IBM พลิกเกมโลก! เมื่อทุกธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยเอไอและก้าวไปสู่ยุคอนาคตด้วยควอนตัมคอมพิวติง
IBM พลิกเกมโลก! เมื่อทุกธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยเอไอและไฮบริดคลาวด์ และก้าวไปสู่ยุคอนาคตด้วยควอนตัมคอมพิวติง
วันนี้ AI ไม่ได้เป็นเพียงคำยอดฮิตอีกต่อไป หากแต่กลายเป็นขุมพลังสำคัญของการดำเนินธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การเงิน การศึกษา ไปจนถึงการแพทย์ หนึ่งในองค์กรระดับโลกที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีนี้คือ IBM
ทีมงาน the reporters ได้พูดคุยกับคุณอโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ และผู้บริหารส่วนงานเทคโนโลยี บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เพื่อเจาะลึกวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และบทบาทของ IBM ในการทรานส์ฟอร์มองค์กรทั่วโลกสู่ยุคแห่งข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI
จากบุกเบิกเทคโนโลยี สู่ผู้ขับเคลื่อนโลกธุรกิจยุค AI
ปัจจุบัน IBM ให้ความสำคัญกับการเป็นผู้นำด้าน AI และ ไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud) ซึ่งเป็นรากฐานของโครงสร้างดิจิทัลยุคใหม่ โดยเฉพาะ AI ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ IBM หากย้อนกลับไปปี ในปี 2540 ตั้งแต่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ดีพบลู (Deep Blue) ของ IBM ได้เอาชนะแชมป์โลกหมากรุกได้ ก็แสดงให้โลกเห็นถึงศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์ที่ไม่ใช่เพียงแนวคิด หรืออยู่ในหนังไซไฟอีกต่อไป
watsonx.governance: เฟรมเวิร์กด้านธรรมาภิบาล ที่ช่วยให้ AI ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้
watsonx.orchestrate: AI Agent สำหรับใช้งานในองค์กร เช่น HR การเงิน หรือการขาย
คุณอโณทัยเน้นว่า AI สามารถต่อยอดและขยายขีดความสามารถไปสู่การใช้งานในวงกว้างได้อย่างแท้จริง ก็ต่อเมื่อองค์กรเตรียมข้อมูลให้พร้อม และข้อมูลเหล่านั้นต้องมีการปกป้องอย่างรัดกุมด้วยเทคโนโลยีที่เชื่อถือได้ เพื่อที่ AI จะดึงมาใช้งานได้อย่างเรียลไทม์และมีความแม่นยำ
IBM ในฐานะ Client Zero: เปลี่ยนผ่านภายในก่อนส่งมอบภายนอก
IBM เป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีของตัวเองในการทรานส์ฟอร์มองค์กร ตั้งแต่ต้นปี 2023 เป็นต้นมา ได้ปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงาน โดยการนำ AI และระบบอัตโนมัติเข้ามาผสานในทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นงานด้าน HR การจัดซื้อ ผู้ช่วยด้านไอที ไปจนถึงซัพพลายเชน ทำให้กระบวนการที่เคยซับซ้อนถูกปรับเปลี่ยนให้เรียบง่ายขึ้น และการทำงานที่ทำซ้ำ ๆ ถูกแทนที่ด้วยออโตเมชันและแรงงานดิจิทัล หรือที่เราเรียกง่ายๆ ว่า AI Agent
นอกจากนี้ยังชี้ให้เห็นถึง 5 เทรนด์หลักที่องค์กรควรใช้เป็นเข็มทิศก่อนตัดสินใจเดินหน้า AI ในระดับองค์กร ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นเรื่องของกลยุทธ์ โครงสร้าง และความรับผิดชอบที่ต้องพาความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ถูกต้อง
ได้แก่
1. Domain-specific AI: AI จะมีความเฉพาะทางมากขึ้น ไม่ใช่แค่ AI ที่รู้เผินๆ ในทุกเรื่อง แต่จะมีความรู้เชิงลึกในเรื่องเฉพาะ เช่น การแพทย์ ค้าหลีก หรือ HR
2. AI Agent หรือ Agentic AI: ซึ่งเป็น AI ที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น นอกเหนือจาก Gen AI จะไม่เพียงแค่ให้คำตอบ แต่สามารถทำสิ่งต่างๆ ต่อให้เราได้โดยอัตโนมัติ เช่น การจองคิวผู้ป่วย หรือการทำให้ฟังก์ชันต่างๆ หรือกระบวนการต่างๆในองค์กรให้เป็นอัตโนมัติ
3. Open and Hybrid AI: AI จะเป็นระบบเปิดมากขึ้น โดยเฉพาะ โมเดลแบบโอเพนซอร์ส (Open-source Model) ซึ่งมีข้อดีคือมีทางเลือกหลากหลาย สามารถเลือกโมเดลขนาดที่เหมาะสมกับโดเมนแบบเจาะจงได้ ทำให้ใช้ทรัพยากรน้อยลง และต้นทุนต่ำลง นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกันในระบบนิเวศ และบนสภาพแวดล้อมแบบไฮบริดคลาวด์ได้อย่างไร้รอยต่อ
4. AI Governance: การวางกรอบธรรมาภิบาลตั้งแต่ต้น เพื่อให้บริหารจัดการ AI ให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย ถูกต้องตามนโยบาย และข้อกำหนด ที่สำคัญยังเป็นการปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนขององค์กร ไม่รั่วไหลออกไปข้างนอก
5. Quantum computing and AI Combination: ควอนตัมคอมพิวติง และ AI จะทำงานร่วมกันและสร้างผลลัพธ์หรือปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นในอนาคต
Quantum Computing + AI กับบริบทยุคใหม่ที่ IBM เดินนำหน้าโลก
นอกเหนือจากการลงทุนในเทคโนโลยี AI และ Hybrid Cloud แล้ว IBM ยังให้ความสำคัญกับ ควอนตัมคอมพิวติง (Quantum Computing) อย่างต่อเนื่อง โดยมีการวิจัยและพัฒนามาแล้วกว่า 40 ปี และมีความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา วันนี้ IBM จึงถือเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยีควอนตัม และคาดว่าควอนตัมคอมพิวติงจะเริ่มเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบภายในปี 2572
“ตัวอย่างที่ผ่านมา อาทิ Moderna ที่ได้ร่วมมือกับ IBM ในการเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการใช้คอมพิวเตอร์ควอนตัมกับการใช้โปรแกรมวิเคราะห์โปรตีนแบบดั้งเดิม CPLEX โดยทดลองใช้ควอนตัมอัลกอริธึมที่เรียกว่า CVaR VQE กับลำดับนิวคลีโอไทด์ของ mRNA ที่สร้างขึ้นแบบสุ่ม เพื่อคาดการณ์โครงสร้าง mRNA ที่มีความเสถียรให้แม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับวิธีการที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน