9 มิ.ย. เวลา 14:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

แม้แต่ของถูกก็ไม่ซื้อ? มาม่า-กระทิงแดง ยอด 'สะดุด' เศรษฐกิจฐานรากยังถดถอย กำลังซื้อหดตัวต่อ

2 สินค้าที่เจาะตลาดผู้บริโภคฐานราก และมีกำลังซื้อชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องยกให้ “เครื่องดื่มชูกำลัง” ซึ่งกลุ่มเป้าหมายสำคัญคือ “ผู้ใช้แรงงาน”หรือ Blue Collar อีกหมวดที่ภาพจำยังชัดเจนคือ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” โดยเฉพาะตลาดหลักซอง 7 บาท แม้พฤติกรรมการบริโภคจะมาจากความสะดวก อร่อย อิ่ม แต่เหตุผล “การประหยัด” เป็นสัดส่วนใหญ่สุด
กรุงเทพธุรกิจ สัมภาษณ์ 2 ผู้บริหารจากบิ๊กคอร์ป เจ้าของบิ๊กแบรนด์ที่ทำตลาดกับประชากรฐานรากมาอย่างนาน และให้คำตอบสอดคล้องกันว่า “กำลังซื้อผู้บริโภคลดน้อยถอยลง” เป็นปัจจัยใหญ่ที่กระทบการเติบโตของการค้าขายสินค้าเครื่องดื่มชูกำลังและบะหมี่ฯ
วรวุฒิ พงศ์ชินภัค ประธานผู้บริหารสายงานขายและการตลาดประเทศไทย กลุ่มธุรกิจ TCP ฉายภาพว่า ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมูลค่าราว 2.2 หมื่นล้านบาท ปี 2568 เดิมคาดการณ์จะเติบโตประมาณ 6% ผ่านไปครึ่งทางหรือ 6 เดือนแรก สัญญาณเศรษฐกิจ และกำลังซื้อที่ชะลอตัว ทำให้ปรับประมาณการเติบโตเหลือเพียง 3%
“ทิศทางตลาดเครื่องดื่มชูกำลังปีนี้คาดว่าจะเติบโตน้อย เพราะครึ่งปีแรกทรงๆตัว จากกำลังซื้อประชากรฐานรากได้รับผลกระทบ และด้วยเศรษฐกิจน่าจะยากลำบากขึ้น”
กลยุทธ์การตลาดครึ่งปีหลัง ทำให้บริษัทต้องมุ่งนำเสนอสินค้าใหม่ ขยายกลุ่มเป้าหมายเจาะคนรุ่นใหม่มากขึ้น และยังเป็นการขานรับตลาด “เครื่องดื่มชูกำลังพรีเมียม” หรือโมเดิร์นเอนเนอร์ยี ที่เติบโตสูง แม้สัดส่วนในตลาดยังน้อยราว 10% หรือประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ทิศทางยังโตต่อแน่นอน ภาพรวมปี 2568 คาดว่าไม่ต่ำกว่า 35% เพราะผู้บริโภตต้องการความสดชื่นระหว่างวัน ความซ่า และแบรนด์มีสินค้ารสชาติใหม่ๆ ตอบโจทย์ทั้ง เรดบูล โซดา และมี “แบมแบม GOT7” เป็นพรีเซ็นเตอร์
1
สำหรับตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ราคาขายปัจจุบันของ 3 บิ๊กแบรนด์อยู่ระดับ 10 บาท Magic Price ตลอดกาล และราคา 12 บาทต่อขวด ซึ่งแบรนด์พยายามสลัดภาพลักษณ์ไปสู่ความเป็นพรีเมียมมากขึ้น
ด้านตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใหญ่ไม่แพ้กันด้วยมูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท มี 3 บิ๊กแบรนด์ห้ำหั่นกัน และมีบะหมี่พรีเมียมแบรนด์ไทย-เกาหลี เพิ่มจำนวนสินค้า ยี่ห้อมาแย่งตลาดมากขึ้น
โฆษณา