9 มิ.ย. เวลา 02:01 • ประวัติศาสตร์

ซีรีส์: จากเส้นทางแสวงบุญ พรมแดนวัฒนธรรม สู่เขตแดนแห่งข้อพิพาท

ตอนที่ 1: ตำนานสามปราสาทตาเมือน – ควายหิน เทวี และพญานาคในพนมดงรัก
🛕 หากคุณเดินทางไปสุดชายแดนไทยที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แล้วมองเลยเส้นป่าไปทางทิศใต้ คุณจะพบกลุ่มปราสาทสามองค์เก่าแก่ ซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ ท่ามกลางผืนป่าบนแนวสันเขาพนมดงรัก ใกล้ชายแดนกัมพูชา ปราสาททั้งสามนี้ชื่อว่า
ตาเมือนควาย – ตาเมือนโต๊ด – ตาเมือนธม
อย่าเพิ่งรีบมองว่าเป็นเพียงซากอิฐซากหินยุคขอม เพราะสิ่งที่ฝังอยู่ในดินและเสียงกระซิบจากกำแพงหินเหล่านี้ บอกเล่าเรื่องราวที่ใหญ่กว่าแค่ศาสนสถาน
…พวกมันเป็นประตูสู่โลกอีกฟากหนึ่ง — โลกของความเชื่อ อำนาจ และข้อพิพาทที่ยังไม่จบ
🐃 ตาเมือนควาย: ควายหินเฝ้าขุมทรัพย์
ตำนานพื้นถิ่นเล่าว่า “ตาเมือน” เป็นชื่อชายชราผู้เลี้ยงควายในหุบเขาแห่งนี้ วันหนึ่งเขาพบโพรงหินใต้ปราสาทเล็ก ๆ และควายของเขาหายเข้าไปในนั้น พอเขาตามเข้าไป กลับพบ “ควายหิน” ตัวหนึ่งเฝ้าขุมทรัพย์อยู่ และกล่าวว่า:
“ใครมีศรัทธา ข้าจะปกป้องเขา ใครคิดลักทรัพย์ ข้าจะไม่ให้ออกไปอีก”
ตั้งแต่นั้นมา ปราสาทแห่งนี้ถูกเรียกว่า “ตาเมือนควาย” เป็นจุดแรกของเส้นทางแสวงบุญของผู้มีศรัทธา แต่สำหรับคนที่ไม่มีใจบริสุทธิ์ ตำนานว่ามีคนหายเข้าไปในปราสาท…แล้วไม่เคยได้กลับออกมาอีกเลย
💧 ตาเมือนโต๊ด: สรงน้ำด้วยศรัทธา
ถัดมาเพียง 200 เมตร คือปราสาท “ตาเมือนโต๊ด” เล็กแต่ลึกลับ โดดเด่นด้วยศิวะลึงค์กลางแท่นฐาน ซึ่งมีร่องน้ำไหลผ่านลงมายังบ่อข้างหน้า ตำนานกล่าวว่า ที่นี่คือ สถานที่สรงน้ำของ “เทวีจันทรา” พระมเหสีแห่งกษัตริย์ขอม ที่ขึ้นมายังแดนเหนือเพื่อบำเพ็ญตบะ
หญิงใดได้สรงน้ำที่นี่ด้วยศรัทธา จะสมหวังในความรัก หรือได้บุตรตามใจปรารถนา
ไม่ต้องแปลกใจหากวันนี้จะเห็นผู้คนยังเดินทางมาจากแดนไกล มาวางดอกไม้ อธิษฐานหน้าปราสาทเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยตำนานแห่งความอ่อนโยนนี้
🐍 ตาเมือนธม: ประตูแห่งพญานาค
“ธม” ในภาษาเขมรแปลว่า “ใหญ่” และตาเมือนธมก็คือปราสาทหลักที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม สร้างด้วยหินศิลาแลง มีซุ้มประตูสลักลวดลายคล้ายฟันพญานาค ที่เล่ากันว่าเป็น จุดผ่านแดนศักดิ์สิทธิ์ของพญานาคผู้ปกป้องเส้นทางแสวงบุญ
บางตำนานว่า มีอุโมงค์ใต้ดินลับเชื่อมจากตาเมือนธม ไปยังนครวัด… และบางคืน จะได้ยินเสียงคล้ายคนเดินอยู่ในอุโมงค์ แม้จะไม่มีใครอยู่เลยก็ตาม
🛤 เส้นทางศักดิ์สิทธิ์…ก่อนจะมีคำว่า “ชายแดน”
ปราสาททั้งสามไม่ได้ถูกสร้างลอย ๆ หากแต่เรียงอยู่บนแนวตะวันตก–ตะวันออก ตรงกับ “เส้นทางแสวงบุญโบราณจากนครวัดสู่ภาคอีสาน” ที่ใช้ข้ามเขาพนมดงรักมาตั้งแต่พันปีก่อน
พ่อค้า นักบวช และชาวบ้านจากกัมพูชา จะเดินเท้าแวะสรงน้ำ สวดมนต์ ขอพร และรับพลังจากเทวสถานระหว่างทาง ก่อนมุ่งหน้าสู่ เขาพระวิหาร – พนมรุ้ง – เมืองต่ำ – สระกำแพงใหญ่
ไม่ใช่แค่เส้นทางศักดิ์สิทธิ์ แต่มันคือ “พรมแดนวัฒนธรรมร่วม” ของชาวเขมรโบราณ ที่ไม่มีเส้นแบ่งประเทศ ไม่มีด่าน ไม่มีธงชาติ
❝ แต่อะไรทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป? ❞
หากมองจากมุมสูง จะเห็นว่าทั้งสามปราสาทตั้งอยู่ “เลยสันเขาพนมดงรักมาทางไทย” แต่ฝรั่งเศสในยุคล่าอาณานิคมกลับวาดแผนที่ให้บริเวณนี้เป็นของ “กัมพูชา”
ทำให้เส้นทางแสวงบุญ…ที่เคยเป็นของทุกคน กลายเป็น “เขตแดนแห่งข้อพิพาท”
เรื่องนั้นเราจะเล่าต่อในตอนหน้า
📍 ตอนต่อไป: เส้นทางแสวงบุญจากตาเมือนสู่นครวัด – เมื่อป่ากลายเป็นทางจาริก และเทวดากลายเป็นคนเฝ้าชายแดน
หากคุณอยากสัมผัส “ชายแดนที่เคยไม่มีเส้น”
ลองหลับตา…ฟังเสียงลมพัดผ่านช่องประตูปราสาท
บางที…คุณอาจได้ยินเสียงกีบควาย เสียงพญานาคเลื้อย หรือเสียงสวดภาวนาของเทวีที่ยังล่องลอยอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ก็ได้
#beerblogth
โฆษณา