7 มิ.ย. เวลา 03:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ส่อง "GDP โลก" เปรียบเทียบ "GDP ไทย" หลังล่าสุดไอเอ็มเอฟเตือน 'เทรดวอร์' หนักกว่า 'โควิด'

กิตา โกปินาถ รองกรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า ภาวะช็อกจากสงครามการค้าจะส่งผลกระทบที่แตกต่างกันต่อธนาคารกลางในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งต่างจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งครั้งนั้นธนาคารกลางสามารถดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว
1
ในบทสัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Financial Times โกปินาถซึ่งเป็นรองกรรมการผู้จัดการคนแรกของไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า ผลกระทบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ของภาษีศุลกากรสหรัฐที่มีต่อเศรษฐกิจกำลังพัฒนา และตลาดโลก จะทำให้เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางประเทศเหล่านี้ทำงานได้ยากขึ้น
“ครั้งนี้ความท้าทายของพวกเขาจะใหญ่กว่าเมื่อเทียบกับช่วงการระบาดของโควิด” ผู้บริหารไอเอ็มเอฟ กล่าว
เจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่างส่งสัญญาณว่าพวกเขา "ไม่พร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ย" จนกว่าจะแน่ใจว่าภาษีศุลกากรจะไม่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น แต่สำหรับตลาดเกิดใหม่ที่เผชิญกับกำแพงภาษีที่สูงขึ้นจากสหรัฐ สถานการณ์ดูเหมือนว่าพวกเขาจะช็อกกับอุปสงค์มากกว่า โดยหมายถึงอัตราเงินเฟ้อ และการเติบโตที่ชะลอตัวลง
สถานการณ์นี้แตกต่างไปจากช่วงเริ่มต้นการระบาดของโควิด ที่ธนาคารกลางส่วนใหญ่ทั้งในกลุ่มประเทศร่ำรวย และกลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง สามารถลดอัตราดอกเบี้ยหรือประกาศโครงการซื้อพันธบัตรเพื่อช่วยฟื้นฟูการเติบโตได้
“เมื่อเรามีความแตกต่างกันในลักษณะนี้ อาจทำให้สภาพการเงินโลกตึงตัวขึ้น และตลาดเกิดใหม่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในตลาดโลก” โกปินาถ กล่าว
โฆษณา