9 มิ.ย. เวลา 10:13 • นิยาย เรื่องสั้น

บทที่ 4: อัตตาและสัญญา

📌ภาพลวงตาของความจริง
เมื่อเราเกิดมา เราไม่มีชื่อ ไม่มีสัญชาติ ไม่มีศาสนา ไม่มีอาชีพ เราเป็นเพียงจิตสำนึกบริสุทธิ์ที่มาพร้อมกับร่างกาย แต่เมื่อเราเติบโตขึ้น เราเริ่มสะสมตัวตนผ่านสิ่งที่เรียกว่า "สัญญา"
เราเรียนรู้ว่าเราชื่ออะไร มาจากครอบครัวไหน ศาสนาอะไร เราเรียนรู้ว่าเราเป็นเด็กดี เด็กเก่ง เด็กซน หรือเด็กขี้อาย เราเรียนรู้ว่าเราเป็นคนไทย คนจีน คนญี่ปุ่น เราเรียนรู้ว่าเราเป็นพุทธ คริสต์ อิสลาม
เรากลายเป็นนักเรียน นักศึกษา พนักงาน ผู้จัดการ หมอ ทนาย ครู พ่อ แม่ ลูก ปู่ ย่า ตา ยาย เพื่อน คู่รัก เราสะสมบทบาทและป้ายกำกับเหล่านี้จนกลายเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า "ตัวเรา"
แต่ความจริงแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเสื้อผ้าที่เราสวมใส่
ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
📌การแข่งขันของอัตตา
เมื่อเรายึดติดกับตัวตนที่สร้างขึ้น เราเริ่มแข่งขันกันเพื่อปกป้องและขยายอัตตานั้น เราต้องการให้คนอื่นยอมรับว่าเราดี เก่ง สำคัญ มีคุณค่า
เราเปรียบเทียบความสำเร็จ ความมั่งคั่ง ความสวยงาม ความฉลาด เราสร้างกลุ่ม ขั้ว ศิษย์เก่า ศิษย์ใหม่ คนรวย คนจน คนดี คนเลว เราแบ่งแยกโลกออกเป็น "พวกเรา" และ "พวกเขา"
การแข่งขันนี้ไม่เคยจบสิ้น เพราะอัตตาไม่เคยพอใจ ไม่ว่าเราจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ก็ยังมีคนที่ประสบความสำเร็จมากกว่า ไม่ว่าเราจะมีเงินมากแค่ไหน ก็ยังมีคนที่มีเงินมากกว่า ไม่ว่าเราจะมีชื่อเสียงมากแค่ไหน ก็ยังมีคนที่มีชื่อเสียงมากกว่า
อัตตาเป็นเหมือนหลุดดำ
ที่กินทุกอย่างเข้าไป
แต่ไม่เคยอิ่ม
📌การตื่นรู้ถึงความว่างเปล่าของอัตตา
ในช่วงเวลาแห่งการฝึกสมาธิ หรือในช่วงเวลาแห่งการเผชิญหน้ากับความตาย เราอาจได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เรียกว่า "การสลายตัวของอัตตา" เราจะพบว่าสิ่งที่เราเรียกว่า "ตัวเรา" นั้นไม่มีแก่นแท้
เหมือนกับการปอกหอมหัวใหญ่ เมื่อเราปอกเปลือกชั้นแรก เราจะเจอเปลือกชั้นที่สอง เมื่อปอกเปลือกชั้นที่สอง เราจะเจอเปลือกชั้นที่สาม เราปอกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งปอกหมด แล้วเราจะพบว่าไม่มี "แก่นแท้" ของหอมหัวใหญ่อยู่เลย
เช่นเดียวกัน เมื่อเราวิเคราะห์ตัวตนของเรา เราจะพบว่าไม่มี "แก่นแท้" ของตัวตนอยู่เลย มีเพียงชั้นๆ ของสัญญา ของความทรงจำ ของความคิด ของอารมณ์ ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
การตื่นรู้ถึงความว่างเปล่าของอัตตานี้ไม่ได้ทำให้เราหายไป
แต่ทำให้เราเป็นอิสระจากการถูกกักขัง
โดย
อัตตา
📌การปลดปล่อยจากกรงแห่งตัวตน
เมื่อเราเข้าใจว่าอัตตาเป็นเพียงสิ่งประดิษฐ์ เราจะเริ่มเล่นกับบทบาทต่างๆ โดยไม่ต้องยึดติด เราสามารถเป็นพนักงานที่ดี โดยไม่ต้องกลัวว่าถ้าเราเสียงาน เราจะเสียตัวตน
เราสามารถเป็นพ่อแม่ที่รักลูก โดยไม่ต้องควบคุมลูกให้เป็นไปตามความต้องการของเรา เราสามารถเป็นครูที่สอนด้วยใจ โดยไม่ต้องยึดติดกับการที่นักเรียนต้องเชื่อฟังเราในทุกเรื่อง
เราสามารถมีความฝัน มีเป้าหมาย มีความต้องการ โดยไม่ต้องกำหนดตัวตนของเราผ่านการบรรลุหรือไม่บรรลุสิ่งเหล่านั้น เราสามารถรัก โดยไม่ต้องครอบครองคนที่เรารัก เราสามารถมีทรัพย์สิน โดยไม่ต้องให้ทรัพย์สินมีเรา
เมื่อเราเป็นอิสระจากกรงของอัตตา เราจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่
โดยไม่เป็นทุกข์
โฆษณา