13 มิ.ย. เวลา 01:19 • ประวัติศาสตร์

วิกฤตและความหวัง: เรื่องราวของคิวบาใน "Special Period" ยุค 90

ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 คิวบาได้เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และความยากลำบากทางเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็น **"Special Period in Time of Peace"** หรือ "ช่วงเวลาพิเศษในยามสงบ" วิกฤตการณ์นี้เกิดขึ้นจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียตและการสิ้นสุดของกลุ่ม Comecon (สภาความช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางเศรษฐกิจ) ทำให้คิวบาถูกตัดขาดจากการสนับสนุนและทรัพยากรสำคัญที่เคยพึ่งพามานานหลายทศวรรษ
ผลกระทบนั้นรุนแรงและเกิดขึ้นในทันที เชื้อเพลิงขาดแคลน เสบียงอาหารลดน้อยลง และชีวิตประจำวันของผู้คนก็ถูกปรับเปลี่ยนด้วยความจำเป็นและความยืดหยุ่น ท่ามกลางวิกฤตนี้ ช่างภาพ **Michael G. Spafford** ได้เดินทางไปยังคิวบาในปี 1994 เพื่อบันทึกภาพชีวิตประจำวันในกรุงฮาวานาในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด ผลงานของเขาได้นำเสนอเรื่องราวอันทรงพลังของสังคมที่ต้องปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตโดยปราศจากสินค้าและบริการหลายอย่างที่เคยมีมานาน
ความรุนแรงของวิกฤต
ช่วงเวลาที่รุนแรงที่สุดของ Special Period อยู่ในช่วงต้นถึงกลางทศวรรษ 1990 การพึ่งพาการนำเข้าจากโซเวียตมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งปิโตรเลียม ทำให้คิวบาเปราะบางอย่างยิ่งเมื่อแหล่งอุปทานเหล่านั้นหมดไป ระบบการขนส่งหยุดชะงักลงเนื่องจากน้ำมันเบนซินและดีเซลหมดไป รถยนต์หายไปจากท้องถนน ถูกแทนที่ด้วยจักรยาน เกวียนที่ดัดแปลงขึ้นเอง และรถบัสที่แออัดที่รู้จักกันในชื่อ **"อูฐ"** (camels)
ไฟฟ้าถูกปันส่วน ทำให้หลายพื้นที่ต้องประสบกับภาวะไฟดับเป็นประจำ การปันส่วนอาหาร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตชาวคิวบาอยู่แล้ว ก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเมื่อวัตถุดิบหลักขาดแคลนมากขึ้น ความขาดแคลนอาหารเป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของช่วงเวลานั้น ระบบการปันส่วนของรัฐที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในคิวบาถูกผลักดันจนถึงขีดสุด สิ่งจำเป็นเช่นข้าว ถั่ว และน้ำมันปรุงอาหารหายากขึ้น เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมเกือบจะหายไปจากการบริโภคตามปกติ และประชาชนต้องหันไปหาแหล่งอาหารทางเลือกเพื่อความอยู่รอด
การปรับตัวและนวัตกรรม
ท่ามกลางความยากลำบาก การเกษตรในเมืองได้เจริญรุ่งเรือง ดาดฟ้า สวนสาธารณะ และที่ดินเปล่าถูกเปลี่ยนเป็นสวนผัก เพื่อนบ้านร่วมมือกันปลูกผัก เลี้ยงกระต่าย และปลูกสมุนไพรยา เปลี่ยนบางส่วนของกรุงฮาวานาให้กลายเป็นเครือข่ายฟาร์มขนาดเล็กที่พึ่งพาตนเองได้
ไฟฟ้าถูกปันส่วนเพื่อประหยัดพลังงานที่เหลืออยู่น้อยนิด ไฟดับเป็นประจำทุกวัน ทำให้บ้านเรือนและธุรกิจมืดสนิทเป็นเวลาหลายชั่วโมง ตู้เย็นไร้ประโยชน์หากไม่มีไฟฟ้า และหลายครอบครัวต้องหันไปใช้เตาน้ำมันก๊าดหรือถ่านในการปรุงอาหาร แม้แต่สุขอนามัยขั้นพื้นฐานก็ยังกลายเป็นเรื่องยากลำบาก ด้วยการตัดน้ำและไฟฟ้าที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทั้งหมด
ระบบการดูแลสุขภาพ แม้จะยังคงทำงานอยู่ แต่ก็ต้องปรับตัว เนื่องจากยาและอุปกรณ์ที่นำเข้าขาดแคลน แพทย์และพยาบาลจึงต้องพึ่งพาทรัพยากรและยาแผนโบราณ คลินิกชุมชนยังคงเปิดให้บริการ แต่ขั้นตอนทางการแพทย์หลายอย่างต้องล่าช้าหรือต้องใช้วิธีการดัดแปลงเนื่องจากขาดแคลนวัสดุ ระบบการศึกษาเองก็ตึงเครียดเช่นกัน โรงเรียนยังคงเปิดอยู่ แต่สื่อการเรียนรู้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ และห้องเรียนมักจะไม่มีไฟฟ้า
ความหวังที่ยังคงอยู่
ท่ามกลางสภาพที่เลวร้าย กรุงฮาวานายังคงเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา ผู้คนยังคงหาวิธีที่จะรักษาสภาพปกติ วัฒนธรรมบนท้องถนนยังคงอยู่ ดนตรีบรรเลงอยู่หน้าบ้าน และความสัมพันธ์ทางสังคมก็แน่นแฟ้นขึ้นเมื่อชุมชนร่วมมือกันเพื่อรับมือกับความท้าทายในแต่ละวัน เรื่องราวของ Special Period ในคิวบาจึงเป็นบทเรียนอันทรงคุณค่าเกี่ยวกับการปรับตัว ความยืดหยุ่น และจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ของมนุษย์ยามเผชิญวิกฤตการณ์
โฆษณา