่ต้องเรียกว่ารักกันเพราะศีลเสมอกันแทบจะทุกเรื่อง ตั้งแต่ห่วงใยราษฎร แม้ว่าต่างแต่งงานโดยไม่เต็มใจ แต่ต่างก็ทำหน้าที่สามีภรรยาอย่างเต็มที่ ที่สำคัญคือต่างเห็นคุณค่าของความรู้สึก การกระทำ ที่อีกฝ่ายมอบให้
ต้าเฉียว
จริง ๆ ไม่ใช่คนร้ายกาจอะไร ความเห็นแก่ตัวก็เป็นความเห็นแก่ตัวปกติของมนุษย์ ความผิดเดียวของนางคือเกิดมาในตระกูลปกครอง แต่ไม่ได้เรียนรู้เรื่องความซับซ้อนของอำนาจ ยิ่งมีพ่อที่ทั้งโง่และไม่มีคุณธรรม ก็กลายเป็นเหยื่อของเกมการเมืองไป
จะว่าไปหมานหมานก็มีส่วนทำให้ต้าเฉียวมีจุดจบแบบนี้ ถ้าปล่อยให้พี่สาวกับพี่เขยหนีตามกันไปเงียบ ๆ ไม่ไปช่วยให้มีกำลังทหาร ก็คงไม่ถูกพ่อของนางหลอกเอาไปเป็นตัวประกัน และจบชีวิตให้ที่สุด
ฮูหยินอวี้โหลว
คือคนที่ไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนเองมี เป็นลูสเซอร์ประเภทหนึ่ง ที่เฝ้าแต่คิดว่าตนเองนั้นดิ้นรนกว่าใคร คนอื่นเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ดีกว่า โทษครอบครัว โทษสภาพแวดล้อม แต่ไม่เคยโทษตนเอง ก็เหมาะสมกับจุดจบแล้ว
นักแสดง
ขอพูดถึงแค่พระเอกกับนางเอก
ซ่งจูเออร์ (หมานหมาน) ชอบมาตั้งแต่เล่นเรื่อง Novoland: Eagle Flag (2019) นับเป็นนักแสดงรุ่น 95 ที่เล่นเก่งมาแต่ไหนแต่ไร แค่รอจังหวะที่ได้บทดี ๆ เท่านั้น หลังจากผ่านวิบากถูกฟ้องเรื่องภาษีอยู่ 2 ปี ละครได้ออกฉายใกล้กัน 2 เรื่อง (อีกเรื่องคือล่าปีศาจ) ดังทั้งสองเรื่อง เรียกว่าฟ้าหลังฝนแล้วล่ะ
หลิวอวี้หนิง (เว่ยเซ่า) ตอนที่ดูสตรีหาญฉางเกอ ก็สะดุดตาอยู่ แต่หลังจากนั้นยังไม่ชอบที่เขาเล่นอีกเลย เพราะรู้สึกว่าบทได้เป็นคาแรกเตอร์แบบเดิม ๆ เล่นอยู่ไม่กี่ “หน้า” จนเรื่องนี้ที่ได้เห็นว่าเล่นได้หลายอารมณ์ ปกติผู้เขียนไม่ค่อยสนใจความหล่อเท่ากับฝีมือการแสดง แต่เชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า นักแสดงสามารถหล่อขึ้นได้อีกหลายเท่าตัวถ้าบทส่ง แล้วนักแสดงเล่นถึง
 
สรุปแล้วปรปักษ์จำนน พิสูจน์ให้เห็นว่า เรื่องราวของการ “ให้อภัย” ก็สนุกน่าติดตามได้ไม่แพ้การ “แก้แค้น” เลย

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา