กองทุนลดหย่อนภาษีที่ปรับพอร์ตทุกสภาวะเศรษฐกิจ เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีที่สุด
ตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา หลายคนคงจะได้ยินข่าวเรื่องการเปิดให้ลงทุนใน กองทุน Thai ESGX ที่สามารถใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้เพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษในปีนี้ ทั้งจากเงินลงทุนใหม่และจากเงินที่เคยลงทุนใน LTF เดิม
แต่ในช่วงที่เศรษฐกิจยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน อย่างเช่น นโยบายภาษีของสหรัฐที่ส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลก จนไปถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาคทั่วโลก จึงทำให้หลายๆ คนลังเลว่าจะวางแผนภาษีอย่างไรในปีนี้ จะดีกว่าไหมถ้ามีกองทุน Thai ESGX ที่ไม่ได้ให้สิทธิแค่การลดหย่อน แต่ยังมีกลยุทธ์ที่พร้อมปรับเปลี่ยนพอร์ตตามภาวะเศรษฐกิจได้อย่างชาญฉลาด มารู้จักกองทุนนี้กัน
เมื่อการลงทุนนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ทำให้หลายคนมองหากลยุทธ์ที่ไม่ยึดติดกับสูตรเดิม
แต่สามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
Aberdeen ขอแนะนำกองทุน ABALL-TESGX กองทุนลดหย่อนภาษีที่ออกแบบมาเพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในทุกสภาวะเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจขยายตัว ชะลอตัว ถดถอยหรือฟื้นตัวอีกครั้ง
กองทุนเน้นลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อความยั่งยืนของไทยในสัดส่วนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 80% ในรอบปีบัญชี โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไทยเพื่อความยั่งยืนเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 65% ในรอบปีบัญชี
อย่างไรก็ตาม กองทุนจะมีการบริหารพอร์ตอย่างยืดหยุ่นและกระจายความเสี่ยงในการลงทุนโดยลงทุนทั้งหุ้นและตราสารหนี้ พร้อมปรับสัดส่วนการลงทุนระหว่างทั้งสองประเภทสินทรัพย์เมื่อ cycle ของเศรษฐกิจเปลี่ยนไป อีกทั้งยังมีกระบวนการคัดเลือกสินทรัพย์ที่ลงทุน โดยการนำปัจจัยด้าน ESG มาพิจารณา เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในทุกจังหวะเศรษฐกิจ
(กองทุนมีความเสี่ยงระดับ 5)
จุดเด่นที่สำคัญที่สุดของ ABALL-TESGX เกิดจากการตั้งคำถามที่ว่า “เมื่อสภาวะเศรษฐกิจเปลี่ยนไป การจัดสรรพอร์ตการลงทุน หรือ Asset Allocation ก็ควรมีการปรับเปลี่ยนตามมิใช่หรือ?” นั่นจึงเป็นที่มาของแนวคิดเรื่อง Dynamic Moves Across Market Cycles ซึ่งก็คือ การทำให้พอร์ตการลงทุนมีความยืดหยุ่น สามารถปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตามสภาวะเศรษฐกิจ
ตัวอย่างเช่น ในปัจจุบันตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงตลาดขาลง (Recession) ซึ่งใกล้จุดต่ำสุดแล้ว จึงมีกลยุทธ์ในการลงทุนดังนี้
- ลงทุนในหุ้น 65%-75% โดยเน้นลงทุนหุ้นขนาดใหญ่ เป็นหุ้นคุณค่าหรือหุ้นดีราคาถูก (Value) และเลือกหุ้นที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลสูง
- ลงทุนในตราสารหนี้ 25%-35%
หลังจากนั้นเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นและเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว (Recovery) กลยุทธ์การลงทุนจะมีการปรับเปลี่ยน ดังนี้
- เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเป็น 75%-85% เพิ่มน้ำหนักหุ้นขนาดเล็กที่มีโอกาสฟื้นตัวแรง เน้นลงทุนในหุ้นเติบโต (Growth) หรือหุ้นที่เกาะกระแสการฟื้นตัวของตลาด (Momentum)
- ลดสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้เป็น 15%-25
กองทุน ABALL-TESGX จะมีกระบวนการวิเคราะห์ก่อนการลงทุนอย่างครบมิติ เพื่อให้พอร์ตมีความแข็งแกร่งในทุกสถานการณ์ โดยจะมีการผสมผสานระหว่างการใช้กลยุทธ์ ดังนี้
1. Top-Down Analysis เป็นการวิเคราะห์โดยเริ่มจากภาพใหญ่ทางเศรษฐกิจ เช่น ทิศทางการเติบโตของ GDP อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ เพื่อกำหนดสัดส่วนสินทรัพย์ที่จะนำมาลงทุนให้สอดรับกับวัฏจักรเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มน้ำหนักหรือการลดน้ำหนักสัดส่วนของหุ้นและตราสารหนี้
2. Bottom-Up Selection เป็นการเฟ้นหาสินทรัพย์โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น พื้นฐานของธุรกิจและอุตสาหกรรม ศักยภาพในการเติบโต งบการเงิน การบริหารจัดการ ฯลฯ เพื่อให้ได้สินทรัพย์ที่ดีที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ
3. Portfolio Construction เป็นกระบวนการสร้างพอร์ตที่เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์ทั้ง Top-Down และ Bottom-Up เพื่อกำหนดสัดส่วนในการลงทุนที่เหมาะสม และคัดเลือกสินทรัพย์ที่จะลงทุนที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด
นอกเหนือจากการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยพื้นฐานทั่วไปแล้ว ABALL-TESGX ยังนำ ESG มาเป็นองค์ประกอบในการคัดเลือกหุ้นและตราสารหนี้เข้าพอร์ตการลงทุนอีกด้วย
ซึ่งอเบอร์ดีนนั้นมีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกหลักทรัพย์เพื่อความยั่งยืนด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี พร้อมทั้งมีสถาบันที่ร่วมกันขับเคลื่อนการลงทุนอย่างยั่งยืนเป็นของอเบอร์ดีนเอง โดยมีการออกแบบเกณฑ์การวิเคราะห์ปัจจัยด้าน ESG เชิงลึกเป็นของตัวเอง และการแบ่งกลุ่มของสินทรัพย์ในมุมของ ESG พร้อมประเมินความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
สำหรับผู้ที่ต้องการนำเงินมาลงทุนใหม่ สามารถลงทุนได้กับ
ABALL-TESGX1 ชนิดเงินลงทุนใหม่ 2568
สำหรับเงินก้อนใหม่ที่ต้องการลดหย่อนภาษีโดยใช้สิทธิเพียงปีเดียว สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 30% ของรายได้พึงประเมินแต่ไม่เกิน 300,000 บาท โดยจะต้องถือครองหน่วยลงทุน 5 ปี (นับแบบวันชนวัน)
สำหรับผู้ที่ต้องการย้ายหน่วยลงทุนจากกองทุน LTF เดิม สามารถลงทุนได้กับ
ABALL-TESGX2 ชนิดเงินลงทุนเดิม 2568
กองทุนนี้จะรองรับการย้ายหน่วยลงทุนจากกองทุน LTF เพื่อใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษี 5 ปี ลดหย่อนได้สูงสุด 500,000 บาท โดยในปีแรกจะลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 300,000 บาท และส่วนที่เหลือจะนำมาเฉลี่ยจำนวนเท่าๆ กันเพื่อใช้ในการลดหย่อนภาษีในปีต่อไป เช่น ส่วนที่เหลือ 200,000 บาท จะนำไปลดหย่อนได้ในปีที่ 2-4 ปีละเท่าๆกันคือ 50,000 บาท โดยจะต้องถือครองหน่วยลงทุน 5 ปี (นับแบบวันชนวัน)
อีกเงื่อนไขสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการย้ายหน่วยลงทุนจาก LTF มายัง ABALL-TESGX2 คือ ผู้ลงทุนต้องสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน LTF ที่ถือครอง ณ วันที่ 11 มีนาคม 2568 ทั้งหมด จากทุกกอง ทุกบลจ. ไปยังกองทุน Thai ESGX ชนิดหน่วยลงทุนสำหรับเงิน LTF ของแต่ละบลจ.
กองทุน ABALL-TESGX เปิดให้ลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีเฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น โดยทั้งสองชนิดหน่วยลงทุนสามารถซื้อหรือสับเปลี่ยนมาได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 มิถุนายน 2568
พิเศษ! รับ หน่วยลงทุน ABCC 100 บาท เมื่อลงทุนทุก ๆ 50,000 บาท ใน ABALL-TESGX1 และ ABALL-TESGX2 ทั้งนี้ เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
ดูรายละเอียดกองทุนเพิ่มเติม 👉 https://www.aberdeeninvestments.com/th-th/investor/investment-solutions/abrdn-all-seasons-thailand-esg-extra-fund
ดูรายละเอียดโปรโมชันเพิ่มเติม 👉 https://www.abrdn.com/docs?editionId=3b5f79be-6364-4763-b277-b264004b336b
ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวม
สอบถามรายละเอียดและรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ โทร 02-352-3388 หรืออีเมล client.services.th@aberdeenplc.com
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
