Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
S
SixtyPlusYearsYoung
•
ติดตาม
3 มิ.ย. เวลา 08:55 • ไลฟ์สไตล์
สามสิ่งที่ควรมี ถ้าคาดหวังว่าคนไทยจะขี่จักรยานไปทำงาน
วันที่ 3 มิถุนายน เป็นวันจักรยานโลก เลยคิดขึ้นมาได้ว่าควรจะเขียนเรื่องจักรยานเสียหน่อย
Theme ของวันจักรยานโลกปีนี้คือ Cycling for sustainable future ไม่แน่ใจว่ามีใครแปลเป็นไทยแบบเป็นทางการไว้หรือยัง ขอแปลว่าขี่จักรยานเพื่อนาคตที่ยั่งยืนก็แล้วกัน
พูดง่ายๆ คือจักรยานเป็นพาหนะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะฉะนั้นเราท่านทั้งหลายพึงหันมาใช้จักรยานเป็นพาหนะกันให้มากขึ้นเถอะ
ถามว่าทำได้ไหม จักรยานเหมาะกับการใช้เป็นพาหนะในชีวิตประจำวันจริงหรือเปล่า
มันก็ไม่ทุกกาลเทศะหรอก แต่ผมก็ขี่จักรยานไปทำงานบ้างเป็นบางวันอยู่หลายปี แม้จนในปีสุดท้ายที่ทำงาน ตอนนั้นมีห้องทำงานส่วนตัวเป็นสัดเป็นส่วน ซึ่งผมก็แบกจักรยานไปจอดในห้องทำงานเสียเลยเพื่อที่จะไม่ต้องตากแดดตากฝนอยู่ในลานจอดมอเตอร์ไซค์ท่ามกลางความหมั่นไส้ของคนที่เป็นประธานรณรงค์เรื่องความเป็นระเบียบในที่ทำงาน
แต่บังเอิญให้ทำอะไรผมไม่ได้
ระยะทางที่ผมขี่จักรยานไปกลับต่อวันคือ 30 กิโลเมตร ขาดหรือเกินนิดหน่อยสุดแต่ว่าเที่ยวขาไปหรือขากลับจะเลี้ยวไปหาของกินอร่อยๆ ที่ไหน
ขอเล่าถึงมุมมองของผมว่า ถ้าอยากจะให้คนไทยจะขี่จักรยานไปทำงานในเมืองไทย เราควรจะต้องมานั่งคิดกันเรื่องอะไรบ้าง
ในที่นี้หมายถึงว่า ระยะทางที่ขี่แต่ละวันไกลเกินกว่าที่จะเดินไปได้นะ ถ้าใกล้ขนาดเดินถึงแต่ขี่จักรยานเพราะมันเร็วกว่า ไม่เข้าข่ายที่ผมจะพูดถึง
เรื่องที่จะต้องคิดให้ดีก่อนคือ
1. เส้นทางที่ปลอดภัย ผมพบว่าผมไม่จำเป็นต้องอาศัยทางจักรยาน แต่อาศัยซอกแซกตามตรอกซอกซอย จูงจักรยานข้ามถนนใหญ่สองครั้ง ขี่ริมถนนตรงที่เลี่ยงไม่ได้ราว 200 เมตร
ซึ่งผมก็ไม่เคยมีอุบัติเหตุเลยตลอดเวลา 10 กว่าปีที่ขี่จักรยานไปทำงาน
ผมไม่มีสถิติว่าเรามีทางเฉพาะสำหรับจักรยานอยู่มากน้อยเท่าไรทั่วประเทศ แต่เท่าที่เคยเห็นคือมันล้มเหลวเสียทั้งหมดในแง่การใช้มันสัญจรในชีวิตประจำวัน สาเหตุเท่าที่เจอด้วยตัวเองคือคนออกแบบเส้นทางไม่ได้คิดเพื่อตอบโจทย์การใช้จักรยานเป็นพาหนะ
ทางออกที่น่าจะดีกว่าคือ สร้างแพลตฟอร์มกลางให้คนที่ใช้จักรยานเป็นพาหนะอยู่แล้วได้ upload เส้นทางของตัวเองขึ้นมา
ด้วยวิธีนี้บวกกับสภาพผังเมืองที่ยุ่งเหยิงเหมือนแหที่ถูกลิงแก้ในทุกเมืองใหญ่ของประเทศไทย ผมเชื่อว่าเราจะพบเส้นทางที่ใช้จักรยานสัญจรได้โดยปลอดภัยเพิ่มขึ้นและเชื่อมโยงกันมากขึ้นอีกไม่น้อย
2. จะทำความสะอาดร่างกายอย่างไร มีที่ให้เช็ดตัวหรืออาบน้ำไหม ถ้าคุณเป็นผู้ชายเรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ถ้าเป็นผู้หญิงแล้วไม่มีห้องสำหรับอาบน้ำเป็นการเฉพาะ เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว
เรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่เหมือนกันถ้าในสำนักงานแห่งหนึ่งๆ จะมีคนขี่จักรยานมาทำงานสักคนหรือสองคน เพราะต่อให้อาบน้ำจนฉ่ำ แต่ปริมาณการใช้น้ำประปาก็คงไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ได้ต้องการอะไรเพิ่มเป็นพิเศษ
แต่ลองนึกภาพสำนักงานหรือกลุ่มที่ตั้งสำนักงานที่มีพนักงานหลายร้อยแล้วคนมากกว่าครึ่งหนึ่งขี่จักรยานมาทำงานและจำเป็นต้องทำความสะอาดร่างกายก่อนเวลาเข้าทำงานดูว่า สภาพมันจะโกลาหลขนาดไหน
มีแรงจูงใจอะไรที่องค์กรไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชนจะอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ และจะอำนวยความสะดวกอย่างไร
3. วัฒนธรรมองค์กรในการแต่งกายที่เอื้อต่อการพกพาเสื้อผ้ามาผลัดเปลี่ยน
ผมสามารถพกพากางเกงและเสื้อยืดคอปกใส่กระเป๋าแพนเนียร์แล้วควักขึ้นมาในสภาพที่ไม่ยับเยินมากได้นะ
ถ้าวันไหนต้องไปเสนอหน้าในงานอะไรที่เป็นพิธีการมากๆ ผมใช้วิธีแขวนแม่เสื้อไว้หลังโต๊ะทำงาน เสื้อเชิ้ตแขนยาวที่ใส่มาในแพนเนียร์จะยับมากหน่อยก็ช่างมัน ผูกเนคไทแล้วสวมแม่เสื้อทับก็พอดูดีได้ พยายามไม่ถอดแม่เสื้อก็แล้วกัน รองเท้าหนังขัดมันวับอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานนั่นล่ะ
แต่ถ้าองค์กรมีวัฒนธรรมแบบว่า พนักงานต้องแต่งกายเป็นระเบียบหรือแต่งเครื่องแบบชนิดเป๊ะเว่อร์ทุกวัน เลิกคิดเรื่องสนับสนุนให้พนักงานใช้จักรยานเป็นพาหนะเพื่อเอาเครดิตเรื่องลดการปลดปล่อยก๊าซเรื่องกระจกได้เลย
มันไม่สอดรับกับการขี่จักรยานด้วยประการทั้งปวง
ไลฟ์สไตล์
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย