3 มิ.ย. เวลา 12:58 • ประวัติศาสตร์

เบื้องหลังการเรียบเรียง(แปล)หนังสือ "กามนิต"

-------------------
จากบันทึก "แลหลังความประทับใจในวรรณคดีอิงธรรมะเรื่อง กามนิต-วาสิฏฐี" ของผมเมื่อเร็วๆนี้ คงจำได้ว่าหนังสือเล่มนี้ผู้เรียบเรียง(ผู้แปล)คือ พระยาอนุมานราชธน (ยง  เสถียรโกเศศ และพระสารประเสริฐ (ตรี  นาคะประทีป)
ผมอยากเล่าต่อถึงเบื้องหลังการเรียบเรียง(แปล)หนังสือเล่มนี้ต่อเนื่อง ซึ่งปรากฏในหนังสือประวัติครูของคุรุสภา พ.ศ.2502 เขียนโดยพระยาอนุมานราชธน ในประวัติของพระสารประเสริฐ(ท่านถึงแก่กรรม พ.ศ.2488) พระยาอนุมานราชธน ถึงแก่อนิจกรรม พ.ศ.2512
พระยาอนุมานราชธนท่านเรียบเรียงประวัติพระสารประเสริฐไว้ถึง 33 หน้า เล่าประวัติชีวิตพระสารประเสริฐอย่างละเอียดทุกซอกทุกมุม  หากคนอื่นเขียนไหนเลยจะเล่าได้ลึกซึ้งถึงเพียงนี้  ทำให้ทราบว่าพระสารประเสริฐท่านบวชที่วัดเทพศิรินทราวาสหลายพรรษา  ได้เปรียญ 7 ประโยค  พระยาอนุมานราชธนเรียกท่านว่า มหาตรี
หลายคนคงอยากทราบถึงเรื่องราวตอนแปลหนังสือเรื่องกามนิต (ทั้งภาคพื้นดินและภาคสวรรค์) วรรณคดีรักโรแมนติก อิงพุทธศาสนาที่เราเคยเรียนกันว่า พระยาอนุมานราชธนท่านเขียนไว้ในประวัติของพระสารประเสริฐว่าอย่างไร  ผมจึงขอยกข้อความบางตอนมาให้อ่านกันเลยครับ
“...หนังสือเรื่องกามนิต ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ  ข้าพเจ้า(หมายถึงพระยาอนุมานราชธน...ผู้เขียน)สั่งซื้อเข้ามานานหลายปีทีเดียวจึงได้แปลสู่ภาษาไทย  เมื่อข้าพเจ้าได้หนังสือกามนิตเข้ามาใหม่ๆอ่านแล้วจับใจ  เล่าเรื่องให้พระสารประเสริฐ  หลวงสรรสารกิจและ “ธัญยวัน” ฟัง  ทั้ง 3 คนก็ขอร้องให้แปล  แต่ก็ไม่ได้แปล  เพราะหนังสือเรื่องนั้นเกี่ยวกับวรรณคดีอินเดีย  และของพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน
ซึ่งเวลานั้นเรา(หมายถึงพระยาอนุมานราชธนกับพระสารประเสริฐ)ยังมีความรู้เรื่องเหล่านี้ไม่พอ แต่เป็นเรื่องที่เราหมายใจไว้แล้วว่าจะต้องแปล  ระหว่างนั้นคิดหาคำไทยได้เหมาะกับคำภาษาอังกฤษ  คำใดที่มีอยู่ในหนังสือกามนิต  เราก็จดคำนั้นไว้ เช่น gateway ก็จดไว้ว่า ทวารบถ  เป็นต้น
จนถึงปีอะไรก็จำไม่ได้ หลวงสรรสารกิจจะมีอายุครบ 3 รอบดำริมีงานทำบุญอายุเป็นพิเศษ  เราเห็นว่ามีความรู้บ้างแล้วพอจะทำได้ จึงตกลงแปลเรื่องกามนิตจากภาษาอังกฤษออกเป็นภาษาไทยลงในหนังสือพิมพ์ไทยเขษมก่อน แล้วยกเรื่องทั้งหมดให้เป็นของขวัญของหลวงพระสรรสารกิจในวันเกิดนั้น
การแปลภาคพื้นดินตอนที่กามนิตโต้ตอบกับพระพุทธเจ้า  ข้าพเจ้าจงใจแปลให้เป็นคำดาดๆ ง่ายๆ ให้มีคำเป็นศัพท์แสงน้อยที่สุด  และขอร้องไม่ให้พระสารประเสริฐแก้เป็นคำศัพท์  นอกจากจำเป็นจริงๆ  ส่วนภาคบนสวรรค์จะใช้ศัพท์สูงๆอย่างไรก็ได้
เพราะฉะนั้นท่านที่เคยอ่านเรื่องกามนิต  จะเห็นข้อความตอนภาคสวรรค์แพรวพราวไปด้วยศัพท์เพราะๆและงามๆ   ข้าพเจ้าจำได้ว่าแปลคำว่า mat ในภาษาอังกฤษว่า อาสนะ  เพราะเป็นเรื่องพระพุทธเจ้าทรงลาดอาสนะลง  พระสารประเสริฐเห็นแล้วก็หัวเราะ  บอกว่าที่รองนั่งของพระพุทธเจ้าเขาไม่เรียกว่าอาสนะ  เขามีคำใช้เฉพาะเรียกว่า  "นิสีทนสันถัด" ต่างหาก  แล้วก็กล่าวต่อไปว่า  จะติก็ติไม่ลง  เพราะเป็นเรื่องของศาสนา  ถ้าไม่ได้เรียนก็ไม่รู้
อย่างไรก็ดีหนังสือกามนิตสำเร็จเป็นภาษาไทยได้งดงาม  เป็นเพราะพระสารประเสริฐเลือกหาคำมาใช้ได้เหมาะๆ เป็นอย่างที่ในภาษาอังกฤษว่า  คำเหมาะอยู่ในที่เหมาะ  ฉะนั้น  ถ้าท่านมีโอกาสเปรียบเทียบเรื่องกามนิตฉบับภาษาอังกฤษกับฉบับแปลเป็นภาษาไทย  จะเห็นว่าเราแปลใกล้กับต้นฉบับตลอดไป
ยกเว้นแต่ตอนเดียวซึ่งกล่าวด้วย
"รหัสยลัทธิของโจร"  ที่ว่าเอาดาบตัดคอใครขาดก็ไม่มีใครฆ่าใคร  เพราะไม่มีคอของใครขาด  ตอนนี้ต้องศึกษาปรัชญาของโจรเสียเวลาอยู่หลายวัน  พอเข้าใจบ้างแล้วจึงเรียบเรียงใหม่เอาจากความเข้าใจมากกว่าแปลตามตัว...”
โฆษณา