3 มิ.ย. เวลา 06:33 • ข่าวรอบโลก

📰 RedEarth ผนึกจีน-เยอรมนี เปิดตัว Microgrid-in-a-Box ครั้งแรกของโลก พลิกโฉมพลังงานอนาคต

🌍 RedEarth launches world's first ‘Microgrid-in-a-Box’ with Chinese and German partners
🔋 นวัตกรรมพลังงานรูปแบบใหม่จากออสเตรเลีย
บริษัท RedEarth Energy Storage จากรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย เปิดตัวโซลูชันใหม่ล่าสุดที่อ้างว่าเป็น ‘Microgrid-in-a-Box’ (MIB) รายแรกของโลก โดยร่วมมือกับ Nebula Electronics จากจีน และ ambibox จากเยอรมนี เพื่อรวมระบบ โซลาร์เซลล์ (Solar PV) แบตเตอรี่เก็บพลังงาน (Energy Storage) และ ระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 2 ทิศทาง (Bidirectional EV Charging) เข้าด้วยกันในกล่องเดียว
➤ จุดเด่นอยู่ที่การรองรับเทคโนโลยี Vehicle-to-Home (V2H) และ Vehicle-to-Grid (V2G) ทำให้เจ้าของบ้านสามารถใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการเก็บพลังงานและส่งคืนเข้าสู่ระบบไฟฟ้าของบ้านหรือกริดได้
💸 ประโยชน์ที่จับต้องได้: ลดค่าไฟได้สูงสุด 60%
RedEarth ระบุว่าการใช้ MIB จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าร่วมตลาดพลังงาน เช่น Demand Response หรือ Energy Trading ได้ทันที ซึ่งสามารถลดต้นทุนพลังงานโดยรวมได้สูงสุดถึง 60%
🎯 ambibox จะให้เทคโนโลยีพาวเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่จดสิทธิบัตรไว้แล้ว ขณะที่ Nebula จะรับหน้าที่ด้าน R&D และการผลิตแบบ mass production ส่วน RedEarth จะนำเทคโนโลยี cloud-based platform และระบบหลังบ้านมาใช้งานจริงในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
🌐 แผนการขยายสู่ตลาดโลกเริ่มต้นที่เอเชีย-ยุโรป-โอเชียเนีย
RedEarth วางแผนส่งมอบ MIB ล็อตแรกในปี 2026 ในประเทศจีน ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ โดยมีแผนขยายสู่ภูมิภาคอื่นในระยะถัดไป
⚡ บทบาทของออสเตรเลียใน Demand Response ระดับโลก
🇦🇺 ออสเตรเลียถือเป็นตลาดที่ล้ำหน้าที่สุดในโลกในแง่ของ Demand Response โดยมีการเปิดใช้ Wholesale Demand Response Mechanism (WDRM) ตั้งแต่ปี 2021 ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปสามารถเป็นผู้ขายไฟฟ้าเข้าสู่ตลาดได้โดยตรง ซึ่งประสบการณ์ตรงนี้จะถูกนำไปใช้พัฒนา MIB สำหรับตลาดอื่นทั่วโลก
💡 ปรับแนวคิดพลังงานใหม่: จากหลายกล่อง สู่แพลตฟอร์มเดียว
MIB จะมาแทนที่การติดตั้งแบบแยกส่วน เช่น แผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ และเครื่องชาร์จ EV ซึ่งปัจจุบันต้องพึ่งช่างหลายเจ้า ส่งผลให้ติดตั้งยุ่งยากและใช้งานไม่ต่อเนื่อง โดย MIB จะเป็นระบบเดียวที่สามารถอัปเกรดผ่านซอฟต์แวร์ได้ในอนาคต
🇹🇭 วิเคราะห์ผลกระทบต่อประเทศไทย
แม้ประเทศไทยจะยังไม่ใช้ระบบ Demand Response อย่างแพร่หลายเท่าออสเตรเลีย แต่แนวโน้ม การผลักดันพลังงานทดแทน EV และ ESS มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง หาก RedEarth หรือพันธมิตรนำ MIB เข้ามา จะกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในด้าน Smart Energy Systems และอาจเร่งให้เกิดการยอมรับระบบ V2G และพลังงานแบบกระจายตัว (Distributed Energy Resources) ในไทยได้เร็วขึ้น
📈 ผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย (SET / mai)
🟩 หุ้นที่อาจได้รับผลบวกจากแนวโน้ม Microgrid และ V2G ได้แก่:
🔹 EA - บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)
→ ดำเนินธุรกิจแบตเตอรี่ลิเทียม ระบบ ESS สถานีชาร์จ EV และยานยนต์ไฟฟ้าโดยตรง จึงอยู่ในแนวหน้าของการรับอานิสงส์หากเทคโนโลยี V2G และ MIB เข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
🔹 SPCG - บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน)
→ เชี่ยวชาญด้าน Solar Rooftop และ EPC ซึ่งอาจร่วมออกแบบหรือติดตั้ง MIB ในไทยได้ในอนาคต
🔹 TSE - บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน)
→ ผู้พัฒนาโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์และชีวมวล มีโอกาสใช้ระบบ MIB เพื่อบริหารจัดการพลังงานในโครงการของตนเอง
🔹 AKR - บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน)
→ ผู้ผลิตและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และสถานีไฟฟ้าย่อย อาจได้รับอานิสงส์จากความต้องการในภาคโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวกับ microgrid
📌 หากมีการเปิดตัว MIB หรือแนวคิดคล้ายกันในไทย ความต้องการ เทคโนโลยีชาร์จรถ EV, ESS และระบบบริหารพลังงานแบบ Smart Grid จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน เป็นโอกาสในการเติบโตของบริษัทพลังงานทางเลือกและเทคโนโลยีที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
🏷️ Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#MicrogridInABox #RedEarth #V2G #EVcharging #EnergyStorage #SmartGrid #BattleOfEconomies #พลังงานสะอาด #หุ้นพลังงาน #เทคโนโลยีEV #GreenEnergy #EnergyTransition #StockAtlas #SETImpact
📚 Reference:
Energy-Storage.news – RedEarth claims world’s first ‘Microgrid-in-a-Box’ solution with global partners

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา