9 มิ.ย. เวลา 09:51 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 258 สูญเสียที่สันมังกรดำ

ซ่งเจียงนำทัพใหญ่ออกจากหางโจวมุ่งมายังอำเภอฟู่หยาง 富阳县 ที่ซึ่งราชครูหยูไหลทรงกลดเติ้งหยวนเจว๋ จอมพลสือเป่า หวางจี้ เฉาจง เวินเค่อย่างนำทหารเดนตายจากหางโจวหนีมาตั้งมั่นอยู่ และขอกำลังหนุนไปยังมู่โจว เฉิงเซี่ยงขวาจู่สื้อหย่วนจึงส่งกองทัพพลหนึ่งหมื่นมาช่วย นำทัพโดยแม่ทัพไป๋ชิน 白钦 รองแม่ทัพจิ่งเต๋อ 景德 ราชครูทรงกลดจึงออกมาสมทบนำกำลังไปตั้งยึดชัยภูมิบนหัวเขา
ทัพใหญ่ซ่งเจียงยกมาถึงอ่าวเจ็ดลี้ 七里湾 รอทัพเรือมาถึงให้ยกพลขึ้นบกมาสมทบ แล้วจึงมุ่งหน้าต่อ ทางด้านสือเป่าแลเห็นจึงขึ้นม้า ติดค้อนดาวตก ถือดาบสลาตันนำทหารลงมาจากหัวเขาฟู่หยางมารับศึก
กวนเสิ้งจะขี่ม้าออกรบ หลวี่ฟางตะโกนบอกว่า
“พี่ท่านรอก่อน รอชมหลวี่ฟางรบเจ้าหมอนี่”
หลวี่ฟางควบม้าถือทวนจี่ปรี่เข้าหาสือเป่า สือเป่ารับด้วยดาบสลาตัน รบกันถึงห้าสิบเพลง หลวี่ฟางกำลังตก กวอเสิ้งสังเกตเห็นจึงถือทวนจี่โผนม้าเข้าร่วมรบ ดาบเดียวของสือเป่าสู้กับสองทวนจี่ หาได้เพลี่ยงพล้ำ พลันมีเสียงม้าล่อจากฝ่ายใต้ให้ถอย ราชครูทรงกลดเห็นเรือรบในแม่น้ำเทียบฝั่งกำลังยกพลขึ้นบก เกรงทัพกระหนาบจึงตีม้าล่อสั่งถอย
หลวี่ฟาง กวอเสิ้งไม่ยอมให้สือเป่าถอย รบติดพันไว้ สู้กันไปอีกห้าเพลง จูถงถือทวนควบม้าเข้ามารุมรบด้วย สือเป่าต้านสามคนไม่ไหว ปัดอาวุธได้เร่งชักม้าหนี
ซ่งเจียงเห็นดังนั้น จึงยกแส้ม้าชี้สั่งให้ทัพบุกตามตีทัพฝ่ายใต้ขับพ้นเขาฟู่หยาง สือเป่าตั้งรับไม่ไหว ถอยทัพเข้าเขตอำเภอถงหลู 桐庐县 ทัพซ่งเจียงไล่ตามมาทั้งคืนจนข้ามสันเขาไป๋เฟิง 白蜂岭 จึงตั้งค่ายลง
คืนนั้น ซ่งเจียงสั่งการให้เซี่ยเจิน เซี่ยเป่า เอี้ยนซุ่น เสือเตี้ยหวาง อีจ้างชิงนำพลหนึ่งพันไปทางตะวันออก
ให้หลี่ขุย เซี่ยงชง หลีกุ่น ฝานยุ่ย หม่าหลินนำพลหนึ่งพันไปทางตะวันตก ไปตั้งค่ายขนาบอำเภอถงหลู
ให้หลี่จวิ้น สามหย่วน สองถง เมิ่งคังนำทัพเรือแล่นตามลำน้ำมาสมทบ
พวกเซี่ยเจินยกทัพมาถึงอำเภอถงหลูเป็นเวลายามสาม ราชครูทรงกลดกำลังหารือการศึกอยู่กับสือเป่า พลันได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้น จึงรีบขึ้นม้าออกมาดู เห็นแสงคบเพลิงมากันสามทาง จึงนำทหารหนีไม่คิดสู้ เวินเค่อย่างขึ้นม้าช้ากว่าใคร ขณะหนีมาตามทางน้อย ปะเข้ากับเสือเตี้ยหวาง อีจ้างชิง เข้ามารุมจับเป็นเชลยได้
หลี่ขุย เซี่ยงชง หลีกุ่น ฝานยุ่ย หม่าหลินไม่สนใจอะไร นอกจากเที่ยววางเพลิง ซ่งเจียงถอนทัพตามมาถึง จึงเข้ามาตั้งค่ายพักในอำเภอถงหลู เสือเตี้ยหวาง อีจ้างชิงนำตัวเวินเค่อย่างมาบันทึกผลงาน ซ่งเจียงให้ส่งตัวต่อไปให้จางเจาเถ่าที่หางโจว ตัดหัวเสียบประจาน
วันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงให้ทัพบกทัพเรือมุ่งหน้าต่อมายังสันมังกรดำ 乌龙岭 (อูหลงหลิ่ง) หากข้ามเขานี้ไปได้ ก็คือมู่โจว ราชครูทรงกลดนำทหารถอยมาตั้งรับที่ด่าน
 
ด่านสันมังกรดำนี้ตั้งติดแม่น้ำ ผาชันน้ำเชี่ยว มีเรือรบจอดเรียงราย ซ่งเจียงให้ทหารตั้งค่ายใกล้เชิงเขา แล้วสั่งการให้หลี่ขุย เซี่ยงชง หลีกุ่นนำทหารโล่ห้าร้อยออกลาดตระเวน พอมาถึงตีนเขา ด้านบนก็ทุ่มหินทิ้งไม้ลงมาจนไม่อาจคืบหน้าไปต่อได้ จำต้องถอยกลับมารายงานซ่งเจียง
ซ่งเจียงให้หยวนเสี่ยวเอ้อ เมิ่งคัง ถงเวย ถงเหมิ่งนำเรือครึ่งหนึ่งขึ้นมาเกยหาด แล้วให้จัดทหารเรือหนึ่งพันนายลงเรือหนึ่งร้อยลำ โบกธงตีกลองร้องเพลงชาวเรือ เข้าไปใกล้สันมังกรดำ ซึ่งมีฐานทัพเรือของฟางล่าตั้งอยู่ มีเรือรบห้าร้อยลำ ทหารเรือห้าพันนาย นายทัพเรือสี่นายรวมเรียกว่า สี่มังกรเจ้อเจียง 浙江四龙 มี
มังกรกรงเล็บหยกเฉิงกุ้ย 玉爪龙成贵 เป็นผู้บัญชาการใหญ่ 都总管
มังกรเกล็ดแพรไจ๋หยวน 锦鳞龙翟源 เป็นรองผู้บัญชาการใหญ่ 副总管
มังกรคะนองคลื่นเฉียวเจิ้ง 冲波龙乔正 เป็นรองผู้บัญชาการซ้าย 左副管
มังกรละเล่นมุกเซี่ยฝู 戏珠龙谢福 เป็นรองผู้บัญชาการขวา 右副管
ทั้งสี่เดิมเป็นนายท้ายเรือขึ้นล่องแม่น้ำเฉียนถัง มาสวามิภักดิ์ฟางล่าได้เป็นขุนนางอันดับสาม
หยวนเสี่ยวเอ้อพาขบวนเรือมาตามลำน้ำ แล้วแจวเข้าเทียบฝั่ง สี่ผู้บัญชาการค่ายฝ่ายใต้ ได้สั่งให้ตระเตรียมแพไฟห้าสิบแพ แพทำจากไม้สนปูด้วยฟางโรยกำมะถัน มัดเข้ากันด้วยตอก จอดเรียงไว้บนหาด
ขณะที่พวกหยวนเสี่ยวเอ้อกำลังแจวเรือเข้าฝั่งนั้น สี่ผู้บัญชาการจับตาดูอยู่ตลอด ต่างถือธงแดงคนละคัน ขึ้นเรือเร็วคนละลำล่องตามน้ำมา หยวนเสี่ยวเอ้อแลเห็น สั่งให้ทหารยิงธนูใส่ เรือทั้งสี่กลับลำแล่นกลับ หยวนเสี่ยวเอ้อให้แล่นเรือเข้าหาฝั่งไล่ตาม เรือทั้งสี่เกยหาดแล้วสี่ผู้บัญชาการขึ้นฝั่งพาทหารวิ่งหนีหายไป หยวนเสี่ยวเอ้อเห็นค่ายบนหาดกว้างขวาง ยังไม่กล้าไล่ตามขึ้นไป
ขณะลังเลอยู่นั้น มีธงโบกให้สัญญานบนสันมังกรดำ พร้อมเสียงกลองและม้าล่อดังอึกทึก แพไฟถูกจุดขึ้นพร้อมกันแล้วปล่อยล่องลงมา หลังขบวนแพตามมาด้วยเรือใหญ่ คนบนเรือถือทวนและตะขอยาว
ถงเวย ถงเหมิ่งเห็นท่าไม่ดี รีบนำเรือเทียบหาด ทิ้งเรือ วิ่งขึ้นเขาหนีกลับค่าย หยวนเสี่ยเอ้อ เมิ่งคังยังอยู่บนเรือในลำน้ำ แพไฟลอยมาปะทะ หยวนเสี่ยวเอ้อรีบหนีลงน้ำ เรือตามแพแล่นมาถึง ใช้ตะขอยาวกดตัวไว้ หยวนเสี่ยวเอ้อกลัวถูกจับไปหยามให้ได้อาย ชักมีดจากข้างเอวแล้วเชือดคอตาย เมิ่งคังเห็นท่าไม่ดีจะดำน้ำหนี กำมะถันบนแพจุดระเบิดขึ้น สะเก็ดระเบิดพุ่งกระแทกหมวกศึกทะลุใส่ศีรษะแหลกละเอียด
สี่ผู้บัญชาการขึ้นเรือล่องลงมาไล่สังหาร หลี่จวิ้น หยวนเสียวอู่ หยวนเสี่ยวชี นำกระบวนเรือแล่นตามหลังมา เห็นเรือข้างหน้าถูกเล่นงาน รีบกลับเรือล่องตามกระแสน้ำกลับมายังชายฝั่งที่ถงหลู
บนสันมังกรดำ ราชครูทรงกลดและสือเป่าเห็นทัพเรือฝ่ายตนมีชัย จึงนำทัพลงเขามา ซ่งเจียงสั่งให้ถอยทัพกลับมาตั้งค่ายใหม่ที่ถงหลู ทัพฝ่ายใต้จึงถอยกลับขึ้นเขาไป
ซ่งเจียงรู้ว่าเสียหยวนเสี่ยวเอ้อ เมิ่งคังไปอีกสองคนก็กลัดกลุ้มยิ่งนัก กินนอนไม่เป็นสุข อู๋ย่งและเหล่าขุนพลจะปลอบอย่างไรก็ไร้ผล หยวนเสี่ยวชี หยวนเสียวอู่แต่งกายไว้ทุกข์เข้ามาพบซ่งเจียงว่า
“พี่ชายของพวกเราสละชีพเพื่อบ้านเมืองในวันนี้ คุ้มค่ากว่าตายเปล่าอยู่ในหนองน้ำเหลียงซานป๋อ ไร้ชื่อเสียงเป็นที่ปรากฏ ท่านแม่ทัพอย่าได้วิตกกังวล โปรดจงเห็นแก่ภารกิจของบ้านเมืองเป็นสำคัญ เรื่องล้างแค้นนั้น พวกเราพี่น้องจะจัดการกันเอง”
ซ่งเจียงได้ฟัง สีหน้าค่อยดีขึ้น วันรุ่งขึ้นจึงกลับมาจัดกิจการทัพได้ใหม่ จะยกทัพออกรบอีก อู๋ย่งเสนอว่า
“พี่ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อน ควรวางแผนให้ดีก่อน ค่อยข้ามเขาไป”
เซี่ยเจิน เซี่ยเป่าเสนอว่า “ผู้น้องทั้งสองเดิมเป็นพราน เรื่องปีนเขาเข้าป่านั้นเป็นเรื่องที่เคยชิน พวกเราจะปลอมเป็นนายพรานแถบนี้ ปีนเขาขึ้นไปวางเพลิง ให้พวกโจรตกใจทิ้งด่านไป”
อู๋ย่งว่า “แผนนี้ถึงจะดี แต่เขาแห่งนี้สูงชันนัก รุกถอยลำบาก หากพลาดพลั้งอาจถึงแก่ชีวิต”
เซี่ยเจิน เซี่ยเป่าว่า “นับแต่พวกเราสองพี่น้องแหกคุกเติงโจวขึ้นเขาเหลียงซานมา อาศัยบารมีของพี่ท่านได้สร้างผลงานเป็นผู้กล้า รับพระเมตตาจากราชสำนักพระราชทานเสื้อคลุมแพร วันนี้แม้ร่างจะแหลกเหลวเพื่อตอบแทนบ้านเมืองและพี่ท่านก็นับว่าคุ้มค่า”
ซ่งเจียงว่า “น้องเราอย่าได้กล่าววาจาเป็นลางเช่นนั้น ขอเพียงเร่งปฏิบัติภารกิจแล้วกลับสู่กรุง ราชสำนักคงไม่ให้พวกเราผิดหวังเป็นแน่ จงมุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อบ้านเมืองเถิด”
เซี่ยเจิน เซี่ยเป่าคลุมชุดหนังเสือ คาดดาบที่เอว ถือสามง่ามเหล็ก ทั้งสองอำลาซ่งเจียงแล้วมุ่งสันมังกรดำไปตามทางน้อยเมื่อเวลาประมาณยามหนึ่ง ระหว่างทางพบทหารซุ่มอยู่สองนายจึงสังหารเสีย มาถึงตีนสัน เสียงกลองยามในค่ายบนยอดสันย่ำบอกเวลายามสอง ทั้งสองไม่อาจขึ้นไปตามทางใหญ่ อาศัยเถาวัลย์พรรณไม้เลื้อยค่อยไต่ขึ้นทางหน้าผา
แสงจันทร์กระจ่างดุจกลางวัน ทั้งคู่ปีนขึ้นมาได้กว่าสองในสามของระยะทาง มาหมอบดูริมประตูค่าย แลเห็นแสงไฟในค่ายสว่างไสว เสียงกลองบอกเวลายามสี่
เซี่ยเจินแอบกระซิบว่า “กลางคืนสั้น อีกไม่นานฟ้าสว่าง พวกเราขึ้นไปต่อ”
ทั้งคู่กลับมาปีนผา ถึงช่วงที่ตั้งชันต้องใช้ทั้งมือและเท้า ใช้ไถ้ตาปอมัดสามง่ามไว้กลางหลัง สามง่ามไปเกี่ยวกับเถาไม้เลื้อยเกิดเสียงดัง คนในค่ายมองมาเห็นเข้า เซี่ยเจินปีนมาถึงเวิ้งเขา ได้ยินเสียงบนยอดผาตะโกนว่า “อยู่”
ตะขอยาวยื่นมากดมวยผมบนหัวไว้ เซี่ยเจินรีบชักดาบข้างเอว ตะขอข้างบนเกี่ยวขามาห้อยหัวไว้ อารามตกใจ เซี่ยเจินตวัดดาบฟันตะขอขาด เซี่ยเจินอยู่กลางอากาศร่วงลงมาจากผาสูงร้อยสิบจ้างโหม่งพื้นถึงแก่ความตาย ด้านล่างล้วนหินคม ร่างก็แหลกไม่เหลือดี
เซี่ยเป่าเห็นพี่ชายหัวทิ่มหล่นสู่พื้น จึงรีบไต่ถอยลงผา ข้างบนทิ้งหินยิงธนูและหน้าไม้ เซี่ยเป่าถูกยิงติดคาเถาไม้เลื้อยตาย แสนเสียดายสองนายพรานผู้ยิ่งยง มาสิ้นชีพปลิดปลงยังสันมังกรดำ
พอฟ้าสาง ศพเซี่ยเจิน เซี่ยเป่าถูกเก็บไปปักตากแดดลมบนสันเขา หน่วยสอดแนมรีบมารายงานแม่ทัพซ่ง ซ่งเจียงฟังว่าเสียเซี่ยเจิน เซี่ยเป่าก็ร้องไห้จนสลบไป ฟื้นขึ้นมาก็สั่งให้กวนเสิ้ง ฮวาหยงนำทหารเข้าตีด่านสันมังกรดำ ล้างแค้นให้พี่น้องทั้งสี่
อู๋ย่งท้วงว่า “พี่ท่านอย่าเพิ่งรีบร้อน ผู้ที่เสียชีวิตล้วนเป็นชะตาฟ้ากำหนด จะหักด่าน มิอาจรีบด่วนทุ่มกำลัง จำต้องหาอุบายชิงด้วยปัญญา”
ซ่งเจียงกล่าวด้วยโมโหว่า “ใครจะไปคิดว่าต้องมาเสียพี่น้องไปถึงหนึ่งในสาม ข้าจะไม่ทนเห็นพี่น้องต้องมาเน่าเปื่อยด้วยแดดลมบนยอดเขา คืนนี้จักต้องไปชิงเอาศพกลับมาบรรจุโลงฝังให้สมควร”
อู๋ย่งว่า “พวกโจรนำร่างตากแดดลม ย่อมวางอุบายไว้ พี่ท่านอย่าได้รีบร้อน”
ซ่งเจียงไม่ฟังคำทักท้วง สั่งการให้จัดทัพพลสามพัน แล้วพากวนเสิ้ง ฮวาหยง หลวี่ฟาง กวอเสิ้งนำทัพมายังสันมังกรดำในคืนนั้น ทัพมาถึงราวยามสอง ทหารรายงานว่า
“เห็นร่างเซี่ยเจิน เซี่ยเป่ามัดตากแดดลมอยู่ข้างหน้า”
ซ่งเจียงขี่ม้ามาดูให้เห็นกับตา เห็นบนต้นไม้สองต้นมีเสาไม้ไผ่มัดร่างทั้งสองผูกติดอยู่ บนยอดไม้มีผืนหนังเขียนอักษรไว้สองแถว จันทร์มีเมฆบังอ่านไม่ออก ซ่งเจียงสั่งให้จุดโคม เห็นอักษรสิบตัวบนผืนหนังเขียนว่า
“ช้า เร็ว ซ่ง เจียง ต้อง มา สั่ง การ ตรง นี้
宋江早晚也号令在此处”
ซ่งเจียงเห็นแล้วโมโห สั่งให้ทหารปีนต้นไม้ไปเก็บศพ พลันมีแสงคบเพลิงปรากฏขึ้นรอบด้าน เสียงกลองและม้าล่อดังสนั่น มีธนูยิงมาสกัดจากบนยอดเขา ในน้ำมีกองเรือแล่นมาเทียบฝั่งยกกำลังขึ้นบก สือเป่านำทหารมาสกัดเบื้องหน้า เติ้งหยวนเจว๋นำทหารสกัดทางถอยเบื้องหลัง
规模有似马陵道,光景浑如落凤坡。
รูปแบบดูมิต่างทางหม่าหลิง
รูปการณ์คุ้นเคยยิ่งเนินหงส์ร่วง
(ทางหม่าหลิง 马陵道 ซุนปิ้น 孙膑 ล่อผังเจวียน 庞涓 มาอ่านอักษรใต้ต้นไม้แล้วสังหาร สมัยรณรัฐ
เนินหงส์ร่วง 落凤坡 ผังถ่ง 庞统 (บังทอง) ถูกล่อมาสังหารยุคปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออก)
ตอนก่อนหน้า : ราชบุตรเขยจารชน
ตอนถัดไป : สังหารราชครูทรงกลด
โฆษณา