Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กรุงเทพธุรกิจ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
9 มิ.ย. เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ถอดบทเรียน ‘กาสิโน’ โมเดลสิงคโปร์สู่สถานบันเทิงครบวงจรไทย
ประสบการณ์ของสิงคโปร์ในการพัฒนารีสอร์ตครบวงจร (Integrated Resorts: IRs) โมเดลธุรกิจที่ที่มี “กาสิโน” เป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะ Marina Bay Sands (MBS) และ Resorts World Sentosa (RWS) ถือเป็นกรณีศึกษาที่เป็นบทเรียนอันมีค่าสำหรับประเทศไทยที่อยู่ระหว่างการเดินหน้าโครงการสถานบันเทิงครบวงจร หรือ Entertainment Complex
“กรุงเทพธุรกิจ” สรุปประเด็นสำคัญจากผู้เล่นระดับโลกในอุตสาหกรรมเกมมิ่งและ IRs ที่ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ตรงในการพัฒนาในสิงคโปร์ ภายในงานเสวนาโต๊ะกลม “Thai Entertainment Complex Roundtable” จัดโดย Inside Asian Gaming เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2568 ณ ห้องแกรนด์ บอลลูม โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพ
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน สิงคโปร์เคยเผชิญกับความแตกแยกทางความคิดเห็นของประชาชนอย่างรุนแรงต่อประเด็นการมีกาสิโนในประเทศ แม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีผู้ก่อตั้งอย่าง ลี กวน ยู เคยกล่าวอย่างหนักแน่นว่าจะไม่ยอมให้มีคาสิโน "ข้ามศพผมไปก่อน" ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลอย่างมากในประเด็นทางสังคมและศีลธรรม
อย่างไรก็ตาม แรงผลักดันหลักที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคือ ความจำเป็นทางเศรษฐกิจ เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวสิงคโปร์ในขณะนั้นอยู่ในภาวะซบเซา ในที่สุด นายกรัฐมนตรี "ลี เซียน ลุง" ได้ตัดสินใจเดินหน้าโครงการนี้
โดยปฏิเสธข้อเสนอให้มีการทำประชามติ ด้วยเหตุผลว่าประชาชนทั่วไปอาจไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเพียงพอในการตัดสินใจเชิงนโยบายที่ซับซ้อน และอาจนำไปสู่ความแตกแยกทางสังคมได้
1
📌สูตรสำเร็จของสิงคโปร์
สิงคโปร์ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสถานบันเทิงครบวงจร (Integrated Resorts - IRs) อย่าง Marina Bay Sands และ Resorts World Sentosa ด้วยปัจจัยสำคัญหลายประการ ดังนี้
เรื่องแรก คือ ความร่วมมือและการสื่อสารที่โปร่งใส รัฐบาลทำงานร่วมกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มต้น มีการให้ความรู้แก่สาธารณชนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์และวิธีการจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการพนัน
นอกจากนั้น กระบวนการคัดเลือกที่โปร่งใส สิงคโปร์ใช้กระบวนการ "Request for Proposal (RFP)" ที่เน้นการแข่งขันด้านแนวคิด (Concept) แทนที่จะเป็นราคาที่ดิน เพื่อให้ได้โครงการที่มีคุณภาพสูงสุดและตอบโจทย์ประเทศมากที่สุด
ที่สำคัญ คือการพัฒนาบุคลากรในประเทศ โดยมีการวางแผนสร้างช่องทางการฝึกอบรมชาวสิงคโปร์อย่างเป็นระบบ เพื่อให้มีสัดส่วนบุคลากรในประเทศประมาณ 65-70% ของตำแหน่งงานทั้งหมดที่เกิดขึ้น
รวมทั้ง การปรับปรุงกฎระเบียบอย่างต่อเนื่อง มีการประเมินและปรับปรุงกฎระเบียบอยู่เสมอ เช่น การปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมการเข้าคาสิโนของพลเมืองจาก 100 ดอลลาร์สิงคโปร์ เป็น 150 ดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อพบว่ามีผู้เข้าใช้บริการมากเกินไป
1
และท้ายที่สุด คือมาตรการป้องกันทางสังคม ซึ่งจะหัวใจที่สร้างความเชื่อมั่น
ประเด็นที่น่าสนใจที่สุดคือ งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าการมีคาสิโนที่ถูกกฎหมายอาจ ไม่เพิ่มอัตราการพนันที่มีปัญหา และในบางกรณีอาจลดลงด้วยซ้ำ เนื่องจากอุตสาหกรรมที่ถูกกฎหมายมีการกำกับดูแลและพัฒนามาตรการป้องกันทางสังคมที่แข็งแกร่งที่สุด
โดยสิงคโปร์ใช้กลไกหลายชั้น ได้แก่
การจัดตั้งคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยปัญหาการพนัน (NCPG) เป็นหน่วยงานกลางที่ทำงานร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อกำหนดมาตรการป้องกัน
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า (Entry Levy) เก็บจากชาวสิงคโปร์เพื่อเป็นอุปสรรคทางการเงิน ป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่พร้อมเข้าเล่น โดยเงินส่วนนี้จะถูกนำไปใช้ในโครงการรณรงค์การพนันอย่างมีความรับผิดชอบ
กลไกการห้ามเข้า (Exclusion Schemes) มีทั้งการห้ามเข้าด้วยตนเอง, การห้ามโดยครอบครัว, การห้ามโดยบุคคลที่สาม หรือการห้ามตามกฎหมาย เช่น บุคคลล้มละลาย
การเดินหน้าโครงการเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในประเทศไทยกำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอย่างมากในสังคม ซึ่งปัจจุบันคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เสนอยกร่างกฎหมายเข้าสู่กระบวรการรัฐสภาแล้ว และคาดว่าจะเริ่มมีการพิจารณาวาระแรกภายในเดือนก.ค.นี้
ดังนั้น การถอดบทเรียนจากสิงคโปร์ จะช่วยให้สามารถตัดสินใจและวางกรอบการดำเนินงานได้อย่างรอบคอบ เพื่อให้โครงการสถานบันเทิงครบวงจรสามารถสร้างประโยชน์สูงสุดต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับการป้องกันผลกระทบทางสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5 บันทึก
3
3
1
5
3
3
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย