12 มิ.ย. เวลา 00:33 • การศึกษา

จิตวิทยาว่าด้วยเงิน: เพราะบางครั้งเราไม่ได้ใช้เงิน เงินต่างหากที่ใช้เรา

> "เงินไม่ใช่แค่สิ่งที่เราใช้ แต่มันสะท้อนความกลัว ความหวัง และตัวตนของเรามากกว่าที่คิด"
เคยไหมที่รู้สึกผิดทุกครั้งเวลาซื้อของแพงให้ตัวเอง ทั้งที่มีเงินจ่าย?
หรือเคยไหมที่พยายามออมอย่างหนัก แต่สุดท้ายก็เอาเงินไปใช้แบบไม่คิดในวันแย่ๆ?
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่ “นิสัยการใช้เงิน” ธรรมดาๆ แต่มันคือเรื่องของ จิตวิทยาว่าด้วยเงิน (Money Psychology) ซึ่งเป็นศาสตร์ที่พูดถึงความสัมพันธ์ลึกๆ ระหว่าง “มนุษย์กับเงิน” ที่ซับซ้อนยิ่งกว่าตัวเลขในบัญชีธนาคาร
---
เงินกับอดีตของเรา
พฤติกรรมทางการเงินหลายอย่างของเรา มักมีรากมาจากวัยเด็ก
ถ้าเติบโตมากับความขาดแคลน เราอาจ “กลัวเงินหาย” แม้จะมีเงินเหลือเฟือ
ถ้าพ่อแม่ใช้เงินเยียวยาปัญหาครอบครัว เราอาจใช้เงินเพื่อกลบความรู้สึกในวันที่อ่อนแอ
เราบอกตัวเองว่า “แค่อยากได้รองเท้าคู่ใหม่”
แต่ลึกๆ มันอาจเป็นการ “ซื้อความรู้สึกว่าเรามีค่า” ก็ได้
---
เงินกับอัตลักษณ์ของเรา
หลายคนวัดความสำเร็จของตัวเองจากจำนวนเงิน
และหลายคนใช้เงินสร้างภาพลักษณ์ของความสำเร็จให้คนอื่นเห็น
เรากำลังใช้เงินเพื่อ "ใช้ชีวิต"
หรือใช้เงินเพื่อ "พิสูจน์บางสิ่ง"?
เมื่อเงินกลายเป็นเครื่องยืนยันตัวตน มันก็ยากจะวาง
เราทำงานหนักเพื่อหาเงิน แต่บางครั้ง เราเหนื่อยเพราะพยายามเป็นในสิ่งที่เงินจะ “ยอมรับ”
---
ความกลัวที่อยู่เบื้องหลังการเงิน
นักจิตวิทยาการเงินชี้ว่า คนส่วนใหญ่มักมีความกลัวเกี่ยวกับเงินซ่อนอยู่ 3 อย่าง:
1. กลัวไม่พอใช้ – แม้จะมีเก็บมากแค่ไหน ก็รู้สึกไม่มั่นคง
2. กลัวการตัดสินใจผิด – กลัวจะใช้เงินผิดเวลา ลงทุนผิดจังหวะ
3. กลัวการสูญเสีย – ยิ่งมีมาก ยิ่งกลัวจะเสียมาก
ความกลัวเหล่านี้ไม่ได้ผิด แต่ถ้าไม่รู้เท่าทัน มันจะขับเคลื่อนเรา
ทำให้เราตัดสินใจจากความวิตก แทนที่จะใช้เหตุผลหรือความสุข
---
เราต้อง "เยียวยา" ความสัมพันธ์กับเงิน ไม่ใช่แค่ "บริหาร" มัน
เราพูดกันมากเรื่องการจัดการเงิน – ทำงบประมาณ ออม ลงทุน
แต่สิ่งที่ไม่ค่อยมีใครพูดคือ “ใจของเรา” ที่อยู่เบื้องหลังทุกการใช้จ่าย
บางครั้งการหาคำตอบว่า
"เรารู้สึกยังไงกับเงิน?"
สำคัญไม่แพ้การรู้ว่า “เรามีเงินเท่าไหร่?”
เพราะการเข้าใจจิตวิทยาการเงิน ไม่ได้ช่วยแค่ให้เรารวยขึ้น
แต่มันช่วยให้เรา “ไม่ให้เงินควบคุมชีวิต” โดยไม่รู้ตัว
---
เงินคือเครื่องมือ ไม่ใช่เจ้านาย
และการมีชีวิตที่ดีไม่จำเป็นต้องร่ำรวยที่สุด
แต่ต้อง มีอิสระจากความกลัวเรื่องเงินมากที่สุด ต่างหาก
ลองถามตัวเองดูวันนี้ว่า
> “เงินกำลังสะท้อนอะไรในตัวเรา?”
“เราคุมเงิน หรือปล่อยให้เงินคุมเราอยู่?”
คำตอบอาจเปลี่ยนวิธีใช้ชีวิตของคุณไปตลอดก็ได้
---
5 รูปแบบบุคลิกการเงิน: คุณเป็นคนแบบไหน?
> เราอาจคิดว่าเรา “ใช้เงินตามเหตุผล”
แต่จริงๆ แล้ว เรากำลัง “ใช้เงินตามบุคลิก” มากกว่าที่คิด
จิตวิทยาการเงิน (Financial Psychology) พบว่า คนเรามักมี “บุคลิกทางการเงิน” ที่หล่อหลอมจากวัยเด็ก สังคม ประสบการณ์ และความกลัวลึกๆ
และนี่คือ 5 ประเภทบุคลิกที่มักพบเจอในชีวิตจริง
คุณลองดูว่า...ตัวเองอยู่ในกลุ่มไหน?
---
1. “นักสะสม” – Save first, worry forever
นิยามตัวเองว่า: “มีเงินเยอะเท่ากับปลอดภัย”
ชอบเก็บออมมากกว่าจับจ่าย
รู้สึกผิดเวลาซื้อของที่ไม่จำเป็น
ใช้เงินน้อย แม้จะมีเงินเยอะแล้วก็ตาม
ความเสี่ยง: มองเงินเป็นหลักประกันชีวิตมากไป จนอาจพลาดโอกาสใช้เงินเพื่อสร้างความสุขหรือประสบการณ์ใหม่ๆ
---
2. “นักเยียวยา” – ใช้เงินเพื่อรู้สึกดีขึ้น
นิยามตัวเองว่า: “เหนื่อยก็ต้องให้รางวัลตัวเองหน่อย”
ช้อปเวลารู้สึกเครียด เบื่อ หรือเหงา
เชื่อว่าการใช้เงินคือวิธีปลอบใจ
บางครั้งใช้จ่ายโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า
ความเสี่ยง: เงินหายไปกับอารมณ์ชั่วคราว ความสุขไม่ยั่งยืน และรู้สึกผิดทีหลัง
---
3. “นักโชว์” – ใช้เงินสร้างภาพลักษณ์
นิยามตัวเองว่า: “ต้องให้คนเห็นว่าเรามีตัวตน มีคุณค่า”
ใช้เงินกับของที่โชว์ได้: เสื้อผ้า แบรนด์ รถ
วัดคุณค่าตัวเองจากสิ่งที่คนอื่นเห็น
กังวลว่าจะ “ดูแย่” ถ้าไม่มีของบางอย่าง
ความเสี่ยง: ใช้ชีวิตตามสายตาคนอื่น เงินจึงมักหมดไปกับสิ่งที่ไม่ได้เติมเต็มจริงๆ
---
4. “นักเสี่ยง” – รวยเร็ว หรือหมดตัวเร็ว
นิยามตัวเองว่า: “ชีวิตต้องเดิมพัน ถึงจะเร้าใจ”
ชอบลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูง
ไม่กลัวการขาดทุน เพราะเชื่อว่าทำได้ดีกว่า
ไม่ชอบเก็บออม เพราะมองว่าไม่ตื่นเต้น
ความเสี่ยง: ถ้าไม่จัดการความเสี่ยงอย่างมีวินัย อาจเจ็บหนักทางการเงิน
---
5. “นักเพิกเฉย” – เงินคือเรื่องปวดหัว
นิยามตัวเองว่า: “ไม่อยากคิดเรื่องเงิน มันเครียด”
ไม่ค่อยวางแผน ไม่รู้สถานะทางการเงินของตัวเอง
หลีกเลี่ยงการดูบัญชี หรือวางงบประมาณ
ใช้จ่ายตามใจ ไม่สนใจอนาคต
ความเสี่ยง: ขาดการควบคุม อาจเจอปัญหาเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือเมื่ออายุมากขึ้น
---
แล้วคุณล่ะ? อยู่ในกลุ่มไหน?
หลายคนมีมากกว่า 1 บุคลิกในเวลาเดียวกัน และบางช่วงชีวิตก็เปลี่ยนแปลงได้
สิ่งสำคัญไม่ใช่ว่า “แบบไหนดีที่สุด”
แต่คือการ รู้เท่าทันตัวเอง แล้วเลือกวิธีใช้เงินที่สอดคล้องกับชีวิตในแบบที่เราต้องการจริงๆ
---
บุคลิกทางการเงินเป็นเหมือนเข็มทิศเงียบๆ ที่คอยนำทางเราตลอดเวลา
ยิ่งรู้จักมันเร็วเท่าไร ยิ่งมีโอกาสเลือกเส้นทางที่มั่นคงและมีความสุขได้มากเท่านั้น
> เพราะสุดท้าย...เงินไม่ใช่แค่เรื่องคณิตศาสตร์
แต่มันคือเรื่องของ “มนุษย์” ด้วยเสมอ
---
โฆษณา