🧠 ของแพงขายยาก แต่ของไม่มี “คุณค่า” ขายไม่ได้เลย
ทำไมบางร้านขายของแพงยังขายได้?
แล้วทำไมของถูกบางอย่าง ลูกค้าไม่สนใจเลย?
ลองคิดแบบนี้ครับ…
ของถูก ขายง่าย
ของแพง ขายยาก
แต่ของที่ ไม่มีคุณค่าในสายตาลูกค้า ต่อให้ให้ฟรี… เขาก็ไม่หยิบ
และ “คุณค่า” ที่ลูกค้ารับรู้ บางครั้งมันไม่ใช่ต้นทุนหรือวัตถุดิบ
แต่มันคือ “การเล่าเรื่องผ่านประสบการณ์” ที่เขาสัมผัสได้ตั้งแต่
🚪 เดินเข้าร้าน
🪑 นั่งที่โต๊ะ
👀 มองรอบตัว
📄 เห็นเมนู เห็นป้าย
✨ สิ่งเล็ก ๆ ที่ทำให้ “ของธรรมดา” กลายเป็นของมีค่า
อาหารธรรมดา แต่จัดจานสวย → ดูแพง
เมนูเหมือนกัน แต่มีป้ายอธิบายดี → ดูตั้งใจ
ร้านเล็ก แต่มี ป้ายตั้งโต๊ะ เล่าเรื่องอาหาร / โปรดี ๆ → ดูมีแบรนด์
สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินมาก แต่ต้อง “คิดและตั้งใจใส่เข้าไป”
📌 ตัวอย่างง่าย ๆ ที่เห็นได้ทุกวัน:
ร้าน A กับร้าน B ขายข้าวหมูกรอบจานละ 60 บาท
แต่ร้าน B มีป้ายบนโต๊ะบอกว่า
“หมูกรอบอบ 8 ชั่วโมง ไม่ใช่ของทอด”
→ ลูกค้ารู้สึกว่า จานนี้ มีคุณค่า ทันที
ร้านกาแฟเล็ก ๆ วางป้ายบอกที่มาของเมล็ด
“กาแฟเชียงราย คั่วกลาง กลิ่นดอกไม้”
→ ลูกค้าถ่ายรูป แชร์ รู้สึกดี และกลับมาซื้ออีก
สิ่งที่ใช้? ป้ายตั้งโต๊ะ ราคาไม่กี่สิบบาท แต่สร้างภาพลักษณ์ให้ร้านแบบไม่ต้องพูด
🧠 ลูกค้าไม่ได้จ่าย “แค่สินค้า”
เขาจ่ายให้กับ “ประสบการณ์” ที่เขารู้สึกว่า คุ้ม
การทำให้สินค้าดูมี “คุณค่า” = ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า “จ่ายแล้วไม่เสียดาย”
และนั่นคือเหตุผลว่า
ของแพง “ขายได้” ถ้าดูมีคุณค่า
แต่ของไม่มีคุณค่า… “ขายไม่ได้” แม้จะถูกแค่ไหนก็ตาม
🔧 อยากเริ่มใส่ “คุณค่า” ให้โต๊ะในร้าน?
เริ่มจากของเล็ก ๆ อย่าง
ป้ายตั้งโต๊ะที่สื่อสารสิ่งที่ลูกค้าอยากรู้ เช่น
เมนูแนะนำ
ความตั้งใจเบื้องหลัง
โปรโมชั่นที่มีตอนนี้
QR Code สำหรับสั่งอาหารหรือรีวิว
ดูตัวอย่างแบบป้าย และราคาสั่งผลิตได้ที่
✅ สรุป
อย่าเอาแต่ตั้งราคาถูกเพื่อดึงลูกค้า
เพราะถ้าสินค้าคุณไม่มี “คุณค่าในสายตาเขา”
มันก็ถูกมองข้ามไป… เหมือนอีกพันร้านที่ไม่มีอะไรให้จดจำเลย
“ขายของ = ขายคุณค่า”
เริ่มเล่าเรื่องผ่านสิ่งเล็ก ๆ บนโต๊ะของคุณ แล้วคุณจะเห็นความเปลี่ยนแปลง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
