4 มิ.ย. เวลา 06:58 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

IBM พลิกเกมโลก! เมื่อทุกธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยเอไอและก้าวไปสู่ยุคอนาคตด้วยควอนตัมคอมพิวติง

IBM พลิกเกมโลก! เมื่อทุกธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยเอไอและไฮบริดคลาวด์ และก้าวไปสู่ยุคอนาคตด้วยควอนตัมคอมพิวติง
วันนี้ AI ไม่ได้เป็นเพียงคำยอดฮิตอีกต่อไป หากแต่กลายเป็นขุมพลังสำคัญของการดำเนินธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การเงิน การศึกษา ไปจนถึงการแพทย์ หนึ่งในองค์กรระดับโลกที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีนี้คือ IBM
ทีมงาน the reporters ได้พูดคุยกับคุณอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารส่วนงานเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เพื่อเจาะลึกวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และบทบาทของ IBM ในการทรานส์ฟอร์มองค์กรทั่วโลกสู่ยุคแห่งข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI
จากบุกเบิกเทคโนโลยี สู่ผู้ขับเคลื่อนโลกธุรกิจยุค AI
คุณอโณทัย เล่าว่า “IBM อยู่ในธุรกิจเทคโนโลยีมาแล้วกว่า 114 ปี และในไทยมาแล้วถึง 72 ปี เราเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศต่างๆ ทั่วโลกตั้งแต่ต้น จะเห็นได้ว่าธุรกรรมทางการเงินกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลกมีเทคโนโลยีของ IBM อยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่เพราะชื่อเสียง หากแต่เป็นความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อความเสถียร ความปลอดภัย และความต่อเนื่องของระบบ โดยเฉพาะในสถาบันการเงินที่ไม่สามารถยอมให้ระบบล่มได้แม้แต่วินาทีเดียว”
ปัจจุบัน IBM ให้ความสำคัญกับการเป็นผู้นำด้าน AI และ ไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud) ซึ่งเป็นรากฐานของโครงสร้างดิจิทัลยุคใหม่ โดยเฉพาะ AI ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ IBM หากย้อนกลับไปปี ในปี 2540 ตั้งแต่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ดีพบลู (Deep Blue) ของ IBM ได้เอาชนะแชมป์โลกหมากรุกได้ ก็แสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ใช่เพียงแนวคิด หรืออยู่ในหนังไซไฟอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม การใช้ AI อย่างได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ต้องพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการบริหารจัดการการกระจายตัวของข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่ในระบบต่าง ๆ ทั้ง ออนพรีมิส (on-premise) พับบลิคคลาวด์ (public cloud) และ เอดจ์คอมพิวติง (edge computing) เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ บนหลักการสำคัญคือ ความปลอดภัย และความสามารถในการทำงานแบบอัตโนมัติ
watsonx: แพลตฟอร์ม AI สำหรับองค์กรยุคใหม่
IBM ได้พัฒนา watsonx แพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อให้องค์กรใช้งาน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญต้องง่ายในการใช้งาน อาทิ
watsonx.ai: สำหรับรันโมเดลรากฐานของปัญญาประดิษฐ์ (Foundation Models) ที่ปรับให้เข้ากับแต่ละอุตสาหกรรม
watsonx.data: สำหรับจัดการข้อมูลแบบไฮบริดและเรียลไทม์
watsonx.governance: เฟรมเวิร์กด้านธรรมาภิบาล ที่ช่วยให้ AI ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้
watsonx.orchestrate: AI Agent สำหรับใช้งานในองค์กร เช่น HR การเงิน หรือการขาย
คุณอโณทัยเน้นว่า AI สามารถต่อยอดและขยายขีดความสามารถไปสู่การใช้งานในวงกว้างได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อองค์กรเตรียมข้อมูลให้พร้อม และข้อมูลเหล่านั้นต้องมีการปกป้องอย่างรัดกุมด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ เพื่อที่ AI จะดึงมาใช้งานได้อย่างเรียลไทม์และมีความแม่นยำ
IBM ในฐานะ Client Zero: เปลี่ยนผ่านภายในก่อนส่งมอบภายนอก
IBM เป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีของตัวเองในการทรานส์ฟอร์มองค์กร ตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา ได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน โดยการนำ AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาผสานในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นงานด้าน HR การจัดซื้อ ผู้ช่วยด้านไอที ไปจนถึงซัพพลายเชน ทำให้กระบวนการที่เคยซับซ้อนถูกปรับเปลี่ยนให้เรียบง่ายขึ้น และการทำงานที่ทำซ้ำ ๆ ถูกแทนที่ด้วยออโตเมชันและแรงงานดิจิทัล หรือที่เราเรียกง่ายๆ ว่า AI Agent
ขณะที่บุคลากรเองก็มีเวลาไปให้ความสำคัญกับงานที่สร้างคุณค่ามากขึ้น ดังตัวอย่างของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) ซึ่งดูแลพนักงานกว่า 250,000 คนทั่วโลก ระบบ AI ถูกนำมาสนับสนุนกระบวนการต้อนรับพนักงานใหม่ การฝึกอบรม การเลื่อนตำแหน่ง และการจัดการเรื่องสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ นอกจากนี้พนักงานสามารถใช้แชตบ็อตที่ขับเคลื่อนด้วย watsonx เพื่อค้นหาข้อมูลหรือทำเรื่องต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเองอย่างสะดวกและรวดเร็ว
ผลจากการทรานส์ฟอร์มครั้งนี้ ทำให้ IBM มีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งสามารถนำกลับไปลงทุนในเรื่องสำคัญเชิงกลยุทธ์อื่น ๆ ขององค์กรต่อไปได้
5 เทรนด์ที่องค์กรต้องการลงทุนด้าน AI ต้องพิจารณา
อโณทัยเผยต่อว่า “AI กำลังกลายเป็นแกนกลางของทุกอุตสาหกรรม แต่การลงทุนที่ได้ผล ไม่ได้เริ่มต้นจากแค่ “อยากใช้ AI” แต่ต้องเริ่มจาก “เข้าใจทิศทางที่กำลังจะเป็นไป โดยเฉพาะในช่วงที่เทคโนโลยี AI เปลี่ยนผ่านจากการทดลองไปสู่การใช้งานจริง องค์กรจำนวนมากเริ่มหันมาพิจารณาแนวทางการลงทุนอย่างรอบคอบ เพื่อให้เทคโนโลยีที่ลงแรงไป ไม่เพียงตอบโจทย์ในระยะสั้น แต่ต้อง ‘ยั่งยืน’ และ ‘ปรับขยาย’ ได้ในระยะยาว”
นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นถึง 5 เทรนด์หลักที่องค์กรควรใช้เป็นเข็มทิศก่อนตัดสินใจเดินหน้า AI ในระดับองค์กร ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของกลยุทธ์ โครงสร้าง และความรับผิดชอบที่ต้องพาความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ได้แก่
1. Domain-specific AI: AI จะมีความเฉพาะทางมากขึ้น ไม่ใช่แค่ AI ที่รู้เผินๆ ในทุกเรื่อง แต่จะมีความรู้เชิงลึกในเรื่องเฉพาะ เช่น การแพทย์ ค้าหลีก หรือ HR
2. AI Agent หรือ Agentic AI: ซึ่งเป็น AI ที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น นอกเหนือจาก Gen AI จะไม่เพียงแค่ให้คำตอบ แต่สามารถทำสิ่งต่างๆ ต่อให้เราได้โดยอัตโนมัติ เช่น การจองคิวผู้ป่วย หรือการทำให้ฟังก์ชันต่างๆ หรือกระบวนการต่างๆในองค์กรให้เป็นอัตโนมัติ
3. Open and Hybrid AI: AI จะเป็นระบบเปิดมากขึ้น โดยเฉพาะ โมเดลแบบโอเพนซอร์ส (Open-source Model) ซึ่งมีข้อดีคือมีทางเลือกหลากหลาย สามารถเลือกโมเดลขนาดที่เหมาะสมกับโดเมนแบบเจาะจงได้ ทำให้ใช้ทรัพยากรน้อยลง และต้นทุนต่ำลง นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกันในระบบนิเวศ และบนสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดคลาวด์ได้อย่างไร้รอยต่อ
4. AI Governance: การวางกรอบธรรมาภิบาลตั้งแต่ต้น เพื่อให้บริหารจัดการ AI ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย ถูกต้องตามนโยบาย และข้อกำหนด ที่สำคัญยังเป็นการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนขององค์กร ไม่รั่วไหลออกไปข้างนอก
5. Quantum computing and AI Combination: ควอนตัมคอมพิวติง และ AI จะทำงานร่วมกันและสร้างผลลัพธ์หรือปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นในอนาคต
Quantum Computing + AI กับบริบทยุคใหม่ที่ IBM เดินนำหน้าโลก
นอกเหนือจากการลงทุนในเทคโนโลยี AI และ Hybrid Cloud แล้ว IBM ยังให้ความสำคัญกับ ควอนตัมคอมพิวติง (Quantum Computing) อย่างต่อเนื่อง โดยมีการวิจัยและพัฒนามาแล้วกว่า 40 ปี และมีความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา วันนี้ IBM จึงถือเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีควอนตัม และคาดว่าควอนตัมคอมพิวติงจะเริ่มเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบภายในปี 2572
“ตัวอย่างที่ผ่านมา อาทิ Moderna ที่ได้ร่วมมือกับ IBM ในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมกับการใช้โปรแกรมวิเคราะห์โปรตีนแบบดั้งเดิม CPLEX โดยทดลองใช้ควอนตัมอัลกอริธึมที่เรียกว่า CVaR VQE กับลำดับนิวคลีโอไทด์ของ mRNA ที่สร้างขึ้นแบบสุ่ม เพื่อคาดการณ์โครงสร้าง mRNA ที่มีความเสถียรให้แม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับวิธีการที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน
ผลการทดลองพบว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมมีศักยภาพในการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพลวัตของ mRNA และเป็นแนวทางที่น่าจับตามองในการพัฒนาชีววิทยาคอมพิวเตอร์ด้วยอัลกอริธึมควอนตัม ในขั้นถัดไป Moderna มีเป้าหมายที่จะขยายขีดความสามารถของเทคโนโลยีควอนตัมให้สามารถวิเคราะห์ลำดับข้อมูลที่ยาวเกินขอบเขตที่ CPLEX รองรับได้ ซึ่งอาจส่งผลให้กระบวนการวิจัยที่เคยต้องใช้เวลากว่า 10 ปี อาจเหลือเพียงไม่กี่ปีด้วยพลังของควอนตัม”
ปัจจุบัน IBM ยังเป็นบริษัทแรกที่นำควอนตัมคอมพิวเตอร์เข้าสู่ บริการผ่านระบบคลาวด์ (Quantum-as-a-Service) ตั้งแต่ปี 2016 ทำให้นักวิจัยและองค์กรทั่วโลกสามารถเข้าถึงขุมพลังนี้ได้อย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ IBM ยังได้พัฒนา Qiskit ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับสร้างอัลกอริธึมควอนตัมโดยเฉพาะ ที่ผ่านมา ผู้ใช้กว่า 600,000 คนทั่วโลกได้ใช้ระบบในการรันเซอร์กิตไปแล้วมากกว่า 3 ล้านล้านครั้ง สะท้อนให้เห็นถึงการขยับเข้าใกล้ความเป็นจริงของเทคโนโลยีนี้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ทุกการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีย่อมมีความท้าทายควบคู่กัน โดยเฉพาะเรื่องของไซเบอร์ซิเคียวริตี้ ที่แฮกเกอร์เองก็เริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีล้ำหน้าอย่าง AI และในอนาคตอาจรวมถึงควอนตัมเพื่อถอดรหัสข้อมูลสำคัญจากระบบเข้ารหัสแบบเดิม
เมื่อ AI, Hybrid Cloud และ Quantum มาบรรจบกันในมือขององค์กรที่มีประสบการณ์กว่า 100 ปี IBM จึงไม่ได้แค่พูดถึงอนาคต แต่กำลังช่วยสร้างมันขึ้นมาจริง ๆ
อโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารส่วนงานเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
โฆษณา