9 มิ.ย. เวลา 17:55 • ธุรกิจ

"สรุปแก่นทั้งหมดจากซีรีส์สงครามส่งด่วน" ⚡💛🖤📦

สรุปแก่นทั้งหมดจาก
ซีรีส์ #สงครามส่งด่วน
เหมาะกับคนดูจบแล้วเท่านั้น!! ⚡⚡
.
.
.
.
.
1. "ต้นทุน" คนเรามีไม่เท่ากัน แม้เกิดมามีน้อย สังคมแวดล้อมไม่ดี ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีโอกาสเลย แค่คิดและทำ โอกาสก็พร้อมอ้าแขนรอ
2. ทุกคนในโลกล้วนอยากรวย แต่น้อยคนนักที่จะ "คิดแบบคนรวย" เพราะคนกลุ่มนี้มักมีวิธีคิดมุมกลับเพื่อจะสร้างแนวทางให้ตัวเองมีเหนือใคร
3. เช่นนี้ "ถอนขนไก่" จึงเป็นเรื่องที่ยากและท้าทายกว่า "ถอนขนนกกระจอก" ถ้าเราอยากได้ชิ้นเนื้อปริมาณมากกว่า คุณค่าทางโภชนาการดีกว่า จึงต้อง "ลงทุน" พยายามมากกว่า
4. การทำธุรกิจใดก็ตาม สิ่งแรกที่คุณต้องมีคือ "ความฝัน" ระดับร้อยโล และทำมันออกมาอย่างสุดหัวใจ
5. อาวุธลับของคนที่จะทำธุรกิจสำเร็จ คือเขามักจะ "มองหา" และ "มองเห็น" ทุกความเป็นไปได้ แม้สิ่งที่คนอื่นไม่เคยมอง แบบที่ "สันติ" สังเกตความเหลื่อมล้ำจากค่าขนส่งขั้นต่ำระหว่างจีน-ไทย และพลิกตัวเลข 20-50 ให้เป็นโอกาสอันล้ำค่าขึ้นมา
หรือ "เจ้าสัวคณิน" ที่มองวิวนอกตึกเป็นอาณาจักรใหม่ของบริษัท นี่แหละคือวิสัยทัศน์แห่งผู้นำ ที่สามารถมองภาพอันแตกต่างออกมาได้ มันจะทำให้คนพวกนี้คิดต่อยอด และไป "ต่อแถว" ใหม่ๆ เป็นผู้นำในตลาดได้เรื่อยๆ รวมถึงการสังเกตและใส่ใจรายละเอียดแม้เล็กน้อยก็สำคัญมาก แบบที่สันติแยกได้ว่าแบบไหนพัสดุจริงหรือปลอม
6. "การตั้งคำถาม" สำคัญเสมอ คำถามที่ดี จะนำไปสู่แนวทางและโอกาสที่ดีต่อไป ถ้าเราเป็น "นักศึกษาเหมืองทราย" แบบสันติที่กล้าคิด กล้าถาม กล้า
มองต่าง กล้าแสดงออกว่าตัวเองไม่รู้ เพื่อที่จะดึงความรู้จากนักธุรกิจหมื่นล้านอย่างเฮียคณินมาให้ได้
7. ทุกอย่างล้วนมีราคาของมัน "ค่าเสือก" ก็เช่นกัน และมันแพงกว่าที่คิดทีเดียว
8. การเก่งภาษาต่างประเทศ ย่อมเป็นข้อได้เปรียบกว่าคนอื่นมาก ยิ่งถ้าได้ภาษาที่ 3 ยิ่งเป็นโอกาสในการสร้างคอนเนคชัน โดยเฉพาะภาษาจีนที่สำคัญมากในโลกธุรกิจและในไทย
เมื่อพวกเขาคือชาติมหาอำนาจที่มีบทบาทสำคัญและอิทธิพลสูงในบ้านเรา ลองนึกภาพถ้าเราเป็นคุณปีเตอร์ CEO จาก Easy Express แดนมังกร จะรู้สึกดีต่างกันยังไง? ระหว่างการได้คุยกับสันติที่พูดจีนคล่อง หรือเคน-คณินที่ต้องอาศัยล่าม
9. ในโลกธุรกิจ การมีทุนยังไม่พอ แต่คุณต้องมีทั้ง "ความแตกต่าง" ในตลาดและทักษะ "วาทศิลป์" ทั้งสีหน้า แววตา น้ำเสียง และการร้อยเรียงเรื่อง ที่จะพิฆาตใจอีกฝ่าย ยิ่งคนทำสตาร์ทอัพ ทุกเสี้ยววินาทีคือโอกาสอันล้ำค่า ซึ่งต้องพูดให้นักลงทุนเห็นภาพชัดเจนร่วมกันในเวลาอันสั้นได้
เพราะคนกลุ่มนี้คิวแน่นรัดตัวมาก หาตัวยาก พอได้เจอทีต้องรีบฮุคเข้าเรื่อง จึงมีคำว่า "Elevator Pitch" ถ้าคุณได้เจอนักลงทุนในลิฟต์ที่มีเวลาสั้นมาก จะเล่ายังไงให้มีโอกาสได้ทุน
เรามีอะไรที่เขาไม่มี และสิ่งนั้นทำไมเขาต้องมี? "เก้าอี้" ของเราต่างจากคนอื่นยังไง?
10. ถ้าเราทำธุรกิจ โดยคิดถึงสังคม สังคมก็จะตอบแทนเราเช่นกัน มองเห็นปัญหา (Pain Point) ของผู้บริโภคและเสนอทางแก้ (Solution) ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นได้ แบบที่สันติอยากอุดช่องว่างให้ทุกคนในประเทศเข้าถึงการขนส่งได้อย่างเท่าเทียม ราคาเดียว และการสังเกตเห็นคนแห่มาส่งพัสดุเอง เสียเวลา ค่าน้ำมัน และเอเนอจี้ งั้นกูจะจัดบริการไปรับพัสดุถึงหน้าบ้าน!
11. ไม่มีใครไม่เคยทำผิด แต่สำคัญคือทำผิดแล้วไม่ทำอีก วันนั้นที่สันติพลาดจ้างหน้าม้าเข้ามาในร้านจนเจอ "เสี่ยวหยู" จับได้ เขาก็พร้อมก้มหัวน้อมรับจากใจและมุ่งมั่นจะทำให้ดีขึ้น ถ้าไม่มีการยอมรับแบบลูกผู้ชายในวันนั้น เขาและเธอคงไม่ได้เดินทางร่วมกันจนถึงวันนี้
12. การทำธุรกิจ ไม่มีผิดถูก จริงอยู่ว่าต้องกล้าได้กล้าเสี่ยง แต่อีกมุมการ "เลือกไพ่" ที่มีโอกาสกว่าและค่อยลงเล่นก็อาจเป็นคำตอบ อยุ่ที่จังหวะโอกาสและการประเมินสถานการณ์มากกว่า
13. "ลูกบ้า" คือพลังแฝงอีกเฮือกที่จะทำให้เราฮึดสู้ได้เรื่อยๆ ซึ่งถ้าสันติไม่มีข้อนี้ เขาจะไม่สำเร็จขนาดนี้แน่ โดยเฉพาะในแง่การซื้อใจคน ดื่มถวายชีวิตเพื่อขายคอนโด ขอโทษเสี่ยวหยูจากใจเมื่อทำผิดจริงๆ ลงทุนตื๊อ "รุ่ยเจี๋ย" ซ้ำแล้วซ้ำอีก โปรยเงินจากรถก็ไม่หวั่น
14. ตราบใดที่เรายังไม่ยอมแพ้ เราก็จะไม่แพ้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้
15. การทำสตาร์ทอัพ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การมีทีมที่มีแพสชันและเป้าหมายร่วม หากแต่ต้องเป็นส่วมผสมที่ลงตัวพอดีกันมากๆ ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญหลายศาสตร์ทักษะเข้าด้วยกันทั้งการตลาด โซเชียลมีเดีย (CMO) การบริหารจัดการ (COO) การเงิน (CFO) เทคโนโลยี-นวัตกรรม (CTO) สำคัญกว่านั้นคือความเข้ากันได้ทั้งในแง่นิสัย แนวคิด สไตล์การทำงานเพื่อจะก้าวไปด้วยกัน ไปได้ไกล (CEO / Founder)
ในทีมต้องมีทั้งคนที่เป็นผู้นำดั่ง "เครื่องยนต์" สำคัญที่คอยเชื่อมต่อและขับเคลื่อนพาทุกคนไป มี "ผ้าเบรก" ที่คอยสะกิดไม่ให้พุ่งเกินกำลัง ทำอะไรต้องยั้งคิดโดยเฉพาะเรื่องงบดุล และบางทีผ้าเบรกนั้นก็อาจสลับบทเป็น "คันเร่ง" ใส่เกียร์พาทีมลุยไปไม่ยั้งในห้วงเวลาสำคัญขึ้นมา
16. "ผู้นำที่ดี" ต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ หย่อนมากไปก็ไม่มีใครฟัง ตึงมากไปทุกคนก็หนีหายไม่มีใครเอา ซึ่งหัวใจสำคัญที่ทีม "Thunder Express" ไม่เหมือนใครคือ พวกเขามีผู้นำ 3 คน 3 สไตล์ที่ต่างเติมเต็ม ปรับตัว เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
สันติที่หัวค้าขายดีเป็นเลิศแต่บ้าเลือด ทำอะไรไม่ระวัง ก็ได้เรียนรู้การหยุดคิด ยับยั้ง ชั่งใจ และยอมชิงจังหวะเลือกไพ่ให้เป็น ซึ่งเขาได้จากเสี่ยวหยูมาและอีกจุดเด่นสำคัญคือทักษะแห่งการพูดปลุกใจทีม ที่เขามักจะเล่นใหญ่ใส่เต็มเพราะสื่อออกไปจากใจจริงๆ ด้วยการสร้างอารมณ์ร่วมให้ลูกน้องเห็นภาพร่วมกันทุกครั้งก่อนออกไปลุยภารกิจสำคัญ พวกมึงฟังกูให้ดี! ทำให้ทุกคนรู้สึกฮึกเหิมว่านี่ไม่ใช่บริษัทของสันติและทีมบริหารแค่คนเดียว แต่เป็นของพวกกูทุกคน!
รวมถึงการสร้างแรงจูงใจใหม่ๆ ให้ทีมได้ตลอดเวลา อย่างการแข่งแย่งลูกค้าจากอีซี่มาเป็นของตน ระหว่างเขากับทีมเซลส์พร้อมเงินรางวัล 3 แสน ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ดี
ขณะที่เสี่ยวหยูเองก็ได้รู้ว่าบางเวลาเธอเองก็ต้องเป็นคันเร่ง กล้าทุ่มหมดหน้าตัก เพื่อสร้างอิมแพคในธุรกิจ ณ ตอนนั้นจริงๆ ส่วนรุ่ยเจี๋ยเองที่ชอบปกครองคนด้วยความกลัว ใช้การด่าขับเคลื่อนการทำงาน อาศัยพระเดชฟาดลูกเดียว ก็หัดลองใช้พระคุณ ใช้ Soft Skill เข้าอกเข้าใจทีม เป็นทั้งหัวหน้า ทั้งพี่และเพื่อนที่ดีของลูกน้องแบบที่สันติทำ
17. เจ็บแต่จริง ที่ในวงการธุรกิจมักมี "มิจแท้" มากกว่า "มิตรแท้" เป็นหลายเท่าตัว ทุกอย่างเชื่อมกันด้วยผลประโยชน์และการชิงเหลี่ยมเป็นสำคัญ กลับกันถ้าหากการลงทุนทำธุรกิจนั้นมีมิตรแท้เคียงข้างจริงๆ นั่นคือขุมกำลังและทุนอันล้ำค่าเกินประเมินค่าใดๆ ซึ่งวิธีใจแลกใจของสันติ ก็ทำให้เขาซื้อใจคนมาได้มากมาย ให้พร้อมใจร่วมทางฝ่าพายุร้ายไปด้วยกัน
18. "คำดูถูก" สบประมาทในอดีต ย่อมเป็นอดีตที่กรีดเราได้ถึงปัจจุบัน แต่เราเลือกได้ว่าจะให้คำเหล่านั้นเป็นแค่เสียงก่นด่าให้เราน้อยใจชีวิตต่อไป หรือจะพลิกมันเป็นพลังให้สู้สุดกำลังกว่าเดิม เปลี่ยนจากขยะไร้ค่า แมลงวันน่ารำคาญ มาเป็นตี๋เล็กผู้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ทั้งในแง่ธุรกิจและการดูแลคน
19. "ลูกไม้" ไม่จำเป็นต้องหล่นใกล้ต้นเสมอไป พ่อสร้าง ลูกใช้ หลานทำพังก็เพราะใคร!? ก็เพราะคนเป็นพ่อไม่เคยใส่ใจลูกมากพอ บางคนอาจทำธุรกิจสำเร็จได้มากมาย แต่ล้มเหลวในการเป็นพ่อแม่ก็เยอะไป
อย่างเจ้าสัวคณินกับเคนผู้เป็นลูกชาย แต่ไม่เคยได้อิสระในการคิดอ่านอะไร มีแต่ใช้ชีวิตและทำงานให้ป๊าพอใจไปวันๆ เล่นสกปรกตัดขาคู่แข่งก็ทำตามได้ เพราะมีป๊าเป็นตัวอย่างให้เจริญรอยตาม ทำดีก็เสมอตัว พลาดมาก็พร้อมจะบีบคอด่าทอ เคนอยากสานต่อธุรกิจครอบครัวบ้างหรือเปล่าก็ไม่เคยถามเขาเลยสักคำ เป็นทายาทธุรกิจระดับหมื่นล้าน มีตำแหน่ง มีหน้าตาในสังคมแล้วมันจะมีความหมายอะไร ในเมื่อป๊าเองยังไม่เคยเห็นค่าเราเลย
เป็นตลกร้ายที่เกิดในชีวิตจริงของหลายครอบครัวที่มีธุรกิจและยัดใส่มือทายาท ตามด้วยความคาดหวังเกินกำลังจนพังจากภายใน พ่อสร้าง พ่อใช้ และพ่อนี่แหละทำพัง
20. "คู่ชีวิตที่ดี" คือคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างกันทุกเวลา แม้อยู่ไกลก็เหมือนใกล้ ซัพพอร์ตเราได้ทุกเรื่องแม้ไม่พูดออกมา ให้รู้ว่าเธอจะยังมีฉันเสมอในทุกวัน สุขพร้อมแบ่งปัน ทุกข์พร้อมแบ่งเบา ทำความเข้าใจกันแม้ในวันที่อาจไม่เข้าใจเลย ซึ่งเสี่ยวหยูโชคดีเหลือเกินที่มี "เลียม" อยู่ร่วมทางชีวิตเธอ
21. หนี้ที่ชดใช้ได้ยาก คือ "หนี้บุญคุณ" เพราะไม่ใช่ทุกคนจะใจกว้างพอให้ใครได้แบบไม่คิดอะไร แอบนินทาว่าร้ายลับหลังก็มี นั่นจึงทำให้เสี่ยวหยูพยายามยืนหยัดด้วยลำแข้งตัวเองแม้จะลำบากยากเย็นเพียงใด
22. "รู้เขา รู้เรา" ย่อมมีชัย ยิ่งในแวดวงธุรกิจ การคิดเก่งยังไม่เท่าคิดอ่านว่าคู่แข่งมองยังไงและจะทำอะไรต่อ นั่นจึงทำให้เฮียคณินนำหน้าสันติอยู่ก้าวหนึ่งตลอดด้วนประสบการณ์ที่เขี้ยวลากดินกว่า
23. "ม้าศึก" ที่เรามองว่าสำคัญและเชื่อใจมานาน บางทีก็อาจเป็นอสรพิษใกล้ตัว รอฉวยโอกาสฝังเขี้ยวฉีดพิษเข้าใส่แบบไม่ทันตั้งตัว เพราะคนเราเมื่อจนตรอกมันย่อมเลือกตัวเองก่อนใคร และเพราะรุ่ยเจี๋ยเองก็ไม่ได้ใส่ใจลีนุกซ์มากพอ เรียกว่ามาช้าไปในวันที่เด็กมันตัดสินใจไปแล้ว หรือพี่นิพนธ์ หัวหน้าทีมขนส่งที่ดูเรียบร้อยแต่สุดท้ายก็ร้ายลึกเป็นหนอนอีกตัวจนเกือบพังทั้งทีม
24. "คู่แข่ง" หรือศัตรูคือ "ครูที่ดีที่สุด" ได้เช่นกัน หากเราลองครูพักลักจำ ศึกษาจากความผิดพลาดตัวเองและสิ่งที่เขาเตะตัดขาในระหว่างทาง เพราะเคยพลาดเจ็บล้มดังไปมาก เลยทำให้สันติรู้วิธีพลิกเกมเฮียคณินจนชนะได้ในการดวลรอบสุดท้าย ว่าใครจะได้เป็นพาร์ทเนอร์กับมอลลี่ ขนส่งเบอร์ 1 ของไทย ด้วยการสับขาหลอกไม่ให้เสี่ยวหยูบอกไฟลต์ขนส่งที่แท้จริง
จนถึงเวลาดำเนินการ อาศัยความประมาทของศัตรูที่มองว่าเหนือกว่าและรอฆ่าอย่างช้าๆ เพราะย่ามใจว่าเคยชนะใน "สงคราม" ก่อนนี้ทั้งสงครามร่วมทุนบริษัท สงครามราคาและอื่นๆ ก็ต้องแพ้ภัยตัวเองในสงคราม 11.11 ในที่สุด
25. ไม่มีของชิ้นไหนแพงเกินค่าใครหรอก ทำตัวให้คู่ควรกับนาฬิกานั้นซะ!
26. "มาก่อน ได้สิทธิ์ก่อน" ควรใช้ได้จริงกับทุกเรื่อง เป็นความยุติธรรมที่ไม่ต้องการความเห็นต่างใดๆ
27. การเป็นผู้นำไม่ใช่และไม่เคยเป็นเรื่องง่าย ไม่มีทางทำให้ทุกคนพอใจได้ เป็นสิ่งที่ต้องยอมรับและปรับวิธีให้เหมาะสมตามสถานการณ์นั้นๆ และต้องกล้าที่จะตัดสินใจเรื่องยากๆ ตลอดเวลา แม้ว่าจะฝืนใจแต่เพื่อส่งมรวมก็ต้องทำ แบบที่สันติกลั้นใจไล่บอมบ์เพื่อนรักจากดอยบ้านเกิดออก เพราะโกงบริษัท ถ้าให้โอกาสต่อ คนอื่นจะเอาอย่างและคิดว่าเข้าข้างเพื่อนเกินเหตุ หรือกับธงน้องชายก็ไม่มีข้อยกเว้น ถ้าจะทำงานด้วยกันก็ต้องยอมรับกติกาบริษัท
นอกจากนี้บางอย่างมันก็ "Now or Never" ไม่คว้าโอกาสตอนนั้นก็อาจไม่มีอีกแล้ว แต่ก็ต้องมีสติ ไม่ให้บริษัทถูกเอาเปรียบไปมากกว่านี้ สันติเลยกล้าต่อรองกับอลิซ หวัง นางพญางูร้ายในคราบนักลงทุนที่ฮุบเหยื่อสตาร์ทอัพมาแล้วมากมาย จนยอมตกลงให้ทุน เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Thunder ไปต่อได้ในห้วงเวลาอันแสนยากเย็น
28. แค้นได้ แต่อย่าฝังใจแน่น "ลองวางคู่แข่งออกจากใจลงบ้าง คุณอาจจะหายโง่" ประโยคนี้ของเสี่ยวหยูเรียกสติให้สันติได้ดีทีเดียว ธุรกิจเป็นเรื่องของการแข่งขันก็จริง แต่บางทีเราก็ควรโฟกัสสนามของตัวเอง
29. "การสัมภาษณ์งาน" นอกจากการพูดจาน่าฟัง มีชั้นเชิง สิ่งสำคัญทุกคำถามควรตอบออกมาจากใจ บางทีไม่ต้องตอบนางงามอะไรมากมาย แค่เป็นตัวเอง จริงใจก็มากพอ แบบที่รุ่ยเจี๋ยถามไป เรื่องอะไรที่โกหกล่าสุด เพื่อวัดใจคน
30. "รักแท้มีจริง แม้ไม่ได้ครอบครอง" ตลอดเวลาที่เราสองร่วมสร้าง "ลูก (ธุรกิจ)" มาด้วยกัน ในใจผมนั้นโคตรอยากให้คุณอยู่ต่อเลยจริงๆ แต่ก็รู้ดีว่าทันเด้อและการใช้หนี้ให้พ่อยังไม่ใช่ทุกสิ่ง ยังมีความฝัน มีครอบครัวให้คุณรอสร้างต่อ
อย่างเดียวที่อยากขอ คือขอให้คุณมีความสุข มีงานแต่งสมใจที่รอคอยมา 2 ปี มีเจ้าตัวน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจ มีชีวิตที่อิสระเลือกได้ ไร้พันธะหนี้พ่อ ไม่ต้องเหนื่อยมากอีกต่อไป สำหรับผมแค่นั้นก็มากพอ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ความรู้สึกระหว่างเรามัยก็เต็มไปด้วยเรื่องราวอันงดงามระหว่างทาง คุณเขี้ยวดีผมชอบก็บอกชอบไปเลย พอรู้ว่ามีแฟน ก็แอบบอกรักแบบไม่มีคำว่ารักเสมอมา
ยาดมเขียวที่คุณชอบใช้ ผมยกให้หมดเลย ริมฝีปากเรียวสวย ฉาบลิปสติกแดงระเรื่อ มองทีไรก็ตกหลุมรักไม่เลิกในทุกวัน กระจกรถที่เราเขียนวิเคราะห์ Brand Positioning วันนั้น ผมยังถอดเก็บไว้ให้มองลายมือคุณถึงวันนี้ บริษัท Thunder Express ลูกของเราที่สร้างมาด้วยความลำบาก
แม้ในห้วงเวลาที่ยากที่สุด ศรัทธาผมสิ้นสุด คุณก็ยังหยุดและอยู่ด้วยกันไม่ห่าง พร้อมจับมือผมขึ้นมาใหม่ ทุกบาททุกสตางค์ของบริษัทที่คุณคิดอ่าน ปรับแผน และกันงบมาใช้ มันพาให้พวกเราสำเร็จได้อย่างท่วมท้น เรื่องของคุณก็เป็นเรื่องของผม หุ้นที่เคยพลีชีพให้บริษัท หนี้พ่อคุณทั้งหมด ไม่ต้องกังวลแล้วล่ะ
อย่างน้อยสันติก็ทำให้เห็นถึงความงดงามของรักแท้ ที่แม้ไม่ได้ครอบครอง ก็ยินดีกับเสี่ยวหยูจากใจ แค่เห็นรอยยิ้มของคุณ นั่นแหละคือความสุขของผมในระดับยูนิคอร์น
31. คนที่มั่งมี ไม่ใช่คู่แข่งทางธุรกิจที่น่ากลัวเสมอไป แต่คือคนที่เคย "ยากไร้" ต่างหากที่น่ากลัวและจะสู่สุดกำลัง กัดไม่ปล่อยจนกว่าจะได้มา จากวันวานที่อดทนกินสัตว์ที่ไม่ควรกิน ทั้งมาม่าผสมข้าว และของกินที่คนอื่นไม่เอา ยิ่งทำให้สันติคลั่งแค้นอยู่ภายใน เพื่อลบคำสบประมาทป๊า พร้อมผลักดันตัวเองและครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีได้จริงๆ
32. วิธีแก้แค้นที่ดีที่สุด คือการสร้างความสำเร็จให้เห็นเป็นรูปธรรมที่สุด ทั้งป๊าที่เคยมองสันติเป็นขยะไร้ค่าก็ต้องใบ้กินเมื่อเห็นลูกมาใช้เงินล้านซื้ออิสรภาพคืนจากเขาได้ หรือเฮียคณินที่แพ้ภัยกับคนที่เขาเคยมองเป็นแมลงวัน ตามเกมอยู่ต้อยๆ จนพลิกเกมสงครามนี้ได้อย่างยิ่งใหญ่
33. "ครอบครัว" คือ แรงผลักดันให้ไปต่อได้ตลอด ทุกอย่างที่สันติทุ่มเททำคงพังทลายได้ง่ายทุกครั้งที่เจออีกฝ่ายขัดขา แอบยั่ว หรือแพ้พ่ายกับตัวเองผู้มุทะลุอยู่เรื่อยจนพัง แต่ทุกครั้งที่หลับตานึกถึงแม่ ก็เป็นพลังบวกให้เขายังสู้ต่อไปได้ แม้ในวันที่อ่อนล้า สิ้นแรงกาย หมดแรงใจ พอมานึกย้อนว่าตัวเองสู้มาเพื่ออะไร ก็พร้อมจะปัดแข้งเช็ดแผลใหม่แล้วหาทาฃออกได้เสมอมา
แค่ประโยคว่า "เหนื่อยมั้ยลูก?" จากแม่แค่ประโยคเดียวในตอนท้าย เหมือนภาพสะท้อนสื่อแทนหัวใจยอดนักธุรกิจผู้ยืนหยัดสู้เพื่อครอบครัวมามากมาย ว่าวันนี้เขาทำได้แล้วจริงๆ,,,💛🖤⚡
โฆษณา