ค่าใช้จ่ายสุขภาพโตแซงGDP ถึงเวลาปฏิรูปหลักประกันสุขภาพ(รัฐ)
ประเทศไทยมีกองทุนหลักประกันสุขภาพภาครัฐหลักๆ 3 กองทุน คือ สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ บัตรทอง 30 บาท ราว 47 ล้านคน สวัสดิการข้าราชการราว 4.8 ล้านคนและ ประกันสังคมประมาณ 14 ล้านคน ซึ่งประกันสังคมเป็นกองทุนเดียวที่ผู้ประกันตนต้อง จ่ายเงินสมทบเอง ส่วนบัตรทองได้รับการจัดสรรเงินจากงบประมาณทั้งหมด เช่นเดียวกับสิทธิข้าราชการ แต่มีบางการรักษาที่เปิดให้ข้าราชการร่วมจ่ายเงินเองได้
📌 ค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลโตกว่าGDP
เมื่อพิจารณางบประมาณ พ.ศ. 2568 ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล รวม 346,632.1990 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 35,254.7831 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.32 % ค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้น จากปี 2565 ถึงปี 2568 เฉลี่ย 4.53 %ต่อปี ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) จากปี 2565 ถึงปี 2568 เพิ่มขึ้น 2.0 - 2.5% ต่อปี แยกเป็นรายกองทุนในปีงบประมาณ 2568
สิทธิบัตรทอง จำนวน 168,296.8867 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 15,558.6458 ล้านบาท คิดเป็น 10.19 % จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่อยู่ที่ จำนวน 152,738.2409 ล้านบาท ครอบคลุมประชากรจำนวน 47.157 ล้านคน คิดเป็นอัตราเหมาจ่ายรายหัว จำนวน 3,856.08 บาทต่อราย
สิทธิประกันสังคม ประมาณการค่าบริการทางการแพทย์ จำนวน 74,388.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 3,889.67 ล้านบาท คิดเป็น 5.52 % จากปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่อยู่ที่ 70,499.27 ล้านบาท ครอบคลุมประชากรจำนวน 14.46 ล้านคน คิดเป็นอัตราเหมาจ่ายรายหัว จำนวน 5,142.92 บาทต่อราย
สิทธิสวัสดิการข้าราชการ จำนวน 93,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 14,235 ล้านบาท คิดเป็น 17.89 % จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ได้รับเงินจัดสรร จำนวน 79,565 ล้านบาทครอบคลุมประชากร จำนวน 4.81 ล้านคน เฉลี่ยรายละ 19,501.04 บาท
📌 บัตรทอง จ่ายเงินไม่ตรงตามต้นทุน
ในงานเสวนา เรื่อง “ทิศทางการดำเนินงานระบบบัตรทองในปัจจุบัน และอนาคต” จัดโดยสมาคมคลินิกชุมชนอบอุ่น ร่วมกับคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายโรงพยาบาลกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ ยูฮอสเน็ต (Uhosnet) ชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(รพศ.รพท.) และชมรมโรงพยาบาล/สถาบัน กรมการแพทย์ เมื่อเร็วๆนี้
นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ อดีตประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป(รพศ./รพท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมามีการวิจัยจาก รพ.ทั่วประเทศ พบว่า ต้นทุนของโรงพยาบาลสังักัดกระทรวงสาธารณสุข(รพ.สธ.)ถูกที่สุด จ้างแพทย์ จ้างพยาบาลถูกที่สุดวันละ 350 บาท นี่คือต้นทุน ไม่ได้พูดถึงกำไร เพราะไม่ได้มีผู้ถือหุ้นใดๆ โดยต้นทุนผู้ป่วยในของ รพ.สธ.อยู่ที่ประมาณ 13,000 บาทต่อ adjRW แต่ สปสช.ประกาศปี 2568 จะจ่ายให้ใกล้เคียงตัวเลข 8,350 บาท ทั้งที่ต้นทุนถูกที่สุดแล้ว และยังมีแนวทางการจ่ายว่า หากเงินไม่พอก็จะจ่ายลดตามส่วน
เมื่อเป็นเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อการที่ รพ.ขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยไตรมาส 1 ปี 2568 มีรพ.ขาดสภาพคล่องทางการเงินติดลบ 4,219.4 ล้านบาท ในเดือนมี.ค.2568 รพ.ที่มีเงินบำรุงหลังหักหนี้ติดลบ 218 แห่ง จาก 902 แห่ง ,รพ.ที่มีเงินบำรุงหลังหักหนี้แล้วน้อยกว่า 5 ล้านบาท 91 แห่ง และข้อมูลเดือนเมษายน 2568 มี รพ.ที่ไม่ได้รับเงินค่ารักษาผู้ป่วยใน 82 แห่ง จากการเรียกเก็บ 119 ล้านบาท
ทั้งนี้ รพ.สธ. 10 อันดับแรกติดลบรวมราว 1,917.868 ล้านบาท คิดเป็น 45.4 % ของเงินบำรุงที่ติดลบทั้งหมด ได้แก่ รพ.ขอนแก่น ติดลบกว่า 848.32 ล้านบาท รพ.ชัยภูมิ ติดลบ 180.02 ล้านบาท รพ.พระนครศรีอยุธยา 147.45 ล้านบาท รพ.ระนอง 123.49 ล้านบาท รพ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 117.77 ล้านบาท รพ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี 113.84 ล้านบาท รพ.เพชรบูรณ์ 108.08 ล้านบาท รพ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ 102.92 ล้านบาท รพ.พระพุทธบาท (สระบุรี) 102.12 ล้านบาท และรพ.ปากช่องนานา จ.นครราชสีมา 73.28 ล้านบาท
📌 3 กองทุนสิทธิประโยชน์ต่าง
ขณะที่ในเสวนา “ทลายข้อจำกัดสิทธิประโยชน์ 3 กองทุนสุขภาพ สู่มาตรฐานที่เท่าเทียม” น.ส.บุญยืน ศิริธรรม ประธานสภาผู้บริโภค สะท้อนว่า 3 กองทุนหลักประกันสุขภาพ มีลักษณะให้บริการสาธารณสุขที่แตกต่างกัน สิทธิประโยชน์ก็แตกต่างกัน เช่น สิทธิประกันสังคม กรณีการคลอดบุตรจะได้ 15,000 บาทต่อครั้ง คลอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่ฝากครรภ์
ด้านทันตกรรม สิทธิบัตรทอง เรื่องการขุดหินปูน อุดฟัน ถอนฟันและผ่าฟันคุดไม่จำกัดจำนวนครั้งและจำนวนค่าใช้จ่าย ส่วนประกันสังคมจำกัดค่าใช้จ่ายไม่เกิน 900 บาทต่อปี รวมทั้งการรักษาโรคมะเร็งในส่วนสิทธิข้าราชการ,บัตรทองรักษาทุกมะเร็งตามการวินิจฉัยและไปรักษาที่ไหนก็ได้ที่สะดวก แต่ประกันสังคม ยังไม่ทราบจะได้รับเมื่อไหร่ เป็นต้น
📌 ประกันสังคมขาดการมีส่วนร่วม
นพ.ณัฐ ศิริรัตน์บุญขจร ทีมประกันสังคมก้าวหน้า สะท้อนกำแพงที่รอการพัฒนาของประกันสังคมว่า การมีส่วนร่วมของผู้ประกันตนค่อนข้างยากมาก ไม่มีช่องทางให้เสนอแนะ หรือเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ใดๆ การมีส่วนร่วมของนักวิชาการก็ยาก อย่างต้องการทำข้อมูลวิชาการ ข้อมูลวิจัย หลายครั้งถูกปฏิเสธ และเมื่อไม่มีข้อมูลทางวิชาการก็จะส่งผลต่อการดีไซน์ระบบที่เหมาะสมได้
“บุคลากรของสำนักงานประกันสังคมก็จำกัด ขาดแคลนบุคลากรอีกมาก ในเรื่องการบูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และกองทุนอื่นๆ ยังไม่เต็มที่ รวมถึงเรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาสิทธิประโยชน์ต้องชัดเจน โปร่งใส”นพ.ณัฐกล่าว
📌 แพ็คเกจสุขภาพ 3 ชั้น
แนวทางหนึ่งของการปรับปรุงกองทุนหลักประกันสุขภาพภาครัฐ ที่มีการถกเถียงและไม่ได้ข้อสรุปมายาวนาน คือ “การรวม 3 กองทุนเป็นกองทุนเดียว” อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ มีอีหนึ่งข้อเสนอสมัยศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นรมว.สธ.ที่มอบหมายให้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการวิจัยใน คือ “การจัดทำแพ็คเกจสุขภาพ 3 ระดับ”
แนวทางนี้ นพ.ถาวร สกุลพาณิชย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมแห่งชาติ หยิบขึ้นมาเป็นข้อเสนออีกครั้งโดยระบุว่าเพื่อสร้างความเป็นธรรม ด้วยการจำแนกแพ็คเกจชุดสิทธิประโยชน์ออกเป็นส่วนๆ ได้แก่
ชั้นที่ 1 สิทธิประโยชน์พื้นฐานด้านการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันควบคุมโรค รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสภาพ ที่จำเป็นและคุ้มค่า เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงได้เท่าเทียมกัน
ชั้นที่ 2 บริการทางการแพทย์อื่นๆ ที่เป็นส่วนเสริมที่กองทุนแต่ละกองทุนสามารถเลือกนำมาเสริมให้แก่กลุ่มเป้าหมายของตนได้ตามความเหมาะสม
และชั้นที่ 3 บริการอื่นๆที่เป็นส่วนเสริมตามความต้องการของคน รวมถึงความสะดวกสบาย เช่น การขอใช้ห้องพิเศษ อุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือยาที่เกินกว่ากลุ่มที่กำหนดว่าจำเป็นและคุ้มค่า
“ต้องมาร่วมกันสร้างสิทธิประโยชน์กลางของทุกกองทุนในชั้นที่1 ที่มีราคาที่เหมาะสม และสร้างกลไกการปรับปรุงสิทธิประโยชน์กลางและราคาต่อเนื่องทุกปี ที่สำคัญต้องพัฒนากลไกกำกับ อภิบาลให้ดี ต้องก้าวข้ามเรื่องกองทุนเดียวหรือหลายกองทุนหลักประกันสุขภาพภาครัฐ เพราะไม่ว่าแบบใด ไม่มีอะไรการันตีว่า จะลดความเหลื่อมล้ำได้จริง แต่ต้องมาคุยกันให้ชัดเรื่องสร้างความเป็นธรรม” นพ.ถาวร กล่าว
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
