4 มิ.ย. เวลา 09:55 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สรุปภาวะตลาดประจำสัปดาห์ที่ 26 - 30 พ.ค. 2568

ภาพรวม
  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง
  • ศาลการค้าสหรัฐฯ สั่งยกเลิกมาตรการภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ศาลอุทธรณ์สั่งระงับคำตัดสินชั่วคราว ทำให้มาตรการภาษียังคงใช้ได้ระหว่างการอุทธรณ์
  • ประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง อาจมีการเจรจาการค้ากันเร็วๆนี้
  • Bond Yield สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง จากความต้องการซื้อของนักลงทุน
  • ผลประกอบการ NVIDIA ดีกว่าคาด และยังเติบโตจากความต้องการชิป AI
สถานการณ์ตลาด
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น โดย Dow Jones +1.6% S&P 500 +1.9% และ NASDAQ +2% จากแรงหนุนของหุ้น NVIDIA ที่รายงานผลประกอบการดีกว่าคาด และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE ที่ลดลงต่อเนื่องใกล้เป้าหมาย Fed แม้จะมีความไม่แน่นอนจากประเด็นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์ หลังศาลการค้าสหรัฐฯ สั่งยกเลิกภาษีของทรัมป์ แต่ศาลอุทธรณ์สั่งระงับคำตัดสินชั่วคราว ทำให้ภาษียังคงใช้ได้ระหว่างการอุทธรณ์
  • ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากตัวเลขการเปิดรับสมัครงานซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้นเป็น 7.39 ล้านตำแหน่งในเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 7.2 ล้านตำแหน่งในเดือน มี.ค. ซึ่งตัวเลขตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งช่วยลดความกังวลจากประเด็นภาษีนำเข้าของทรัมป์ไปได้
  • ศาลการค้าสหรัฐฯ มีคำตัดสินว่า มาตรการภาษีตอบโต้ของทรัมป์ผิดกฎหมาย และเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต แต่ศาลอุทธรณ์ระงับคำตัดสินดังกล่าว
๐ ทรัมป์ใช้กฎหมาย International Emergency Economic Powers Act หรือ IEEPA อ้างภาวะฉุกเฉินในการเก็บภาษีนำเข้าสูง โดยไม่ผ่านรัฐสภา ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญที่ให้อำนาจด้านการค้ากับรัฐสภา ศาลการค้าจึงสั่งยกเลิกภาษีดังกล่าว
๐ ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำสั่งระงับคำตัดสินของศาลการค้าเป็นการชั่วคราว ทำให้มาตรการภาษีของทรัมป์ยังมีผลบังคับใช้ โดยเปิดทางให้รัฐบาลอุทธรณ์ และกำหนดให้ฝ่ายธุรกิจยื่นคัดค้านภายใน 5 มิ.ย. และรัฐบาลชี้แจงภายใน 9 มิ.ย.นี้
๐ นักวิเคราะห์มองว่า หากทรัมป์แพ้คดี อาจหันไปใช้กฎหมายอื่นในการประกาศภาษี เช่น มาตรา 122 ที่ให้สามารถกำหนดภาษีได้ไม่เกิน 15% เป็นเวลา 150 วัน
๐ ขณะเดียวกัน ทรัมป์ยังคงเดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก และอะลูมิเนียมจาก 25% เป็น 50% มีผล 4 มิ.ย. โดยใช้กฎหมายอีกฉบับที่ไม่อยู่ในขอบเขตของคำตัดสินศาล ซึ่งการขึ้นภาษีนี้ยกเว้นสหราชอาณาจักร เนื่องจากอยู่ระหว่างเจรจาข้อตกลง
  • ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าของสหรัฐฯ
๐ การเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและยุโรปมีความคืบหน้าอย่างจำกัด
๐ ทรัมป์กล่าวหาว่าจีนละเมิดข้อตกลงด้านภาษีศุลกากร แต่จีนออกแถลงการณ์ปฏิเสธ พร้อมตำหนิมาตรการของสหรัฐฯ ที่ยกระดับการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี และยกเลิกวีซ่านักเรียนจีน ว่าเป็นการบ่อนทำลายข้อตกลงการค้าเจนีวาอย่างรุนแรง
๐ รมว.การคลังสหรัฐฯ ระบุว่าการเจรจาอยู่ในภาวะชะงักงัน และจำเป็นต้องให้ผู้นำทั้งสองประเทศหารือโดยตรง ล่าสุดทำเนียบขาวเผยว่า ทรัมป์ และสี จิ้นผิง อาจมีการพูดคุยกันในเร็วๆ นี้ ซึ่งยังต้องติดตามต่อไป
  • ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
๐ GDP ไตรมาส 1 ปี 2025 หดตัว 0.2% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอลง และแรงกดดันจากภาษีนำเข้าที่สูงกว่าคาด
๐ ดัชนีเงินเฟ้อ PCE ซึ่งเป็นมาตรวัดที่สำคัญของ Fed ยังอยู่ในระดับต่ำ โดย ดัชนี Core PCE เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% MoM และ 2.5% YoY ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี ส่งผลให้ความคาดหวังต่อเงินเฟ้อในระยะยาวลดลง
๐ รายจ่ายส่วนบุคคล เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือน เม.ย. ลดลงจาก 0.7% ในเดือน มี.ค. สะท้อนการชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภค ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากภาษีนำเข้า
๐ การนำเข้า ทรุดตัวลงถึง 20% MoM ถือเป็นการลดลงมากที่สุดในประวัติการณ์ โดยมีสาเหตุหลักจากอัตราภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นในเดือน เม.ย.
  • นักลงทุนเริ่มกลับเข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯ ส่งผลให้ Bond Yield ปรับตัวลดลง ขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเริ่มผ่อนคลายลง นอกจากนี้ พันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ยังได้รับความสนใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงติดตามความคืบหน้าของร่างกฎหมายลดภาษีของทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลให้เพดานหนี้ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก 4 ล้านล้านดอลลาร์
  • NVIDIA รายงานรายได้ในไตรมาส 1 ที่ 44,100 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 69% YoY โดยมีรายได้หนุนจากกลุ่ม Data Center ที่โต 73% กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 96 เซนต์ สูงกว่าคาด และการเติบโตยังแข็งแกร่งจากความต้องการชิป AI ทั่วโลก ถึงแม้จะเผชิญแรงกดดันทางการเมือง บริษัทยังคาดรายได้ในไตรมาส 2 ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าคาดเล็กน้อย และระบุว่าหากไม่มีข้อจำกัดการส่งออกไปจีน รายได้จะสูงกว่านี้ถึง 8,000 ล้านดอลลาร์
นโยบายการลงทุนและคำเตือน
  • เอกสารฉบับนี้จัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือได้ ณ วันที่แสดงข้อมูล แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้องความน่าเชื่อถือ และ ความสมบูรณ์ของข้อมูลทั้งหมด โดยบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงข้อมูลทั้งหมดโดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • ควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน | ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ผู้ลงทุนสามารถขอข้อมูลหนังสือชี้ชวนได้ที่สำนักงานของบริษัทจัดการ หรือจาก www.krungsriasset.com หรือตัวแทนสนับสนุนการขาย หรือเจ้าหน้าที่ขายหน่วยลงทุน
ติดตามกองทุนกรุงศรี อัปเดตข่าวสาร และกิจกรรมต่างๆ ได้ที่
#KrungsriAsset #กองทุนกรุงศรี #Weeklymarketview #สรุปภาวะตลาดรายสัปดาห์
โฆษณา