ศ.ดร.แนม บุญสิทธิ์ : ต้นแบบการสอนหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น
------------
อาจารย์พะนอม แก้วกำเนิด (ในภาพ)อดีตอธิบดีหลายกรมในกระทรวงศึกษาธิการ เคยเล่าให้ฟังถึง ศ.ดร.แนม บุญสิทธิ์(ไม่สามารถหาภาพและประวัติโดยละเอียดท่านได้) อาจารย์พะนอมเล่าว่า ศ.ดร.แนมเป็นคนเก่งมาก เสียดายที่ชีวิตท่านประสบเคราะห์กรรมเสียก่อน จึงมีโอกาสทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองได้ไม่มาก
พื้นเพ ศ.ดรแนมเป็นคนอำเภอสวี จังหวัดชุมพร ท่านเป็นผู้ริเริ่มและจัดให้มีการจัดตั้ง หน่วยฝึกฝนอาชีพเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ท่านดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองส่งเสริมอาชีพ กรมอาชีวศึกษา ซึ่งหน่วยฝึกฝนอาชีพเคลื่อนที่นี้ จะใช้ยานพาหนะพาครูผู้สอน วัสดุอุปกรณ์ไปสอนวิชาชีพให้กับประชาชนในถิ่นทุรกันดาร
ได้รับการสนับสนุนด้านยานพาหนะ วัสดุ อุปกรณ์จากองค์การ "USOM" ของสหรัฐอเมริกา ที่ให้บริการและสนับสนุนหน่วยฝึกฝนอาชีพเคลื่อนที่ จำนวนหลายสิบหน่วย ที่ให้บริการการสอนวิชาชีพทั่วประเทศ ด้วยการเดินทางแยกย้ายไปสอนวิชาชีพทั่วทุกภูมิภาค โดยมีเป้าหมายเป็นพื้นที่ในถิ่นทุรกันดารและห่างไกลความเจริญ
มีโรงเรียนสารพัดช่างพระนคร ที่ตั้งอยู่บนถนนบำรุงเมือง ใกล้แยกแม้นศรี เป็นศูนย์กลางในการดำเนินงาน และนอกจากนั้นยังใช้เป็น "WARE HOUSE" สำหรับเป็นสถานที่จัดเก็บและเบิกจ่ายวัสดุอุปกรณ์ให้กับหน่วยฝึกฝนอาชีพเคลื่อนที่หน่วยต่างๆ ที่จะหมุนเวียนเข้ามารายงานผลการสอนโดยครูใหญ่แต่ละหน่วย
โดยจะมีการรายงานผลการปฏิบัติงานทุกครั้งหลังจากการออกหน่วย ซึ่งในช่วงนี้ครูผู้สอนเองก็ได้มีโอกาสพักผ่อน ตรวจเช็คสภาพยานพาหนะ เบิกวัสดุอุปกรณ์ เตรียมการสอน และรับคำสั่งการสอนในพื้นที่อื่นๆต่อไป
แนวคิดการจัดตั้งหน่วยฝึกฝนอาชีพเคลื่อนที่นี้ ศ.ดร.แนม ได้แนวคิดจากการที่ได้เห็นพระภิกษุ แยกย้ายออกบิณฑบาตในตอนเช้าในเส้นทางที่แตกต่างกัน และกลับเข้าสู่วัดซึ่งเป็นศูนย์กลาง และออกมาบิณฑบาตใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น
จุดเปลี่ยนในชีวิตของ ศ.ดร.แนมที่สำคัญคือ ในระหว่างที่ท่านทำหน้าที่หัวหน้ากองส่งเสริมอาชีพ ท่านได้พาผู้เชี่ยวชาญและผู้รู้ด้านวิชาชีพสาขาต่างๆ ไปเปิดสอนวิชาชีพระยะสั้นให้กับประชาชน ณ จังหวัดชุมพร ซึ่งวิชาชีพที่ท่านนำไปสอนในขณะนั้น เช่น การถักเนคไท และการทำตรายาง เป็นต้น โดยจะเปิดสอนให้ฟรี ทำให้ประชาชนให้ความสนใจเดินทางมาเรียนกันเป็นจำนวนมาก มีผู้คนจากท้องที่อื่นเดินทางเข้ามาเรียนอีกเป็นจำนวนมาก
จึงมีบุคคลอิจฉาและให้ร้ายท่านว่าท่านกำลังซ่องสุมผู้คน และมีการกระทำตนเป็นคอมมิวนิสต์ ทำให้ทางการสมัยนั้นประกาศจับตัวท่าน
ท่านจึงต้องหนีออกนอกประเทศ และไปอาศัยอยู่ในประเทศเกาหลี มหาวิทยาลัยในเกาหลีได้เชิญให้ท่านเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัย ต่อมาได้เดินทางไปอาศัยที่ประเทศสหรัฐอเมริการะยะหนึ่ง แล้วเดินทางกลับประเทศไทยในวัย 80 เศษ (ทราบว่าเสียชีวิตในวัย 90 เศษ)
ศ.ดร.แนมมีความเป็นห่วงว่าเด็กไทยเรา มีความรู้ด้านภาษาต่างประเทศน้อย ท่านได้ให้ข้อคิดว่าสาเหตุที่ประเทศเราไม่ประสบความสำเร็จในการสอนภาษาอังกฤษ
เนื่องจากหลักสูตรการสอนและครูผู้สอนของเราสอนแต่ไวยากรณ์ ซึ่งผิดหลักธรรมชาติ การเรียนรู้ภาษาต้องเรียนทักษะการใช้ภาษาในการสื่อสารก่อน เหมือนการที่เราพูดภาษาไทยได้ เราก็ต้องหัดพูดมาก่อน จากนั้นจึงมาเรียนการอ่านเขียน
แต่การเรียนภาษาอังกฤษของไทย ครูจะสอนอ่านเขียนหรือไวยากรณ์ก่อน โดยไม่สนใจการสอนวิธีการพูด กอรปกับคนไทยเราเป็นคนขี้อาย การเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยจึงไม่สามารถอยู่ในระดับที่จะสื่อสารกับชาวต่างประเทศได้
ท่านได้เรียบเรียงตำราการพูดภาษาอังกฤษและพจนานุกรมคำคุณศัพท์ และตำราเรียนพูดภาษาอังกฤษ ๑๐๐๐ คำ
สำหรับการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษา ท่านได้ให้ทรรศนะว่าการศึกษาด้านอาชีพเพื่อไปประกอบอาชีพ หรือการให้ผู้เรียนได้มีความรู้และทักษะจริงๆนั้น สถานศึกษาควรจัดให้มีการเรียนทีละวิชา จากวิชาพื้นฐานไปหาวิชาชีพขั้นที่สูงขึ้น
เช่นการเรียนวิชาการติดตั้งระบบไฟฟ้า ก็ควรเรียนรายวิชาการเดินสายไฟฟ้าในอาคารก่อน เมื่อเรียนจบจึงเรียนรายวิชาการปักเสาพาดสาย จากนั้นจึงเรียนรายวิชาการติดตั้งระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งจะทำให้ผู้เรียนได้รับความรู้ และมีโอกาสได้ฝึกทักษะอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง
นอกจากนั้นผู้เรียน ยังสามารถนำความรู้และทักษะที่เรียนจบ ในแต่ละช่วง ไปประกอบอาชีพได้อีก ลักษณะการเรียนเช่นนี้คือการเรียนในหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น หรือที่เรียกว่า "Block release" หรือ "ฺBlock course" ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้เรียนในหลักสูตรดังกล่าว จะมีความรู้และทักษะพร้อมที่จะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ทันที
แต่ในการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษาในระบบ โดยเฉพาะหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สถานศึกษาอาชีวศึกษาแทบทั้งหมดจะจัดตารางเรียนในลักษณะการเรียนวิชาสามัญ
โดยจะมีการเรียนการสอนในรายวิชานั้นๆ สัปดาห์ละ 3-6 ชั่วโมง หากผู้เรียนจะเรียนวิชานี้อีกก็ต้องรอเรียนสัปดาห์ต่อไป จึงทำให้ความรู้และทักษะของผู้เรียนไม่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับนี้ น่าจะมีความรู้และทักษะไม่เพียงพอที่จะออกไปประกอบอาชีพได้
ศ.ดร.แนม ร่วมก่อตั้งสมาคมการศึกษาแห่งประเทศไทยกับ ศ.ดร.สาโรช บัวศรี , ศ.ดร.ก่อ สวัสดิพาณิชย์ และ ศ.เชื้อ สาริมาน เมื่อ พ.ศ.2498
ท่านเคยเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนส่งเสริมอาชีพก่อสร้างสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมาได้ยกวิทยะฐานะ เป็นวิทยาลัยการก่อสร้าง ปัจจุบันคือคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่คนแรกของโรงเรียนสารพัดช่างธนบุรี กรมอาชีวศึกษา และหัวหน้ากองส่งเสริมอาชีพเคลื่อนที่ กรมอาชีวศึกษา
ศ.ดร.แนม บุญสิทธิ์ ได้เคยกล่าวไว้ว่า "คนไทยเราควรแข่งกันทำความดีแข่งกันพัฒนามิใช่ว่าจะใช้ความอิจฉาของตนมาทำร้ายและกดคนอื่นให้ต่ำกว่าตน ซึ่งผลก็คือประเทศเราก็จะมีแต่ตกต่ำ ไม่สามารถเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับอารยะประเทศได้"
ขอขอบคุณอาจารย์พานิชพล มงคลเจริญที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
