เมื่อวาน เวลา 04:29 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

สู่ห้วงเมฆา

ไม่ได้ดูละครชุดจีนแนวเทพเซียนมานานแล้ว เพราะเรื่องมันวนเวียนอยู่กับการอิจฉาริษยา ฝ่าด่านเคราะห์ 100 ปี จนเรื่องนี้ฉาย สาเหตุที่ลองดูเพราะ #หลูอวี่เสี่ยว ล้วน ๆ ไม่ได้คาดหวังด้วยซ้ำว่าจะดูจนจบ ปรากฏว่าผิดคาดไปหลายเรื่อง
สู่ห้วงเมฆา เป็นเรื่องราวของหมิงเซียน (ปลอมเป็นผู้ชาย) รัชทายาทของบรรพเหยากวง ที่ได้ชื่อว่าเป็นเทพสงครามชนะการ
ต่อสู้แย่งชิงประกายมงคลติดต่อกันมา 7 ปี แต่มาแพ้ในปีที่ 8 ให้จี้ป้อไจ่ แห่งเหวดาวเหนือ เพราะถูกวางยาพิษ จึงต้องหนีออกจากมา และกลับเป็นผู้หญิงชื่อหมิงอี้เพื่อไปตามหายาแก้พิษ ความฝันข้าวฟ่างเหลือง ซึ่งอยู่ที่จี้ป๋อไจ๋ ตามสูตรก็รักกันในที่สุด
จะว่าไปก็พล็อตไม่ได้แปลกประหลาดมหัศจรรย์อะไร แต่ความสนุก ความฟิน มันอยู่ที่การเล่าเรื่องตั้งแต่ต้นไปจนจบ ซึ่งสู่ห้วงเมฆา ทำได้ดีเกินคาด
ช่วงแรก เน้นความฮาการละครอ่อยกันไปหลอกกันมาของทั้งหมิงอี้และจี้ป้อไจ่ เนื้อเรื่องยังไม่ได้สื่อสารประเด็นอะไรชัดเจนนัก แต่เล่าเรื่องสนุก ประกอบนักแสดงนำเล่นถึงเล่นดีทั้งคู่ จนต้องซื้อ express เพื่อดูก่อนอีกตอน
ความเข้มข้นของเนื้อเรื่องจากเหตุการณ์นี้ไปเหตุการณ์นั้น ค่อย ๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ก็ไม่รู้ว่าคนเขียนบทตั้งใจหรือไม่ แต่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นประเด็นหนึ่งอย่างชัดเจน นั่นคือ respect
หมิงอี้ จี้ป้อไจ่ และ ซือถูหลิ่ง ต่างเผชิญบาดแผลล้ำลึกในวัยเด็กที่หนักหนาสาหัสไม่ต่างกัน หมิงอี้คือคนที่มี self respect สูงสุด รองลงมาคือ จี้ป้อไจ่ ส่วนซือถูหลิ่ง คือผลของการมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเลย
ไม่ว่าจะเกิดอะไรในชีวิต หมิงอี้ไม่เคยยอมแพ้ ไม่โทษใคร ถูกพิษก็ไปหายาถอนพิษเอง มองเห็นคุณค่าของตัวเอง แยกแยะความรู้สึก ความต้องการของตัวเอง กับบุญคุณความแค้น ชอบที่สุดตอนที่ซือถูหลิงถามว่า เลือกจี้ป้อไจ่ใช่ไหม แล้วหมิงอี้บอกว่า เลือกตัวเอง หมายความว่านางเลือกความสุขของตัวเองไม่ได้เลือกคน เพียงแต่คนที่ทำให้หมิงอี้มีความสุขก็คือจี้ป้อไจ๋
เมื่อ self respect ของหมิงอี้แข็งแรง จึงส่งผลให้นางเป็นคน respect ผู้อื่นด้วย หมิงอี้เห็นคุณค่าของคนอื่น ไม่ตัดสินใครที่ฐานะ รู้ว่าอันตรายก็ยังไปช่วยจางเทา กับจี้ป้อไจ๋ แม้จะรู้สึกไม่ดีนักในช่วงแรก แต่เมื่อพบความจริง ก็เข้าใจ เคารพความรู้สึกความคิดและเหตุผลของจี้ป้อไจ่ทุกเรื่อง ไม่งอน ไม่ประชด การปรับความเข้าใจระหว่างทั้งคู่จึงทำได้รวดเร็ว (ในมุมของจี้ป้อไจ่จะต่างไปจากนี้หน่อย)
จี้ป้อไจ่ คล้ายกับหมิงอี้ ความทรนงของเขาในมุมหนึ่งคือ self respect ซึ่งชัดเจนมากโดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ เขาไม่แลกตัวตนกับอำนาจที่เทียนจีเสนอให้ จี้ป้อไจ่เข้าใจความต้องการของตัวเองเร็วมาก แล้วก็ไม่เวิ่นเว้อ พอรู้ตัวว่าชอบหมิงก็เต็มที่กับนางชนิดมองมาจากบรรพตอื่นก็ยังรู้เลย
ถ้าให้เทียบ self respect ของทั้งคู่ จี้ป้อไจ่ยังมีน้อยกว่าหมิงอี้ 1 ระดับ เพราะเขาคิดว่าตนเองมาจากเหวลึก สู้มาได้ถึงทุกวันนี้ก็ดีแล้ว ถ้าต้องตายก็ไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายอะไร เมื่อเกิดเรื่องก็พร้อมสละตัวเอง เพราะชีวิตตัวเองไม่มีค่าเท่ากับหมิงอี้ ในขณะที่หมิงอี้ มองว่าชีวิตตัวเองมีค่า จี้ป้อไจ่ก็มีค่าไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นต้องรอดไปด้วยกัน ถ้าจะตายก็ตายด้วยกัน
ส่วนซือถูหลิ่ง หรือ เฉาหยวนนั้น แทบไม่มี self respect เลย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าหมิงอี้ไม่รักตัวเองแน่นอน และด้วยนิสัยของนางไม่มีทางเปลี่ยนใจด้วย ก็ยังไม่ยอมรับความจริง ยอมแลกทุกสิ่งแม้แต่การกลายเป็นปีศาจ ซือถูหลิ่งเห็นแต่หมิงอี้ แต่ไม่เห็นคุณค่าของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
เมื่อซือถูหลิ่งไม่รู้จัก self respect จึงไม่รู้ว่า respect คืออะไร แม้แต่คนที่ตัวเองรัก เขาพยายามยัดเยียดความรักให้หมิงอี้ โดยไม่คิดว่านางจะอึดอัดใจแค่ไหน บังคับให้ดื่มเลือดตัวเอง แม้จะเป็นความหวังดี แต่ก็ต้องถามอีกฝ่ายก่อนว่าเต็มใจรับไหม ในมุมนี้ซือถูหลิงไม่ได้รักหมิงอี้เลย แค่อยากให้ตัวเองรู้สึกดีที่ได้ช่วยเหลือนาง ให้นางติดค้างบุญคุญเขาเพื่อให้หันกลับมามองเขาบ้าง
ทำไม คน 3 คน ที่ชีวิตวัยเด็ก trauma สุดขั้ว ถึงได้เติบโตมาด้วยทัศนคติต่างกัน
หากพิจารณาให้ดี หมิงอี้ กับ จี้ป้อไจ่ มีผู้ใหญ่อุ้มชู ค้ำจุนจิตใจ หมิงอี้มีอาจารย์ถึงจะไม่รู้ว่าเป็นพ่อก็ตาม แม้แม่จะหลอกใช้นาง แต่ก็ดูแลให้เกียรติเป็นอย่างดี จี้ป้อไจ่ มีอาจารย์ที่แม้เป็นสาเหตุให้เขาต้องไปอยู่เหวนรกหลายปี แต่เมื่อกลับไปช่วยมาก็ดีกับจี้ป้อไจ่มากมาย จิตใจที่บอบช้ำของเขาย่อมได้รับการเยียวยา และโชคดีที่อาจารย์เป็นสายขาว จึงสั่งสอนให้เขาเป็นคนดีด้วย
ซือถูหลิ่ง โชคร้าย ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนคอยประคองประคองความรู้สึกหรือชี้แนะเลย แม้ฝูเย่วจะรักและช่วยเหลือเขาทุกอย่างโดยไม่มีเงื่อนไข แต่ก็ไม่มีความสามารถมากพอจะเยียวยาบาดแผลของเขาได้
เรื่องราวความรักของหมิงอี้และจี้ป้อไจ่
ชอบเส้นทางความรักของหมิงอี้และจี้ป้อไจ่มาก คนเขียนบทเก่งมาก เพราะแม้จะเริ่มจากความฮาของการเล่นละครใส่กัน แต่ค่อย ๆ คลี่คลายให้เห็นความรักที่ก่อตัวขึ้นอย่างมีเหตุมีที่มา
 
จี้ป้อไจ่ชอบหมิงอี้ก่อน ความสวยอาจไม่ใช่จุดสนใจแรกด้วยซ้ำ เพราะคุณพี่ก็แสดงละครเป็นเพลย์บอยเจอผู้หญิงสวยมากมาย และก็ไม่ได้เชื่อใจหมิงอี้แต่แรก หมิงอี้เป็นเทพสงครามก็จริง แต่นางก็เป็นคนน่ารัก จริตอ่อยผู้ชายไม่เป็นรองใครเช่นกัน อยู่ด้วยกันทุกวันก็ต้องเห็นความน่ารักแหละ (คนดูยังชอบความอ่อยของหมิงอี้เลย )
จริง ๆ หมิงอี้ก็เริ่มรู้สึกดีกับจี้ป้อไจ่ ตั้งแต่เขาจำได้ว่าชอบเปี๊ยะต้นหอมแล้ว แต่ติดที่ว่ากำลังทำภารกิจให้อีกฝ่ายหลงรัก ก็เลยได้แต่เก็บความรู้สึกไว้ก่อน ในขณะที่จี้ป้อไจ่ชอบแล้วคือชอบเลย
ประเด็นเรื่องทำไม หมิงอี้ไม่บอกความจริงกับจี้ป้อไจ่สักที ผู้เขียนไม่รู้สึกว่าน่ารำคาญ จี้ป้อไจ่มีสิทธิจะโกรธในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่หมิงอี้ก็มีเหตุผลของนางซึ่งได้อธิบายไว้ตอนที่คุยกับ 27 ในหลาย ๆ ฉาก
จะว่าไปจี้ป้อไจ่ก็แทบไม่เคยโกรธ หรืองอน หมิงอี้เกินสองวันเลยมั้ง ขนาดตอนทะเลาะกันเพราะหมิงอี้ไปโขมยยาถอนพิษ ถึงขั้นตัดเป็นตัดตายกัน แต่ก็ยังตามออกมาเห็นซือถูหลิ่งอุ้มนางไป พอหมิงอี้หนีไป คนตามเจอก่อนก็เป็นเขา
การที่จี้ป้อไจ่ ไม่บอกว่าเขาให้ยาถอนพิษหมิงอี้ไปแล้ว ก็ไม่น่ารำคาญ เพราะจะบอกหรือไม่บอกก็ไม่มีผลอะไรกับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ ในทางกลับกัน ต้องชมคนเขียนบท ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็ได้เข้าใจผิดกันไปสามตอนแปดตอน หรือไม่ก็ไปรู้ความจริงเอาตอนใกล้จบ แต่เรื่องนี้ใช้วิธีเขียนบทคล้ายเรื่องอื่นนั่นแหละ แต่ “สาร” ต่างไปเลย โดยใช้เรื่องเป็นการยืนคาแรกเตอร์ของหมิงอี้ที่แยกแยะ บุญคุณกับความรักชัดเจนมาตลอด จี้ป้อไจ่ถึงมั่นใจมาก(กอไก่ล้านตัว) ว่าหมิงอี้ไม่มีทางไปชอบซือถูหลิ่งแน่นอน
ชอบเลิฟไลน์แทบทุกฉาก
ฉากหนึ่งที่ชอบมาก คือฉากที่ร้านอาหาร หลังจากที่หมิงอี้ไปขโมยภาพอาจารย์จี้ป้อไจ่ แล้วจงใจทำตัวเองบาดเจ็บเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นใจ ซึ่งสำเร็จด้วย ในขณะที่หมิงอี้ออดอ้อนปลอมๆ ไม่ให้อีกฝ่ายทิ้งไป แต่จี้ป้อไจ่จริงจังทุกคำว่าจะไม่ทิ้งนาง บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมชอบ
อีกฉากชอบคือตอนจี้ป้อไจ่ บอกว่าเขาเขาไม่สนใจแล้วว่าจะเจอแม่ไหม เพราะที่ผ่านมาเขามีอาจารย์ มีปู้ชิว มีป้าสวิน และมีหมิงอี้ ที่ตอนแรกหยอกว่า หลอกเขา แต่พอหมิงอี้โวยว่าให้พูดใหม่ ถ้าตามบทแบบเดิม ๆ ก็ต้องบอกว่า หมิงอี้ที่เขารัก แต่กลายเป็นพูดว่า หมิงอี้ที่รักเขา กลายเป็นหมิงอี้บอกรักเขา แต่เขาเป็นคนพูด
โอ้ย เก๋มาก เก๋ที่สุด
ฉากจูบในเรื่องนี้ทั้งเยอะและดุเดือดกว่าที่คาดเอาไว้มาก แต่ถ้าสังเกต พระเอกไม่ได้จูบนางเอกเรื่อยเปื่อยเพื่อเอาใจคนดู แต่เป็นฉากจูบที่สื่อสารอารมณ์ที่ไม่เหมือนกันสักครั้ง
อย่างครั้งแรก อันนั้นจำเป็นต้องทำเพราะอยู่ในมายาจิตของคนอื่น จูบตอนสลักชื่อบนศิลาบุพเพ คือทั้งรักทั้งแค้น จูบตอนในบ่อก็เพราะรู้ว่าหมิงอี้ก็รักเขา ตอนอุ่นเตียงอันนั้นฟินจิกหมอนกันไป ตอนหมิงอี้เอาดาบไปให้คล้ายจะบอกว่ารู้แล้วโว้ยว่าหมิงเซียนไม่ได้เป็นศัตรูหัวใจ ตอนงานแต่งของจางเทาอันนั้นคือขมขื่น ตอนวันเกิด อันนี้ก็ตอนจบแล้วเซอร์วิสคนดูเสียหน่อย
นักแสดง
หลูอวี้เสี่ยว ไม่สงสัยเรื่องฝีมือมาตั้งแต่เหนือเมฆาชะตาลิขิตแล้ว แค่รอบทดีบทส่งเท่านั้นซึ่งก็คือเรื่องนี้แหละ ทั้งติ่งและไม่ติ่งกรี๊ดกันบ้านแตก หลูอวี้เสียวไม่ได้แค่สวย แต่เป็นคนมีเสน่ห์มากโดยเฉพาะเวลาเล่นละคร ก่อนหน้านี้ชอบเคมี หลูอวี้เสี่ยว กับ เฉิงเหล่ย ที่สุดแล้ว ทั้งที่แทบไม่มีฉากหวานเลย ฉากอาบน้ำด้วยกันในบ่อน้ำถึงจะดูเหมือนเปลือยท่อนบน แต่ยืนห่างกันประมาณเมตรนึง พอมาถึงเรื่องนี้แม่เจ้า เคมีดีอะไรขนาดนี้ พี่เหล่ยมีคู่แข่งแล้วนะ
ภาพจากเรื่องเหนือเมฆาชะตาลิขิต / สู่ห้วงเมฆา  บ่อเดียวกัน แต่ดุเดือดต่างกันลิบลับ
โหวหมิวฮ่าว เคยดูเขาในรายการ Let go my baby ss 1 ตอนนั้นยังเป็นหนุ่มน้อยอยู่เลย ไม่ได้สนใจอะไรมาก รู้แต่ว่าเป็นไอดอล เคยดูละครอยู่ 2 เรื่องคือ Hutong กับ Our time ก็ยังไม่สะดุดตา หลังจากนั้นคือไม่ได้ดูละครเขาอีกเพราะบทไม่ถูกจริต (จริง ๆ พยายามดูแล้วแต่ไม่รอด)
ภาพแรก  Hutong  /ภาพสอง Our Time
สำหรับเรื่องนี้ บทส่งมาก เพราะทำให้คนดูที่ไม่ใช่ติ่งได้รู้ว่าเขาเป็นนักแสดงที่เล่นดีคนหนึ่ง ด้วยคาแรกเตอร์ตัวละครและบทที่เปิดโอกาสให้เขาแสดงอารมณ์หลากหลาย ทั้ง ตลก ซีเรียส เศร้า ทุกข์ รัก แล้วก็ทำถึงทุกอารมณ์ด้วย อาจเพราะด้วยวัยที่โตเป็นผู้ใหญ่ และประสบการณ์ที่ผ่านมา มาลงตัวกับบทนี้พอดี รวมถึงความหล่อ สำหรับผู้เขียนเฉย ๆ กับความหล่อของผู้ชาย เพราะดารานำก็หน้าตาดีเป็นพื้นฐานกันอยู่แล้ว แต่คาแรกเตอร์ที่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความหล่อโดดเด่นกระเด้งออกมา ซึ่งจี้ป้อไจ่คือคำตอบนั้น
ชอบรูปนี้ ความหล่อเพราะคาแรกเตอร์
อย่างที่บอกเสมอว่า จังหวะชีวิตของคนเราช้าเร็วไม่เท่ากัน วันเวลาของใครของมัน และเรื่องนี้ก็เป็นวันเวลาของทั้งหลูอวี้เสียว และโหวหมิงฮ่าว ที่จะได้เจิดจ้าพร้อมกัน
หมายเหตุ
ชอบเบื้องหลังสองรูปนี้มาก สายตาโหวหมิงฮ่าว ยังคงเป็นจี้ป้อไจ่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา