6 มิ.ย. เวลา 14:54 • ความคิดเห็น

เมื่อแผลสดถูกขยี้อีกครั้ง

ทุกคนน่าจะเคยได้ยินคำว่า “ศัตรูเก่า”, “อริเก่า”, “แฟนเก่า”, “เพื่อนร่วมงานเก่า”, “เจ้านายเก่า” กันมาบ่อยๆ
ส่วนใหญ่อะไรก็ตามที่ลงท้ายด้วยคำว่า เก่า มักจะมีนัยยะเชิงลบ บางครั้งสิ่งเหล่านี้มาพร้อมกับความเจ็บปวด หรือแม้กระทั่งบาดแผลทั้งทางกายและใจ
เมื่อคนเหล่านี้ย้อนกลับเข้ามาในชีวิตเราอีกครั้ง มันก็มักจะเหมือนกับ “แผลเก่า” ที่ถูกเปิดออกอีกครั้ง
• แฟนเก่าที่บังเอิญเป็นเจ้าบ่าวของญาติ
• อริเก่าที่กลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานในที่ใหม่
• เจ้านายเก่า หรือเพื่อนร่วมงานเก่า ที่กลายมาเป็นคู่เจรจาทางธุรกิจ
แม้สถานะจะเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกในใจก็ไม่ง่ายเลยที่จะจัดการ โดยเฉพาะถ้าคนเหล่านี้เคยเป็นคนที่สร้างบาดแผลลึกให้เรา
แล้วเราจะรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไร?
1. ตอบสนองอย่างมีวุฒิภาวะ
คนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ — หรืออาจไม่เปลี่ยนเลยก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือ เราต้องแยกให้ออกว่า “หน้าที่” ปัจจุบันของเราคืออะไร และควรโฟกัสกับ “สิ่งที่ต้องทำ” มากกว่าความรู้สึกในอดีต
การมีวุฒิภาวะ ไม่ได้แปลว่า “ไม่รู้สึก”
แต่คือการรู้สึก แล้ว “เลือกตอบสนอง” อย่างเหมาะสม — นั่นแหละคือสิ่งที่ผู้ใหญ่พึงกระทำ
2. ตั้งขอบเขตใหม่ในความสัมพันธ์
ถ้าจำเป็นต้องร่วมงานกับคนที่เคยทำร้ายใจเรา การมี “ระยะห่าง” เป็นสิ่งสำคัญ
คุณไม่จำเป็นต้องกลับไปสนิทใจ หรือเชื่อใจอีกครั้งในทันที
สิ่งที่ทำได้คือ รักษามารยาท และ ปกป้องพื้นที่ปลอดภัยของตัวเอง
ไม่จำเป็นต้องลืมอดีต — แต่คุณสามารถเลือกที่จะ “ไม่ยอมให้มันควบคุมปัจจุบัน” ได้
3. ให้เกียรติเขา เท่าที่เขาให้เกียรติเรา
บางครั้ง การให้เกียรติในแบบที่เหมาะสม ก็คือการรักษาความสัมพันธ์ให้อยู่ในระดับ “มืออาชีพ”
ไม่ใช่เพราะคุณยอมรับสิ่งที่เขาเคยทำ
แต่เพราะคุณรู้ว่าตัวเอง “ควรยืนอยู่ในระดับไหน” ต่างหาก
4. ถ้าไม่ไหว — อย่าฝืน
ถ้าลองทุกทางแล้ว แต่ใจก็ยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้า ทางเดียวที่ควรทำคือ
กลับไปดูแลและรักษาแผลใจของตัวเองให้หายก่อน
บางครั้งการถอยออกจากวงโคจรของผู้คนเหล่านี้ อาจไม่ใช่การหนีปัญหา
แต่มันคือการ “แก้ปัญหาที่ต้นตอ” ต่างหาก
เราไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เข้มแข็ง หรือพิสูจน์ว่า
“ฉันดีขึ้นกว่าที่พวกแกเคยดูถูกไว้” กับคนเหล่านี้อีกแล้ว
เพราะถ้าเรายังรู้สึกต้องพิสูจน์ขนาดนั้น
แปลว่าเรายัง แคร์ และ ให้ความสำคัญ กับคำพูดของพวกเขาอยู่
แต่ถ้าเรา เลือกทำเพื่อตัวเราเอง
กล้าที่จะ ยอมรับและเผชิญหน้ากับความจริงในอดีต รวมถึง
ประเมินปัจจุบันอย่างมีสติ
แล้วตัดสินใจว่าจะดำเนินชีวิตอย่างไรต่อไป
นั่นแหละ... คือ “ความกล้าหาญ” อย่างแท้จริงในการเลือกทำ
แต่...เอาจริงๆนะ....
ประโยคและวิธีการที่บอก... มันเหมือนแค่บทกรอบตามทฤษฎี
หลักการที่เขาเอามาพูดกันในโลกของคำแนะนำแบบสวยหรู
แต่ชีวิตจริงบางครั้งความซวยของเราก็นำพาความตลกร้ายเข้ามาในเวลาที่เราไม่พร้อม เข้มแข้งไม่พอและยังเปราะบางอยู่
หลายคนกำลังเข้าข่ายสถานการณ์นี้ และในมุมมองของฉันถ้าใครติดอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ขอสารภาพตามตรงว่ามัน
โค-ตะ-ระ เวรเลย
เปรียบเหมือนเจอสถานการณ์เหมือนคนโดนขี้นกตกใส่ในวันที่สัมภาษณ์งาน
แบบงงๆ จะต้องสร้างตัวตนให้กล้าหาญ เข้มแข็งกี่โมงก่อนถึงจะผ่านพ้นสถานการณ์ไปได้
หรือถ้าเราเลือกที่จะหนีหายไปจากหน้าที่ หรือสถานการณ์ตอนนี้ มันจะเป็นไปได้ไหม
มันอาจจะดูเหมือนคนขี้แพ้ที่ไม่กล้าเผชิญหน้าเลย
แต่ทุกคนไม่มีใครอยากถูกขยี้แผลอีกครั้งไหม ใครอยากเอาน้ำเกลือมาราดแผลเล่นกัน
นั่นแหละ — ชีวิตจริงแม่งไม่ได้ทำง่ายเหมือนหลักการที่ฉันเขียนเลยสักนิดค่ะ
For the sake of God...
โฆษณา