12 มิ.ย. เวลา 05:22 • ไลฟ์สไตล์

ทัักษะแห่งอนาคต นี่แหละ! สิ่งที่คุณต้องรู้ตอนนี้เพื่อไปได้ไกลในอาชีพ

เคยรู้สึกไหมว่าโลกการทำงานมันเปลี่ยนเร็วเว่อร์จนบางทีเราก็ตามไม่ทัน? บางทีก็แอบคิดในใจว่า "เฮ้ย! ทักษะที่เรามีอยู่ตอนนี้มันจะพอใช้ในอนาคตจริงๆ เหรอ?"
ถ้าคุณเคยมีความคิดแบบนี้ ไม่ต้องกังวลเลยครับ เพราะคุณไม่ได้อยู่คนเดียว การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่มันคือ โอกาสทอง สำหรับคนที่พร้อมจะเรียนรู้และปรับตัว ซึ่งที่จริงแล้ว โลกของเรากำลังหมุนเร็วขึ้นทุกวัน
ด้วยหลายๆ อย่างที่เข้ามาเปลี่ยนเกม ไม่ว่าจะเป็น AI (ปัญญาประดิษฐ์) กับ ระบบอัตโนมัติ (Automation) ที่เริ่มเข้ามาช่วย (หรือบางทีก็แทนที่) งานบางอย่างที่ต้องทำซ้ำๆ ทำให้เรามีเวลาไปโฟกัสกับเรื่องที่ซับซ้อนกว่า หรือการที่โลกมันเชื่อมโยงกันหมด ทำให้เราทำงานได้จากทุกที่
รวมถึงการทำงานแบบ Hybrid ที่บางวันอยู่บ้าน บางวันเข้าออฟฟิศ นี่แหละคือตัวเปลี่ยนที่ทำให้การทำงานของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้บางคนรู้สึกงงๆ ว่าจะเอายังไงต่อดี แต่ในทางกลับกัน มันก็เปิดประตูบานใหญ่ให้กับคนที่มีความเข้าใจและพร้อมจะพัฒนา "ทักษะใหม่ๆ" ที่จำเป็น ทักษะเหล่านี้
ไม่ใช่แค่เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณ "รอด" ไปวันๆ นะครับ
แต่มันคือขุมพลังที่จะปลดล็อกศักยภาพในตัวคุณ และพาคุณก้าวไปข้างหน้าในสายอาชีพได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฉะนั้น การเรียนรู้ไปตลอดชีวิต (Lifelong Learning) ก็เลยไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู อีกต่อไปแล้ว
แต่มันคือสิ่งที่เราต้องทำถ้าอยากไปต่อได้ในยุคนี้จริงๆครับ
เจาะลึก! 5 กลุ่มทักษะแห่งอนาคตที่คุณต้องมีติดตัว
เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดๆ ว่าต้องโฟกัสไปที่ทักษะแบบไหน ผมขอแบ่งทักษะสำคัญๆ ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกต่างบอกว่าจำเป็นโคตรๆ ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ๆ ดังนี้ครับ
กลุ่มที่ 1: ทักษะด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี (Digital & Tech Literacy) – ใช้เป็นไม่ได้แปลว่ารู้
ในยุคที่อะไรๆ ก็เป็นดิจิทัลไปหมด การมีความรู้ความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีจึงเป็นพื้นฐานเลยล่ะครับ ไม่ใช่แค่เปิดคอมฯ เล่นเน็ตได้นะ แต่มันรวมถึงการเข้าใจและเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้งานของเราปังขึ้น
* เข้าใจดิจิทัลขั้นพื้นฐาน (Digital Literacy): ไม่ต้องเป็นโปรแกรมเมอร์ก็ได้ครับ แค่เข้าใจว่าแพลตฟอร์มต่างๆ ทำงานยังไง, รู้เรื่อง ความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อปกป้องข้อมูลของเรา, แล้วก็ใช้เครื่องมือดิจิทัลสำหรับการทำงานร่วมกันเป็นทีมให้คล่อง (เช่น Google Workspace, Microsoft 365, Trello) แค่นี้ก็กินขาดแล้ว
* วิเคราะห์ข้อมูลเป็น (Data Analysis): ข้อมูลนี่แหละคือทองคำของยุคนี้ครับ การที่เราเข้าใจ ตีความ และเอาข้อมูลมาใช้ตัดสินใจอะไรต่างๆ ได้ มันคือแต้มต่อมหาศาลเลยล่ะครับ อาจจะไม่ต้องถึงขั้นเป็น Data Scientist มืออาชีพ แค่ใช้ Excel, Power BI หรือ Google Sheets จัดการข้อมูลเบื้องต้นได้ ก็ถือว่าเยี่ยมแล้วครับ
* เข้าใจ AI และ Automation: AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนวิธีการทำงานในทุกวงการเลยนะ การที่เราเข้าใจว่า AI ทำอะไรได้บ้าง มีข้อจำกัดตรงไหน แล้วจะเอา AI มาช่วยงานเราได้ยังไง (เช่น ให้ AI ช่วยเขียนคอนเทนต์, ให้มันทำงานซ้ำๆ แทนเรา) จะช่วยให้คุณทำงานได้ไวขึ้นเยอะเลยล่ะ
* รู้จักเทคโนโลยีใหม่ๆ (Emerging Tech Awareness): เปิดใจเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังมาแรง เช่น Cloud Computing, Blockchain หรือแม้กระทั่ง Metaverse (ในแง่ของโอกาสทางธุรกิจนะ) เพื่อที่เราจะได้ไม่ตกยุค
กลุ่มที่ 2: ทักษะการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาซับซ้อน (Critical Thinking & Complex Problem-Solving) – คิดให้ลึก แก้ให้ตรงจุด
ในยุคที่ข้อมูลท่วมหัว แถมปัญหาก็ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ การคิดอย่างมีเหตุผลและหาทางแก้ปัญหาให้เป็น จึงเป็นอะไรที่สำคัญสุดๆ เลยครับ
* คิดแบบมีวิจารณญาณ (Critical Thinking): พูดง่ายๆ คือไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ครับ ต้องรู้จักตั้งคำถาม ประเมินข้อมูลข่าวสารต่างๆ อย่างมีเหตุผล โดยเฉพาะยุคนี้ที่มีข่าวปลอมเยอะแยะไปหมด
* แก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ (Complex Problem-Solving): ปัญหาเดี๋ยวนี้มันไม่ได้ง่ายๆ เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ ทักษะนี้คือการที่เราสามารถระบุปัญหาที่แท้จริงได้, วิเคราะห์หาต้นเหตุอย่างรอบด้าน, แล้วก็คิดวิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ แม้ว่าปัญหาจะไม่มีคำตอบตายตัวก็ตาม
* ตัดสินใจเก่ง (Decision Making): การใช้ข้อมูล เหตุผล และประสบการณ์ของเรามาประกอบการตัดสินใจในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
กลุ่มที่ 3: ทักษะความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม (Creativity & Innovation) – สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ไม่ซ้ำใคร
ถึง AI จะเก่งแค่ไหนในการประมวลผลข้อมูล แต่เรื่องของความคิดสร้างสรรค์และไอเดียเจ๋งๆ ยังไงก็เป็นของมนุษย์ครับ และนี่แหละคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้เราแตกต่าง
* คิดสร้างสรรค์ (Creativity): คือการคิดนอกกรอบนั่นแหละครับ สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ที่แตกต่าง มีคุณค่า และเอาไปต่อยอดได้
* สร้างนวัตกรรมได้ (Innovation): ไม่ใช่แค่คิดไอเดียนะ แต่คือการเอาไอเดียเจ๋งๆ มาพัฒนาให้กลายเป็นสิ่งใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการ หรือแก้ปัญหาให้คนอื่นได้จริงๆ
* คิดเชิงออกแบบ (Design Thinking): กระบวนการคิดที่เน้นเอาผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง เพื่อทำความเข้าใจปัญหาและความต้องการที่แท้จริง ก่อนจะสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง
กลุ่มที่ 4: ทักษะด้านมนุษย์และการทำงานร่วมกับผู้อื่น (Human & Collaboration Skills) – มนุษย์สัมพันธ์ดี งานก็ราบรื่น
ไม่ว่าเทคโนโลยีจะไปไกลแค่ไหน ทักษะความเป็นมนุษย์ยังไงก็ยังสำคัญเสมอครับ เพราะงานในอนาคตจะยิ่งซับซ้อน และต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น
* ฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence - EQ): เข้าใจอารมณ์ตัวเอง และเข้าใจความรู้สึกของคนอื่นด้วย ซึ่งสำคัญมากๆ ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดี, แก้ไขปัญหาความขัดแย้ง, และทำงานเป็นทีมได้อย่างราบรื่น
* ทำงานร่วมกันเป็นทีม (Collaboration & Teamwork): โลกยุคใหม่ต้องการความร่วมมือระหว่างทีมงาน, แผนก, หรือแม้แต่องค์กรที่แตกต่างกัน การทำงานร่วมกับผู้อื่น, รับฟังความคิดเห็น, และช่วยเหลือกันและกัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นสุดๆ
* สื่อสารได้ดี (Effective Communication): ไม่ว่าจะพูด เขียน หรือนำเสนอ ต้องชัดเจน เข้าใจง่าย โน้มน้าวใจได้ และปรับให้เข้ากับคนที่เราคุยด้วย
* มีภาวะผู้นำ (Leadership): ไม่ใช่แค่ตำแหน่งนะ แต่คือการที่คุณสามารถสร้างแรงบันดาลใจ, ชี้ทาง, และผลักดันให้คนอื่นบรรลุเป้าหมายได้ รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาและแก้ปัญหาให้ทีมด้วย
* ปรับตัวเก่งและยืดหยุ่น (Adaptability & Resilience): โลกเปลี่ยนไว เราก็ต้องพร้อมที่จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ, เรียนรู้จากความผิดพลาด, แล้วก็ลุกขึ้นยืนใหม่ได้เร็วเมื่อเจออุปสรรค
กลุ่มที่ 5: ทักษะการเรียนรู้และการพัฒนาตนเอง (Learning & Self-Development) – ไม่หยุดเรียนรู้ ไม่มีวันแก่
หัวใจสำคัญของการก้าวหน้าในอนาคตก็คือการไม่หยุดนิ่ง และพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลานี่แหละครับ
* เรียนรู้แบบรุก (Active Learning): ไม่ใช่แค่รับข้อมูลเข้ามาเฉยๆ แต่ต้องเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และลองเอาไปใช้จริงด้วย
* ขี้สงสัย (Curiosity): เปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตั้งคำถามอยู่เสมอ และหาความรู้เพิ่มเติม เพราะความรู้เก่ามีวันหมดอายุนะ
* มีวินัยในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง (Self-Discipline for Learning): จัดสรรเวลา วางแผนการเรียนรู้ แล้วก็หาความรู้เพิ่มเติมด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
แล้วจะพัฒนาทักษะพวกนี้ได้ยังไงล่ะ?
เมื่อรู้แล้วว่าทักษะไหนสำคัญ ทีนี้มาดูวิธีพัฒนาทักษะพวกนี้กันดีกว่าครับ รับรองว่าทำได้จริง!
* เรียนออนไลน์เลย: เดี๋ยวนี้มีคอร์สดีๆ เยอะแยะไปหมด ทั้ง Coursera, edX, Udemy หรือแม้แต่ SkillLane ของไทย เลือกคอร์สที่ตรงกับทักษะที่คุณอยากพัฒนาได้เลยครับ
* อ่านให้เยอะ: ติดตามข่าวสารและเทรนด์ใหม่ๆ ในวงการของคุณ อ่านหนังสือที่ช่วยพัฒนาความคิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Critical Thinking, ความคิดสร้างสรรค์ หรือ EQ ก็ได้หมด
* ไป Workshop/สัมมนา: ลองไปเข้าร่วมเวิร์กช็อปหรือสัมมนาต่างๆ ดูครับ นอกจากจะได้ความรู้แล้ว ยังได้เจอคนใหม่ๆ สร้างคอนเนกชั่นดีๆ ด้วยนะ
* ลงมือทำจริง: ทักษะมันก็เหมือนกล้ามเนื้อนี่แหละครับ ยิ่งใช้ยิ่งแข็งแรง ลองเอาทักษะที่เรียนมาลองใช้จริงในโปรเจกต์ส่วนตัว, งานอาสา, หรือแม้แต่งานประจำของคุณเอง
* ขอ Feedback: อย่ากลัวที่จะถามเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า หรือผู้เชี่ยวชาญว่าคุณควรปรับปรุงตรงไหนบ้าง คำแนะนำพวกนี้จะช่วยให้คุณพัฒนาได้เร็วขึ้นเยอะเลย
* สร้างคอนเนกชั่น (Networking): ลองเชื่อมต่อกับคนในหลากหลายอาชีพดูครับ การได้แลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และมุมมอง จะช่วยเปิดโลกและเสริมสร้างทักษะของคุณได้มากเลยล่ะ
เอาล่ะครับ! ในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาแบบนี้
การพัฒนาทักษะแห่งอนาคตก็เลยกลายเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ สำหรับการทำงานและการใช้ชีวิตของเราไปแล้ว ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ หรือทำงานอะไรอยู่ ก็สามารถเริ่มต้นพัฒนาทักษะพวกนี้ได้ตั้งแต่วันนี้เลยนะครับ
ทักษะเหล่านี้ไม่ได้แค่ช่วยให้คุณ "รอด" ในโลกที่ผันผวน
แต่ยังเป็นพลังที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ, แก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนและทำงานร่วมกับคนอื่นได้อย่างยอดเยี่ยม
จำไว้เสมอนะครับ ว่าการลงทุนในทักษะคือการลงทุนที่ดีที่สุดในตัวคุณเองครับ
จงเปิดใจเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
กล้าที่จะก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัย
แล้วคุณจะค้นพบว่าคุณไม่เพียงแค่ "เอาตัวรอด"
ได้ในอนาคต
แต่คุณจะ "โดดเด่น" และ "ก้าวหน้า" ในอาชีพการงานได้อย่างที่คุณคาดไม่ถึงเลยล่ะครับ!
นักเขียนภูธร
โฆษณา