🧲🇺🇸 ดีลแรร์เอิร์ธ “ทรัมป์-จีน” สำเร็จแล้ว! สหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการวีซ่า-จีนกลับมาส่งออกแร่หายาก
Trump Seals Rare Earths Deal with China Amid Tariff Tensions
📌 สรุปสถานการณ์ล่าสุด
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่า “ดีลกับจีนเสร็จสมบูรณ์แล้ว” โดยจีนจะกลับมาส่งออกแร่หายาก (rare earths) และแม่เหล็กสำคัญให้กับบริษัทอเมริกัน ขณะที่สหรัฐฯ จะผ่อนคลายมาตรการบางอย่าง รวมถึงยกเลิกแผนเพิกถอนวีซ่านักเรียนจีน
🛠 การเจรจาเกิดขึ้นที่กรุงลอนดอนตลอด 2 วัน เพื่อคลี่คลายความตึงเครียดจากสงครามการค้า ก่อนเส้นตาย 9 ก.ค. ที่สหรัฐฯ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสูงถึง 55% หากไม่บรรลุข้อตกลง
📞 ผู้นำ 2 ประเทศไฟเขียวเบื้องต้น
🔹 ประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้หารือทางโทรศัพท์เมื่อ 5 มิ.ย. ก่อนจะมีการเจรจาระดับเจ้าหน้าที่
🔹 ข้อตกลงนี้ถือเป็น "กรอบเบื้องต้น" (framework) เพื่อเดินหน้าจาก “ข้อตกลงเจนีวา” เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ลดภาษีนำเข้าทั้ง 2 ฝ่าย และให้เวลา 90 วันในการเจรจาเต็มรูปแบบ
💬 สาระสำคัญของข้อตกลงใหม่
🌍 จีนจะส่งออกแร่หายากและแม่เหล็กให้กับสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
✈️ สหรัฐฯ ยกเลิกแผนจำกัดวีซ่านักศึกษาจีน
📉 ยังไม่ยกเลิกภาษีทั้งหมด โดยภาษี 55% ที่ทรัมป์พูดถึงนั้น รวมจากนโยบายในอดีตด้วย
🧮 ยังไม่มีรายละเอียดข้อตกลงฉบับเต็มในตอนนี้
📊 ตลาดโลกและคำเตือน
แม้จะมีการประกาศ “ดีล” แล้ว แต่นักวิเคราะห์มองว่าข้อตกลงนี้ยัง “ขอบเขตจำกัด” และอาจไม่เพียงพอในการหยุดความขัดแย้งเชิงลึกระหว่าง 2 มหาอำนาจ
📉 ตลาดหุ้นและตลาดสินค้าแทบไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อข่าวนี้ เพราะยังคงขาดรายละเอียดสำคัญ และยังไม่มีการลงนามจากผู้นำทั้ง 2 อย่างเป็นทางการ
🇹🇭 วิเคราะห์ผลกระทบต่อประเทศไทย
💡 ประเทศไทยในฐานะประเทศผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ อาจได้รับอานิสงส์จากการที่จีนกลับมาส่งออกแร่หายากและแม่เหล็ก ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในห่วงโซ่การผลิตของโลก
🪙 หากความขัดแย้งระหว่างจีน-สหรัฐฯ คลี่คลาย โรงงานผลิตชิ้นส่วนในไทยจะสามารถรักษาเสถียรภาพของ supply chain ได้ดียิ่งขึ้น และอาจดึงดูดการลงทุนใหม่จากต่างประเทศ
📈 หุ้นในตลาดไทยที่อาจได้รับผลกระทบ (อ้างอิงจาก StockAtlas)
🔸 HANA – ธุรกิจ: ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
→ ได้อานิสงส์จาก supply chain ที่ฟื้นตัว หากจีนส่งออกแร่หายากได้ต่อเนื่อง ราคาวัตถุดิบมีเสถียรภาพมากขึ้น
🔸 KCE – ธุรกิจ: แผงวงจรพิมพ์ (PCB)
→ ใช้วัตถุดิบแม่เหล็กและแร่หายากบางชนิด ดีลนี้ช่วยลดความเสี่ยงด้านต้นทุน
🔸 DELTA – ธุรกิจ: ระบบจ่ายพลังงานและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
→ หากจีนปลดล็อกการส่งออกวัสดุสำคัญ จะช่วยสนับสนุนการผลิตของ DELTA อย่างต่อเนื่อง
🔸 EA – ธุรกิจ: ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และแบตเตอรี่
→ แม่เหล็กชนิดพิเศษเป็นวัสดุหลักในมอเตอร์ EV ดีลนี้ช่วยลดแรงกดดันด้าน supply chain และอาจช่วยหนุนการส่งออก EV จากไทยในระยะกลาง
🔸 NRF – ธุรกิจ: เทคโนโลยี AI และ IoT เชิงอาหาร
→ หากสหรัฐฯ ผ่อนคลายมาตรการกับจีนในเทคโนโลยี AI อาจทำให้การนำเข้าเทคโนโลยีถูกลงและเปิดตลาดใหม่
🔸 ROJNA, AMATA, WHA – ธุรกิจ: นิคมอุตสาหกรรม
→ หากเกิดการเคลื่อนย้ายฐานการผลิตจากจีนบางส่วนมายังอาเซียน (รวมไทย) หุ้นกลุ่มนิคมฯ จะได้ประโยชน์
🎯 บทสรุป
ดีล "แร่หายาก" ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ถือเป็นก้าวแรกที่อาจช่วยลดแรงกดดันในสงครามการค้า แต่ยังไม่ใช่การฟื้นความสัมพันธ์โดยสมบูรณ์ ตลาดการเงินและผู้ผลิตทั่วโลก รวมทั้งไทยยังคงต้องจับตาเงื่อนไขข้อตกลงฉบับเต็มและพฤติกรรมของทั้ง 2 ประเทศในช่วงถัดไปอย่างใกล้ชิด
📅 เส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม จะเป็นอีกจุดตัดสำคัญ หากไม่มีการลงนามอย่างเป็นทางการ ความเสี่ยงเรื่องภาษีและ supply chain disruption อาจกลับมาอีกครั้ง
📌 Hashtags ที่เกี่ยวข้อง:
#TrumpXiDeal #RareEarths #USChinaTrade #TradeTensions #เศรษฐกิจโลก #สงครามการค้า #SoftPowerเศรษฐกิจ #หุ้นไทย #StockAtlas
📎 อ้างอิง: BBC News
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
