เมื่อวาน เวลา 08:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ

JPMorgan คาดราคาน้ำมัน พุ่งแตะ $130/บาร์เรล จาก $70 หากสงครามบานปลาย

‘อิสราเอล’ เปิดฉากถล่ม ‘โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน’ ราคาน้ำมันพุ่งแรงรอบ 4 ปี ฉุดตลาดน้ำมันผวา อิหร่านอาจตอบโต้เป้าหมายสหรัฐ-อิสราเอล JPMorgan ประเมินหากเหตุการณ์เลวร้ายสุดขีด ราคาน้ำมันอาจพุ่งแตะ 120–130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
1
หลังจาก “อิสราเอล” เปิดฉากโจมตีทางอากาศต่อ “อิหร่าน” โดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า ก็พุ่งขึ้นมากถึง 13%
ราคาน้ำมันดิบสหรัฐ West Texas Intermediate ล่าสุดเพิ่มขึ้น 9.66% แตะที่ 74.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมัน Brent ซึ่งเป็นเกณฑ์อ้างอิงทั่วโลก พุ่งขึ้น 9.27% สู่ระดับ 75.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นับเป็นการปรับตัวขึ้นรายวันที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020
เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงว่า อิสราเอลได้เริ่ม “ปฏิบัติการทางทหารแบบเฉพาะจุด” เพื่อโจมตีโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของอิหร่าน โดยเป้าหมายรวมถึงโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมหลักที่เมืองนาทานซ์ แหล่งรวมนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ระดับแนวหน้าของอิหร่าน และศูนย์กลางของโครงการขีปนาวุธของประเทศ
อิสราเอลประกาศว่า “ปฏิบัติการครั้งนี้จะดำเนินต่อไปตราบเท่าที่ยังมีภัยคุกคาม” หลังจากเปิดฉากโจมตีเป้าหมายด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธในอิหร่าน
ขณะเดียวกัน มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐยืนยันว่า อิสราเอลได้ดำเนินการ “โดยลำพัง” โดยไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ พร้อมเตือนอิหร่านอย่างชัดเจน ไม่ให้โจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐในภูมิภาค
“เรามิได้มีส่วนร่วมในการโจมตีอิหร่าน และสิ่งสำคัญสูงสุดของเราคือ การปกป้องกองกำลังสหรัฐในภูมิภาคนี้” รูบิโอกล่าวในแถลงการณ์ “อิสราเอลแจ้งเราว่า พวกเขาเชื่อการกระทำครั้งนี้ จำเป็นต่อการป้องกันตนเอง”
ขณะที่อิสราเอลเตรียมรับมือการตอบโต้ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินพิเศษทั่วประเทศ เพื่อรับมือความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธหรือส่งโดรนเข้าโจมตีตอบโต้
ขณะเดียวกัน สื่อของทางการอิหร่านรายงานว่า พล.อ.โฮสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการสูงสุดของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้
สถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าว ส่งผลให้ตลาดน้ำมันเกิดความกังวลว่า อิหร่านอาจตอบโต้ด้วยการโจมตีเป้าหมายของอิสราเอลหรือสหรัฐ ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหารครั้งใหญ่ และกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
แอนดี ไลโพว์ ประธานบริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงาน Lipow Oil Associates ระบุว่า “อิหร่านรู้ดีว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ความสำคัญกับราคาพลังงานที่ต่ำ” พร้อมเสริมว่า หากอิหร่านโจมตีแหล่งน้ำมันในตะวันออกกลาง จนส่งผลให้ราคาน้ำมันและน้ำมันดีเซลในสหรัฐพุ่งสูง อาจสร้างผลเสียทางการเมืองต่อทรัมป์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ซอล คาวอนิก หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านพลังงานจาก MST Marquee กล่าวเสริมว่า ตลาดน้ำมันที่ผ่านมา มักมองข้ามความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่เหตุการณ์ล่าสุดถือเป็น “เสียงเตือน” ว่า ความเสี่ยงเหล่านี้อาจใกล้ตัวและรุนแรงกว่าที่คาดไว้
“แน่นอนว่า เหตุโจมตีจะนำไปสู่การตอบโต้ในบางรูปแบบ ซึ่งอาจบานปลายได้ง่าย แม้จะไม่ได้ตั้งใจ” คาวอนิกกล่าว พร้อมเตือนว่า เหตุการณ์นี้อาจยิ่งผลักดันกลุ่มสายแข็งในอิหร่านให้เลือกแนวทางเผชิญหน้า และยกระดับความขัดแย้งต่อไป
ด้านธนาคาร JPMorgan ยังคงประมาณการราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปี 2025 ให้อยู่ในช่วง “ต้นถึงกลาง 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล” แม้สถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างอิหร่าน สหรัฐ และอิสราเอลจะทวีความรุนแรงขึ้น
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี JPMorgan ระบุว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยในปี 2026 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเช่นกัน แต่ธนาคารเตือนว่า หากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายสุดขีด เช่น ความขัดแย้งทางทหารเต็มรูปแบบ หรือการปิดช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านของน้ำมันโลกกว่า 20% ราคาน้ำมันอาจพุ่งแตะระดับ 120–130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
โฆษณา