สงครามราคาหม้อไฟเดือด ใครคิดอะไร
น่าสนใจดีนะครับ กับสงครามราคาหม้อไฟสองเจ้าใหญ่
ที่กำลังตีกันอยู่ตอนนี้ น่าจะเป็นข้อคิดที่ดีสำหรับคนทำธุรกิจ
MK เล่นก่อน ทุบราคามา 299
ก่อนที่ตี๋น้อย จะเล่นตาม ทุบลงมาที่ 199
ในมุมมองคนส่วนมาก จะพูดว่า MK เสียเปรียบมาก
เจ็บแล้วเจ็บอีก และจะพ่ายแพ้ในศึกนี้อย่างง่ายดาย
…แต่…. นักธุรกิจที่ผ่านประสบการณ์มา 30 ปี อย่าง กลุ่ม
MK เขาไร้สมองขนาดนั้นจริงๆเหรอ…
…สำหรับผม ผมว่าไม่ใช่…
และมองด้วยซ้ำ ว่าตี๋น้อยกำลังหลงเหลี่ยมรึเปล่า?
ตี๋น้อย ต้องระวังการทุบแบรนด์ตัวเอง….
ในความเป็นจริงแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หากตี๋น้อยลดราคา
ลงมาขนาดนั้น คนคงแห่ไปกันเต็มไปหมด
เหมือนจะดีใช่ไหม ?
แต่นั่นแหละปัญหา ที่จะทำลายตัวเองของตี๋น้อย
เพราะคิวที่ยาวเกินไป เพราะออเดอร์ที่มากขึ้น จนของขาด
จะส่งผลกับคุณภาพและบริการของตี๋น้อย ซึ่งก็ไม่ค่อยจะดี
อยู่แล้ว ให้แย่ลงไปอีก
และการที่ตี๋น้อย มีพนักงานมากกะกว่า จากเวลาบริการที่มาก
มันจะกลายเป็นภาระด้านต้นทุนได้ ยิ่งเพิ่มก็ยิ่งเจ็บ
ในมุมกลับ MK นั้นพูดมาตลอด ว่าพวกเขามีการบริการ
และวัตถุดิบที่ดีกว่า ซึ่งก็เป็นความจริงที่ทุกคนสัมผัสได้
เมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะสามารถย้ำแผลจุดอ่อนของตี๋น้อย
ให้ชัดเจนขึ้นได้มากขึ้น….
…มาตรฐานการบริการ ตี๋นัอย ยังไงก็ตัองแย่ลง
การเพิ่มเด็กเสริฟอาจไม่ช่วยอะไรนัก เนื่องจากตี๋น้อย
ใช้ต่างด้าวมากเกินไป การเทรด์งานแบบเร่งด่วน
จะไม่ช่วยอะไรเลย ซ้ำยังเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายเปล่าๆ….
…นี่คืออะไรที่ตี๋น้อยต้องระวังเป็นอย่างแรก….
ในทางธุรกิจแล้ว ทุกประเภท ราคาจะกำหนดลูกค้า
อันนี้จะน่ากลัวมาก สำหรับตี๋น้อย เพราะด้วยราคาขนาดนี้
คือมันเท่ากับ ไม่มีการสกรีนลูกค้าด้วยราคาเลย
สภาพที่เดาได้ คือ ตี๋น้อยจะกลายเป็นร้านช้งเบ้ง หนวกหู
ที่อาจเต็มไปด้วยเด็ก หนวกหู จนเสียบรรยากาศ
ในการรับประทานไป
พูดง่ายๆ เล่นราคานี้ ต้องแลกกับภาพลักษณ์ ที่เสียแน่ๆ
ลูกค้าชนชั้นกลาง กำลังซื้อดี ไม่มีใครอยากรอคิว
และมักต้องการความสงบในการกิน ไม่มีทางรับไม่ได้
กับสภาพที่เกิดขึ้น ไปเจอทีเดียวอาจเข็ดไปเลย
และกลไก เงื่อนไขด้านราคา ไม่สามารถใช้กับกลุ่มนี้ได้
ในขณะที่ MK นั้น ลดแบบมีเงื่อนไข ทั้งเวลาและเมนูให้เลือก
มันจึงไม่มีปัญหานี้มากเท่า เวลาบริการก็แน่นอน
…ซึ่งนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ทาง MK คิดอยู่ก่อนแล้วก็ได้…
ต้นทุน กำไร อย่าคิดว่า MK ยาวๆแล้วจะเสียเปรียบนะ
เพราะอะไรน่ะเหรอ ?
มันอาจจริง ที่ MK เสียค่าเช่าที่มากกว่า
เพราะอยู่ในห้างสรรพสินค้า เป็นส่วนมาก
แต่ต้องไม่ลืม ว่าพวกเขาอยู่มานาน นานจนต้นทุนอยู่ตัว
ผมเชื่อว่าสัญญาเช่าของ MK กับเจ้าของพื้นที่ จะเป็นราคา
ที่ค่อนข้างตายตัว ที่ถูกกำหนดมา ในระดับเกิน 10 ปีขึ้นไป
แทบทั้งนั้น
…ที่รู้ เพราะเคยทำโครงการPlaza ให้นายเงินเจ้าหนึ่งเพื่อรองรับฟาสต์ฟู้ด. ร้านอาหารแบรนด์ดังๆ ที่มาเช่า หลายเจ้า
เขาคุยสัญญากันล่วงหน้า ที่ละ 20 ปีทีเดียว ไม่ใช่ว่ากันปีต่อปี
…บางเจ้า ทำในลักษณะของ MOU ที่มีเงื่อนไขวินๆ
บางอย่าง เข่น การจัดหาวัตถุดิบ ที่ผูกกับเจ้าของสถานที่
ค่าเช่าจึงถูกมากๆ ไม่ใช่แพงอย่างที่คนนอกเข้าใจ….
ในแง่นี้ MK จึงไม่ใช่ว่าจะแบกค่าเช่าที่จะเพิ่มขึ้น
ตามเงินเฟ้อ ราคาที่ดิน อย่างที่คนนอกมอง
จะบอกว่า มันเป็นรายจ่ายที่ค่อนข้างคงตัว
และไม่เฟ้อตามเงินก็ได้
ในแง่อาคารสถานที่ ผมบอกเลย ว่า MK ได้เปรียบด้วยซ้ำ
เพราะตี๋น้อย ที่ส่วนมากเป็น Stand alone มันจะมีค่าใช้จ่าย
ที่มากขึ้นเสมอ จากเงินที่เฟ้อมากขึ้น และภาระดอกเบี้ยที่อาจสูงขึ้นตามนโยบายของธนาคาร เขายังต้องแบกรับภาระจากเงินกู้มาลงทุนด้านสถานที่
ง่ายๆนะครับ MK จ่ายค่าเช่าให้ห้างก็จริง
แต่พวกเขาไม่ได้สร้างห้างสรรพสินค้า
MK อาจลงทุนตบแต่งต่อที่สัก 10 ล้านเป็นอย่างมาก
แล้วก็จ่ายค่าเช่าต่อแบบวินๆกับห้างสรรพสินค้า
แต่ เท่าที่มองในสายตาคนทำงานก่อสร้าง ต้นทุนการสร้าง
Stand alone ของตี๋น้อย ไม่มีทางต่ำกว่า 60-70 ล้าน
หากรวมมูลค่าที่ดิน บางแห่งอาจมากกว่า 150 ล้านด้วยซ้ำ
ซึ่งแน่นอนว่าปัจจุบัน มันยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนหรอก
ส่วนมากพวกเขาจะต้องผ่อนจ่ายกับสถาบันการเงิน
ด้วยเงินหมุนเวียนของยอดขาย
…กำไรที่น้อยลง จากสงครามราคา พวกเขาไหวจริงๆเหรอ ?…
…โดยเฉพาะ เกิด MK หมั่นไส้ เล่นเกมส์ยาวล่ะ ?….
อย่าลืมนะครับ MK อยู่มานาน
มีเก็บจนสายป่านแท้ๆของตัวเองมั่นคงกว่า
จนแทบไม่ต้องหมุนเงินแล้ว แม้หลายปีที่ผ่านมา
จะมีขาดทุนบ้างก็ตาม
โกยมา จะ 30 ปีครับ ขาดทุนสี่ห้าปี ไม่สะเทือนหรอก
และ MK มี. connection ที่ดีมาก กับห้างสรรพสินค้า
ที่ได้ประโยชน์ร่วมกันมาหลายสิบปี
…เกมส์นี้ จะยังไง ทุนใหญ่จะเลือก MK ครับ ….
…คนรอคิว MK เดินห้าง ซื้อของ…
…คนรอตี๋น้อย ไม่ได้ให้ผลประโยชน์กับใคร…
และห้าง กับคนขายวัตถุดิบรายใหญ่ มันคือเจ้าเดียวกัน
ก็เหมือนทุกธุรกิจแหละ ใคร conection ดีกว่า ก็เอาไปกิน
และมันเลือกไม่ยาก สำหรับทุนใหญ่ที่จะไปทางไหน
…ตี๋น้อยต้องคิดให้ดี ถ้าจะเล่นสงครามนี้….
โดยเฉพาะหากมีการลากยาว ตี๋น้อยเองนั่นแหละจะหนัก
ในความเป็นจริง ผมเชื่อนะ ว่าการประกาศลดราคา
ของ MK ไม่มีเจตนาจะแย่งตลาดของตี๋น้อย
สงครามราคารอบนี้ เพราะตี๋น้อยนั้นเต้นเร็วเกินไปหน่อย
เจตนาของ MK ผมเชื่อว่าพวกเขาลด
เพื่อขายเป็ด ขายหมูแดง
ไม่ใช่จะมาตีกับตี๋น้อย
คือ ประมาณว่า ลดราคาให้มันเป็นบุฟเฟต์
ดึงคนมาสั่งเพิ่มยอดเป็ด ยอดหมูแดง ที่เป็นกำไรหลักปัจจุบัน
ไม่ใช่เจตนาว่าจะดึงคนมากินบุฟเฟต์แข่งกับตี๋น้อย
ให้ตัวเองต้องขาดทุน หรือเสียกลุ่มเป้าหมาย
บุฟเฟต์ ไม่ใช่จุดยืนของ MK มาแต่ไหนแล้ว
พวกเขาไม่มีทางเปลี่ยน และมันคือจุดขายต่อลูกค้าของเขา
ในการทำธุรกิจแบบรับผิดชอบต่อกลุ่มเป้าหมายนั้น
ผมเชื่อ ว่า MK จะไม่ทรยศลูกค้าตัวเอง ให้เสียหายมากกว่านี้
การทำบุฟเฟต์นั้น น่าจะเป็นการทดลองทางการตลาด
บางอย่างของพวกเขาระยะสั้นเท่านั้น อาจมีสินค้าใหม่ๆ
ที่ต้องการนำเสนอ จึงดึงคนเข้าไป อะไรทำนองนั้น
แต่เมื่อตี๋น้อย เต้นตาม จนเหมือนจงใจประกาศสงครามแบบนี้
มันก็จะเข้าข่ายแบบที่ สหรัฐเคยบอกญี่ปุ่นตอน WWII
…ถ้าพวกเขาต้องการสงคราม พวกเขาก็ได้สงคราม…
สงคราม เริ่มแล้วจบยากทั้งนั้นแหละครับ ไม่ว่าสงครามจริงๆ
หรือสงครามทางธุรกิจการค้า ดูสหรัฐกับจีนก็ได้
…ตี๋น้อย เดินเกมส์เร็วไป ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เสียหาย…
…ก็น่าสนใจนะครับ ว่าจะยังไง ไปทางไหนกันต่อ…
…น่าศึกษาครับ สำหรับคนทำธุรกิจ….
มันทำให้ผมนึกถึงสงคราม EV ในจีน
ที่ทุบกันจนเละไปหมดทุกเจ้า จนรัฐบาลจีน
ต้องเรียกบริษัทต่างๆ ไปสั่งว่า พวกลื้อเลิกได้แล้ว
หรือสงครามการทุบน้ำมันของตะวันออกกลาง
ที่ฟาดกับน้ำมันจากสหรัฐ จนกำไรหดทั้งสองฝ่าย
ยับคู่ๆ พาราคาตลาดโลกดิ่งเหว จนถึง 0 ช่วงโควิด
…สงครามราคา ไม่เคยเป็นผลดีกับผู้ประกอบการเลย…
…แบ่งกันได้ ก็แบ่งกันเถอะครับ ตีกันระวังจะพังคู่….
ตี๋น้อยก็คิวยาว MK ก็คนเยอะ ของก็ขาดๆ
งี้ร้านจิ้มจุ่ม ร้านปิ้งย่างชาบูเล็กๆ
จะได้ประโยชน์จากความน่ารำคาญนี้มากที่สุด
ผมคนนึงล่ะ ไม่รอ เดี๋ยวนี้ร้านชาบูเยอะแยะ
ไม่มีความจำเป็น ที่ผมต้องรอคิวอะไรกับสองร้านนั่น
จะว่าไป บางทีแข่งกันแบบนี้ มันก็คือความสวยงามของทุนนิยม
…ไฟฟ้า น้ำมันบ้านเรา แข่งกันงี้บ้างคงจะดีแหละ….
…ว่าแล้ว ก็ไปกินจิ้มจุ่มแกล้มเบียร์ดีกว่า อากาศงี้ด้วยนะ…
….จัดไปดิ รอไร 😁😁😁….
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
