อัลเฟรด โรเซนเบิร์ก: สถาปนิกแห่งความเกลียดชังของนาซี
อัลเฟรด โรเซนเบิร์ก (ค.ศ. 1893-1946) ชาวเอสโตเนียโดยกำเนิด ผู้ที่ผันตัวมาเป็นหนึ่งในนักทฤษฎีคนสำคัญของพรรคนาซี เขาเป็นผู้เผยแพร่แนวคิดสุดโต่งเกี่ยวกับเชื้อชาติที่ต่อต้านชาวยิวและต่อต้านศาสนาคริสต์ ทฤษฎีของโรเซนเบิร์กสอดคล้องกับแนวคิดของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และถูกใช้เป็นข้ออ้างในการโจมตีชาวยิว คอมมิวนิสต์ คนรักเพศเดียวกัน และกลุ่มอื่นๆ อีกมากมายในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
โรเซนเบิร์กเกิดในทาลลินน์ ประเทศเอสโตเนีย ในครอบครัวชาวเยอรมันที่พูดภาษาเยอรมัน หลังจากการศึกษาด้านสถาปัตยกรรมในรัสเซียและได้เห็นเหตุการณ์ปฏิวัติรัสเซีย เขาก็กลายเป็นผู้ต่อต้านบอลเชวิกอย่างรุนแรง และย้ายไปมิวนิก ที่นั่นเขาเริ่มพัฒนาแนวคิดต่อต้านยิว โดยอ้างว่าชาวยิวอยู่เบื้องหลังทั้งทุนนิยมและบอลเชวิก โดยมีเป้าหมายที่จะทำลายวัฒนธรรมและศีลธรรม
เขาเชื่อในทฤษฎีสมคบคิดระดับโลกของชาวยิว และต้องการให้ชาวยิวถูกกำจัดออกจากกิจกรรมทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของเยอรมนี แนวคิดเหล่านี้ได้รับความสนใจอย่างมากในเยอรมนีที่กำลังเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ
ในปี ค.ศ. 1919 โรเซนเบิร์กเข้าร่วมพรรคนาซีและเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ของพรรค ซึ่งเต็มไปด้วยโฆษณาชวนเชื่อที่ปลุกระดมความเกลียดชัง เขามีอิทธิพลต่อฮิตเลอร์อย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องแนวคิดต่อต้านยิวและแผนการยึดครอง "พื้นที่อยู่รอด" (Lebensraum) ในสหภาพโซเวียต แม้โรเซนเบิร์กจะไม่ได้มีบทบาทในการตัดสินใจหลักของพรรคมากนักเมื่อฮิตเลอร์ขึ้นสู่อำนาจ แต่เขาก็ยังได้รับตำแหน่งสำคัญต่างๆ เช่น หัวหน้ากรมการต่างประเทศของพรรคนาซี และผู้แทนของท่านผู้นำสำหรับการศึกษาและอบรมทางปัญญาและปรัชญาทั้งหมดของพรรคนาซี
ผลงานที่สำคัญที่สุดของโรเซนเบิร์กคือหนังสือ *ตำนานแห่งศตวรรษที่ 20* (ค.ศ. 1930) ซึ่งนำเสนอแนวคิดเหยียดเชื้อชาติและจักรวรรดินิยมแบบเก่า ผสมผสานกับวิทยาศาสตร์เทียมและประวัติศาสตร์ที่บิดเบือน โดยเน้นย้ำถึง "เผ่าพันธุ์อารยัน" ที่เหนือกว่า และการต่อสู้กับชาวยิวซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุของความเสื่อมถอยทางสังคมและเศรษฐกิจโลก แม้หนังสือจะอ่านยากและถูกวิจารณ์จากคนในพรรคนาซีเอง แต่ก็ขายดีและเป็นรากฐานสำคัญของนโยบายนาซี
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โรเซนเบิร์กดำรงตำแหน่งเป็น **รัฐมนตรีไรช์แห่งดินแดนที่ยึดครองทางตะวันออก** ซึ่งเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมสงคราม รวมถึงการบังคับใช้แรงงานเด็กทาส นอกจากนี้ เขายังเป็นหัวหน้า "ฝ่ายบริหารโรเซนเบิร์ก" ซึ่งมีหน้าที่ปล้นสะดมงานศิลปะและวัตถุทางวัฒนธรรมจากดินแดนที่นาซียึดครองอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปเก็บไว้ในเยอรมนีหรือประดับบ้านของผู้นำนาซี
หลังสงคราม โรเซนเบิร์กถูกพิจารณาคดีที่ศาลนูเรมเบิร์ก (ค.ศ. 1945-1946) เขาถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาสมคบคิดก่อสงคราม อาชญากรรมต่อสันติภาพ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แม้เขาจะอ้างว่าแนวคิดของตนถูกบิดเบือนไปใช้ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ศาลก็ไม่ได้สนใจคำแก้ตัวนั้น โรเซนเบิร์กถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 1946 ร่างของเขาถูกนำไปโปรยทิ้งที่ปากแม่น้ำอีซาร์ในเยอรมนี
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
