6 มิ.ย. เวลา 02:23 • ความคิดเห็น
เรื่องกรรม นั้น มันคงไม่เหมือน ฟิสิกส์ นิวเคลียร์ฟิสิกส์ แรงโน้มถ่วง แรงดึงดูด อะตอม เรื่องพลังงานวัตถุ มันเป็นอารมณ์ที่รู้จักได้ ในสิ่งต่างๆในโลก เรียนได้ แต่สิ่งที่ใช้กาย มันเกิดเป็นเรื่องของกรรม บัญชีกรรม ที่มีรายละเอียด ที่มีการบันทึกลงไปที่ธาตุทั้งสี่ เป็นลักษณะของสี่ต่างๆ บันทึกลงไปเหมือนสีที่ธาตุทับลงไป แล้วยังมีเรื่องราวเจ้ากรรมนายเวร เรื่องของทุกข์ เรื่องของความสุข
เช่น คนนี้เคยตีเรา เราก็ไปตีเค้าบ้าง แล้วในการเรียนรู้เรื่องราวต่างๆในโลก เค้าก็เรียนรู้ว่า งโลกนี้ ให้แต่กรรม ให้อารมณ์กรรม ปกคลุมไปทั่วโลก ของๆโลก เมื่อหมดกายเอาไปไม่ได้เลย แม้แต่กายที่เรารักหลงใหลยึดอยู่ก็ต้องทิ้งๆ ไว้ในโลก ไปแต่จิตดวงเดียว ..บันทึกเรื่องราวอะไรไว้
.. ดูพระองคุลีมาล ขนาดชาติสุดท้าย ผู้ที่เคยฆ่าท่าน ก็รีบมาเกิดให้ท่านฆ่า เพื่อปิดบัญชีกรรม เพราะหากไม่มาเกิด บัญชีนี้ก็ติดข้าง พระองคุลีมาร จะไม่มาเกิดอีกแล้ว แล้วด้วยบุญกุศลที่ว่า สะสมบุญบารมีมาเต็มที่ ก็ส่งจิตที่เคยเป็นเจ้ากรรมนายเวรไปสู่สถานที่ดีๆ
เรื่องราวขันธ์ห้า รูปเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ ก็ยังมีเรื่องราวมิติ ที่แตกต่างกันออกไปอีก จะใช้คำว่า กาย หรือ รูป ..รูปมนุษย์ สัตว์ เปรต อสุรกาย เทพยดาอินทร์พรหม ก็เป็นเรื่องรูปที่รายละเอียดที่แตกต่างกัน ด้วนมิติของคำว่า ธาตุที่ประกอบให้เป็นรูปหรือกายให้จิตอาศัย
แล้วยังมีเรื่องราวของแสงสีของกรรม แสงสีของธรรท แสงรัตนะ .ที่ผู้ที่เรียนรู้จัก สะสมบุญกุศลบารมี เพื่อจะบรรเทาการเกิดให้น้อยลงไป เค้าก็เรียนรู้จักขึ้น โดยอาศัยการประพฤติปฏิบัติธรรมไปตามคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเรื่องราวของการพาจิตไปสู่คำว่า ธรรมหลุดพ้น จิตหลุดพ้น พ้นเรื่องราวของโลก พ้นแล้ว จิตกายนั้นก็หมดภาระ จิตนั้นก็หมดภาระ ไม่กรรม ไม่มีอารมณ์โลภโกรธหลง จิตนั่นเป็นธรรม กายก็เป็นธรรม สะอาดสะอ้านบริสุทธิ์ อณูธาตุที่เป็นกรรมสีศีม่วงไม่มีอีกแล้ว เจียระไนจนขาวบริสุทธิ์
.แล้วเค้าก็มีเครื่องมืออะไรไปเจียระไน ..มีแต่คำว่า จิตที่สะสมบุญกุศลบารมีมาเต็มที่
วิธีที่จะเรียนรู้จักเรื่องของกรรม นั่น ลงเมื่อศึกษารอยคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านไม่ได้ฝากผู้หนึ่งผู้ใด ท่านฝากกับดืนฟ่าอากาศ รอยของท่าน ยืน เดิน นั่ง นอน ไม่นึกคิดอะไร .ภาวนา พุทโธ ให้จิตเป็นหนึ่ง ทำกายให้นิ่ง จิตให้เฉยไม่ยึดอะไรทั้งนั่น ลงมือฝึกหัดขึ้นมา เพื่อเรียนรู้จักกรรม แล้วก็หนีกรรม เรียนรู้บันทึกเรื่องราวบุญกุศลบารมี ลงไปที่ธาตุทั้งสี่ เป็นเรื่องของจิต ..ที่เรียกว่า มะโนทะศึกษา แล้วในการเรียนรู้ของแต่ละดวงจิต ก็มีเรื่องราวที่สะสมมาไม่เหมือนกันเลย ในคำว่าสะสมบุญกุศลบารมี
บางเรื่องราวมันก็เป็นเรื่องราวทำนองคลื่นพลังงาน ที่เป็นเรื่องราวของ อารมณ์ เรื่องราวของจิตที่ไปยึด มันเป็นลักษณะของนามธรรม เข่น เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เป็นลักษณะนามธรรม เป็นเรื่องราวของธาตุทั้งสี่ ที่ให้เรียนรู้ ในรายละเอียดสิ่งเหล่านี้ ก็เรียนรู้ แล้วก็ละ ไปเลยๆ ที่เค้าเรียกว่า รู้แล้ว ละ จิตจะเป็นพระ .
แล้วผู้ที่ท่องคาถาอาคม ต่างๆ นั้น มันอารมณ์ .มีแต่กรรม ..จืตมันยึดกรรม ..ลดละอารมณ์อะไรไม่ได้เลย .จิตออกจากร่างกาย มีแต่กรรม ถ่วงจิต..ลงนรก สถานเดียว ..
จิต ..ของคนเรา มาใช้กายไปตามอารมณ์ที่ปรุงแต่ง อารมณ์ที่นำพาความโลภโกรธหลง ตัณหาราคะต่างๆ พาจิตไปหาทุกข์ .เดินทางไปสู่เส้นทางทุกข์ ไปเรื่อยๆ ..โดยไม่รู้ตัวเลย จิตที่จมอยู่กับทุกข์..แต่ไม่รู้จักทุกข์
โฆษณา