เธอไม่ได้เป็นเอเย่นต์ขายยาแต่อย่างใดค่ะ... เราคิดว่าใช้คำนี้ไม่ถูกต้อง เพราะหากเลือกใช้คำนี้กับอาชีพแพทย์ คนไทยก็จะไม่เกิดการตระหนักรู้ และยังคงขาดความระมัดระวังในฐานันดรศักดิ์อาชีพสำคัญๆ นั่นคือ แพทย์ และ ตำรวจ....
หมอแอร์ เป็นเด็กสาวจากต่างจังหวัด จะเรียกว่าเด็กบ้านนอกก็ยังได้ ชีวิตวัยเด็กคลุกคลีกับการเมืองในระดับท้องถิ่นเล็กๆ เพราะพ่อเป็นกำนัน แม่เป็นนายกเทศฯ เธอคงซึมซับหลายอย่างมาพอตัว แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นเด็กดี ที่ไม่ได้ทำให้พ่อแม่ผิดหวัง เพราะเธอประสบความสำเร็จในการเรียนจนจบแพทย์มข. แล้วต่อด้วยสาขาจิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เรื่องราวชีวิตเธอควรจะจบแบบสวยงามในฐานะแพทย์จิตเวชเด็กและวัยรุ่น ที่ใช้ความรู้ความสามารถให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเด็กและวัยรุ่น ผ่านภาพลักษณ์รอยยิ้มสุดอบอุ่่น และการใช้ภาษาไทยที่สละสลวย
แต่เพราะโชคชะตา ผลักดันให้เธอก้าวเข้ามาเป็นดาวจรัสแสงในสตช. ทันทีที่เข้ามาเป็นแพทย์ตำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ประจำโรงพยาบาลตำรวจ จนกระทั่งเธอได้รับตำแหน่ง "รองโฆษกสตช…." และจากตรงนี้นี่เอง น่าจะเป็น turning point ในชีวิตอดีตแม่หม้ายอย่างเธอ ที่เริ่มจะหลงระเริง.....
โดยในปี'57 เธอถูกปลดจากตำแหน่งรองโฆษกสตช. ตามคำสั่ง อดีตรก.ผบ.ตร.และอดีตประธานปปช. ดร.วัชรพล ประสารราชกิจ (นายตำรวจดร.ท่านนี้ ใครๆก็รู้ว่าของจริงสายบุ๋น)
ในปี'58 มีคดีความฟ้องร้องกับไฮโซตั๋ม ลีนุตพงษ์ จากกรณีแย่ง "ผู้" (รองอั่๋นสุดหล่อ ที่ขอเงินไฮโซตั๋ม 5 ลบ.เพื่อซื้อตำแหน่งในสตช.) แต่ด้วยภาพลักษณ์ไฮโซตั๋มฯ ที่เป็นสาวเปรี้ยว extrovert ทำให้ชาวเน็ตเลือกเทใจให้หมอแอร์จนหมดไม่เหลือ...
ในปี'59 ถูกสั่งสอบขอเท็จจริงกรณี เอาเวลาราชการไปปฏิบัติงานส่วนตัว แต่เรื่องเงียบ!
ในปี'62 ตันสังกัดรพ.ตำรวจ เรียกสอบสวนกรณีโพสต์ชักชวนคนไทยบินไปคลอดบุตรที่สหรัฐอเมริกา เพื่อให้บุตรได้รับสัญชาติอเมริกัน ผ่านเจตนาแฝงหาเงินด้วยคำว่า "ปรึกษาฟรีไม่มีค่่าใช้จ่าย" โดยเธอบอกว่าสามีเธอคือเจ้าของบริษัท World Global Network (Thailand) และเคยได้รับตำแหน่งที่ปรึกษากองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งบริษัทดังกล่าวจดทะเบียนในไทยปี '59 ให้บริการตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ต่อมาในปี'62 นี้เอง บริษัทนี้ก็ชำระบัญชีและปิดกิจการไป
หากจะมีใครไปส่องดูประวัติสามีหมอแอร์คนนี้ ก็คงพอจะเลาๆได้ว่า มีเชื้อสายจีน(เทา) และมักชอบถ่ายรูปคู่กับเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวและรถซูุปเปอร์คาร์ (อีกแล้ว!) และยังมีการให้ประวัติไว้ว่า เป็นนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ทำธุรกิจอสังหา โดยเฉพาะในแถบอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ลาว เมียนม่าร์ กัมพูชา และแอฟริกา (สังเกตว่าประเทศเหล่านี้คือแหล่งฟอกเงิน)
เราคิดว่านี่คือ turning point ระลอกที่สอง
ของเด็กสาวบ้านนอก ที่มีความทะเยอทะยาน
เราเชื่อเป็นการส่วนตัวว่า เธอถูกสามีคนนี้หลอก
เพราะเธอติดสร้างภาพลักษณ์ตลอดเวลา
สามีเธอนั่นเอง ที่น่าจะนำเธอเข้าสู่วงจรจีนสีเทา
ปี'68 หมอแอร์ถูกจับรวบพร้อมของกลางคา "แฟลตตำรวจ" สถานที่สุดลึกลับและลี้ลับ ที่ทุกคนไม่เคยไปแตะต้อง ด้วยข้อกล่าวหา "แอบอ้างสั่งซื้อยานอนหลับ" เพราะมันคือสารหรือยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท หรือกลุ่มยานอนหลับที่มักถูกนำไปใช้เพื่อให้เหยื่อมีอาการมึนเมา ง่วงซึม หรือขาดสติสัมปะชัญญะ ยิ่งหากใช้ร่วมกับยานอนหลับก็จะยิ่งออกฤทธิ์
ในฐานะแพทย์ฯ หมอแอร์มีใบประกอบโรคศิลป์สามารถสั่งจ่ายยาควบคุมอย่างยานอนหลับได้ เอาจริงคือไม่ผิดอะไรในฐานะแพทย์! โดยเฉพาะภายใต้ความเชี่ยวชาญด้านจิตแพทย์ ซึ่งมีความเป็นเหตุเป็นผลอย่างยิ่งในการสั่งซื้อยาดังกล่าว แต่อะไรทำให้เธอย่ามใจ? หรือเธอถูกกดดันจากใคร? หรือวงจรอุบาทว์กลุ่มใด...มันจึงมาถึง turning point สำคัญระลอกที่สาม ที่เกิดขึ้นในชีวิตแม่ลูกสองภาพลักษณ์สาวเก่งสุดสวย เธอยังคงทำไม่หยุดเพราะอะไร? มันต้องลากมาทั้งขบวนการ มันคงไม่ใช่เธอคนเดียวแน่นอน!!
หมอแอร์สวมชื่อผู้เสียชีวิตในทะเบียนราษฎร์
มากถึง 370 ราย เพื่อเบิกยาจาก อย.
จำนวนเงินหมุนเวียนมากถึง 400 ลบ.
และยังสั่งซื้อในนามคลีนิกต่างๆอีกหลายแห่ง
คลีนิกต่างๆ อีกหลายแห่ง
คลีนิกต่างๆ อีกหลายแห่ง
..............ในปรเะทศไทย............
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
