9 มิ.ย. เวลา 09:30 • ข่าว

ญี่ปุ่นจ่อยกเลิกช้อปปลอดภาษีนักท่องเที่ยว หวังเพิ่มรายได้-ลดโกงภาษี

ญี่ปุ่นกำลังพิจารณาเตรียมยกเลิกระบบ "ช้อปปลอดภาษี" หรือ Duty-Free สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยอ้างว่าระบบดังกล่าวถูกนำไปใช้ในทางมิชอบ พร้อมกันนี้รัฐบาลยังเตรียมปรับขึ้นภาษีขาออก เพื่อเพิ่มรายได้รัฐและสนับสนุนการบริหารจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
ภายใต้ข้อเสนอใหม่นี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 10% ในร้านค้าเหมือนคนญี่ปุ่นทั่วไป จากนั้นจึงสามารถขอคืนเงินภาษีได้ที่สนามบินหรือท่าเรือเมื่อเดินทางออกนอกประเทศ โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2026 เป็นต้นไป
รัฐบาลชี้ว่าการเปลี่ยนระบบจะช่วยป้องกันการโกงภาษีเช่น การนำสินค้าปลอดภาษีกลับไปจำหน่ายต่อ หรือการซื้อสินค้าในปริมาณมากโดยไม่ได้นำออกนอกประเทศจริง ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรายได้รัฐหลายแสนล้านเยนต่อปี
มีการเปิดเผยว่าในปี 2024 นักท่องเที่ยวใช้จ่ายในญี่ปุ่นรวมกว่า 8.1 ล้านล้านเยน ในจำนวนนี้ ราว 1 ใน 3 เป็นการช้อปปิ้งปลอดภาษี ทำให้รัฐสูญเสียรายได้ภาษีราว 200,000 – 240,000 ล้านเยน หรือราว 46,000 - 55,200 ล้านบาท
ขณะเดียวกันญี่ปุ่นยังพิจารณาปรับขึ้น ภาษีขาออกจากประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 เยนต่อคน มาเป็นระดับ 3,000 – 5,000 เยน โดยเน้นเก็บจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ รายได้จากภาษีส่วนนี้ในปีงบประมาณ 2024 อยู่ที่ 48,100 ล้านเยน สูงกว่าระดับก่อนโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญ
1
รัฐบาลคาดว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นจะนำไปใช้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยว และลดผลกระทบจากปัญหานักท่องเที่ยวล้นที่กำลังทวีความรุนแรงในเมืองท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น เกียวโตและโตเกียว
ทั้งนี้ แม้ว่ามาตรการใหม่นี้อาจสร้างความไม่สะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวบางกลุ่ม แต่นักวิเคราะห์มองว่าเป็นการปรับสมดุลระหว่างการส่งเสริมการท่องเที่ยวกับความยั่งยืนทางการคลัง.
ที่มา : Nikkei Asia
โฆษณา